กรณีพ.ต.อ.สันติ ชูเชิด ผกก.สภ.นาจอมเทียน นำกำลังชุดสืบสวนปราบปราม เข้าจับกุมตัว น.ส.ทิพวรรณ สืบสุวรรณ อายุ 32 ปี ขณะกำลังก่อเหตุลักตัดสายไฟส่องสว่าง บนถนนสุขุมวิท บริเวณหน้า Legend Siam (เลเจนด์ สยาม) พัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนส่งดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่การทางว่า สายไฟที่ใช้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้หลอดไฟส่องสว่าง ติดตั้งอยู่บนแท่นแบริเออร์เกาะกลางถนนในระหว่างซ่อมแซมถนนนั้น ถูกโจรกรรมบ่อยครั้งในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้หน่วยงานได้รับความเสียหาย และบริเวณดังกล่าวไม่มีแสงไฟส่องสว่าง อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าติดตาม ก่อนสามารถจับกุมตัวน.ส.ทิพวรรณ ขณะก่อเหตุดังกล่าว
ในเบื้องต้น ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ทำมาแล้ว 2 ครั้ง เพราะต้องการนำสายไฟไปขายแลกเงิน เพื่อนำไปซื้อนมผงให้ลูกที่เพิ่งคลอดได้เพียง 7 เดือน ส่วนสาเหตุที่เลือกเป็นโจร เพราะตกงานทั้งสามีและภรรยา จึงไม่มีเงินจุนเจือครอบครัวให้อยู่รอดได้
ล่าสุดวันที่ 29 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่าตำรวจได้นำตัว น.ส.ทิพวรรณ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชลบุรี ขณะที่ตำรวจนำตัวขึ้นรถคุมขัง ทีมข่าวมีโอกาสสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ น.ส.ทิพวรรณ อีกครั้ง
โดยน.ส.ทิพวรรณ ได้แต่ร้องไห้ ก่อนจะยอมรับว่า ทำไปเพราะต้องการหาเงินซื้อนมให้ลูกจริง ๆ และทำมา 2 ครั้งแล้ว ขณะนี้ลูกอยู่กับสามีที่บ้าน ทีมข่าวจึงสอบถามว่า "อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลลูกให้หรือไม่" แต่น.ส.ทิพวรรณ กลับตอบว่า "ไม่อยากให้ใครเข้าไปดูแลลูกให้ทั้งนั้น กลัวว่าลูกจะถูกทำร้าย เข็ดแล้วหลังจากนี้ออกจากคุกมาจะไม่ทำอีกค่ะ"
ทีมข่าวจึงประสานขอความช่วยเหลือไปที่ นางมนัสนันท์ ศุภพิทักษ์กุล ผอ.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ให้เข้าไปช่วยเหลือลูกของ น.ส.ทิพย์วรรณ โดยนางมนัสนันท์ กล่าวตอบรับให้ความช่วยเหลือ และขอตรวจสอบประวัติของ น.ส.ทิพย์วรรณ อย่างละเอียด จึงพบว่า น.ส.ทิพย์วรรณ ไม่มีประวัติการก่อคดีมาก่อน และมีลูกที่จะต้องดูแลถึง 4 คน ดังต่อไปนี้ คนที่ 1 เป็นผู้หญิง อายุ 12 ปี คนที่ 2 เป็นผู้ชาย อายุ 7 ปี คนที่ 3 เป็นผู้ชาย อายุ 3 ปี และคนสุดท้อง อายุ 7 เดือน จึงให้ความเมตตาใช้ตำแหน่งเดินทางไปประกันตัว น.ส.ทิพย์วรรณ ที่ศาลจังหวัดชลบุรี
อย่างไรก็ตาม มีรายงานแจ้งว่า เวลา 16.30 น. ศาลจังหวัดชลบุรีได้อนุญาตให้ประกันตัว น.ส.ทิพย์วรรณ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้ตำแหน่งของ ผอ.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ในวงเงินจำนวน 550,000 บาท และน.ส.ทิพย์วรรณ จะได้รับการปล่อยตัวในช่วงค่ำของวันนี้ หลังจากนี้ นางมนัสนันท์ ก็จะช่วยเหลือครอบครัวและหางานให้กับ น.ส.ทิพย์วรรณ ร่วมไปถึงสามีที่กำลังตกงานอยู่ด้วย
น.ส.ทิพย์วรรณ เปิดใจว่า ตนรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ได้กลับออกมาเจอลูก ส่วนเหตุผลที่ต้องก่อเหตุก็เป็นเพราะว่าไม่มีเงินจะซื้อนมให้ลูก จึงลงมือก่อเหตุไป 2 ครั้ง ครั้งแรกเอาสายไฟไปขายได้เงินมา 550 บาท ก่อนจะเอาใช้เงินซื้อนมซื้อข้าวให้ลูกกิน ส่วนครั้งที่ 2 ยังไม่ทันเอาสายไฟไปขายก็โดนจับเสียก่อน ก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพเก็บผักและหาปูนาขาย แต่เก็บมาก็ไม่มีคนซื้อ สามีก็ตกงาน ลูกไม่มีนมกิน ก็เลยตัดสินใจก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนขอสัญญาว่า จะไม่ทำอีกแล้ว และจะตั้งใจทำงานที่ น.ส.ทิพย์วรรณ หาให้ทั้งตนและสามี เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูลูก ๆ ส่วนสามีของ น.ส.ทิพย์วรรณ บอกเพียงว่าดีใจที่มีคนมาช่วยภรรยาออกมา ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เลยว่าภรรยาไปก่อเหตุเพื่อนำเงินมาซื้อนมให้ลูก จากนี้ไปจะช่วยกันตั้งใจทำงานและดูแลลูกให้ดีที่สุด