กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวว่าวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเด็ก 8 ขวบ อ้างว่าเด็กโดนเจ้าของโต๊ะสนุกเกอร์ ล่วงละเมิดทางเพศ และใช้เงิน จำนวน 40,000 บาท ฟาดหัวพ่อแม่เด็กหวังจะให้จบเรื่องไม่ต้องเป็นคดีความแต่อย่างใด
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ระบุว่า "เรื่องมีอยู่ว่ามีเจ้าของโต๊ะสนุก (อายุ 59) กระทำการข่มขืน กระทำชำเราเด็ก 8 ขวบทางปาก 2 คน และอนาจารให้เด็กแก้ผ้าก่อเหตุแบบนี้มาหลายครั้ง โดยใช้อุบายว่าจะให้เล่นพุไฟ จะให้เล่นโทรศัพท์ และจะให้เงิน เด็ก 8 ขวบทั้ง 2 คน ก็หลงเชื่อยอมทำตามทุกอย่าง เด็กทั้ง 2 คนนั้นเป็นลูกเพื่อนผมเอง เรื่องทั้งหมดถูกเปิดเผยจากเมียเจ้าของโต๊ะสนุกเกอร์เองนั้นแหละ เพราะว่าเมียด่าเด็ก 8 ขวบว่า ทำไมไปให้ท่าผัวเขา จนเด็กร้องไห้จึงสารภาพทั้งหมดว่า โดนเจ้าของโต๊ะสนุกทำอะไรบ้าง สุดท้ายผู้ปกครองของเด็กยอมจบเรื่องทั้งหมดแค่เงิน 40,000 ไม่แจ้งความ ไม่เอาเรื่อง ยังคงพาเด็ก 8 ทั้ง 2 คนมาโต๊ะสนุกเหมือนไม่มีอะไรเกิด"
ล่าสุดวันที่ 2 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านของผู้ร้องเรียน ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายภาคิน เหมพันธุ์ อายุ 50 ปี เปิดเผยว่า เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้วตนไปรู้เรื่องของคนดูแลโต๊ะสนุกรายหนึ่งที่อยู่ใกล้บ้าน เขาอายุประมาณ 50 ปี กระทำชำเราเด็กอายุ 8 ขวบ จำนวน 2 คน ด้วยการหลอกล่อเด็ก นำพลุไฟมาเป็นข้อแลกเปลี่ยน และยังขู่เด็กห้ามไปบอกใคร
แต่เรื่องนี้กลับแดงขึ้นมา เพราะเมียคนดูแลโต๊ะสนุก มาด่าเด็ก 8 ขวบว่า "ทำไมไปให้ท่าผัวพี่" ก่อนจะโวยวายใส่เด็กจนทำให้ร้องไห้ เด็กจึงสารภาพทั้งหมดว่าถูกเจ้าของโต๊ะสนุกทำอะไรบ้าง สุดท้ายผู้ปกครองของเด็กยอมจบเรื่องทั้งหมดแค่เงิน 40,000 โดยไม่ไปแจ้งความ ไม่เอาเรื่อง และยังคงพาเด็ก 8 ขวบ ทั้ง 2 คนมาโต๊ะสนุกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"สำหรับเรื่องนี้ที่ต้องออกมาเปิดเผย เป็นเพราะผมทนไม่ได้ที่เด็กต้องถูกกระทำแบบนี้ ซึ่งเมื่อคืนนี้เมียของคนดูและโต๊ะสนุก ยังเยาะเย้ยผมว่า เป็นไงใครจะมาเอาเรื่องได้ คนมีเงินซะอย่าง จะทำอะไรก็ได้ ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้ปรึกษากับทีมสายไหมต้องรอดแล้ว และจะพาตัวพ่อแท้ ๆ ของเด็กไปแจ้งความเอาผิดคนดูแลโต๊ะสนุก เพราะหากปล่อยไว้เด็กคนอื่น ๆ อาจจะตกเป็นเหยื่อถูกกระทำเหมือนเด็กทั้ง 2 คนนี้ครับ" นายภาคิน กล่าว
จากนั้นเวลา 11.00 น. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้เข้าไปช่วยเหลือเด็กทั้ง 2 คนแล้ว หลังจากครอบครัวของเด็กให้ความร่วมมือไปแจ้งความ ที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี โดยในวันนี้ นายเอกภพ ได้พาพ่อของ ด.ญ.เอ เข้าไปแจ้งความที่โรงพักก่อน ก่อนที่จะไปแจ้งความ นายเอกภพ ต้องกล่อมพ่อเด็กอยู่นาน เนื่องจากเด็กอยู่ในความดูแลของอดีตภรรยา และจะขอปรึกษาครอบครัวภรรยาก่อน นายเอกภพจึงโทรศัพท์ไปพูดคุยกับ ยายของ ด.ญ.เอ ว่าให้พาเด็กเข้าไปแจ้งความ และจะเอาผิดทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้เด็กได้รับความเสียหาย
ต่อมาเวลา 12.00 น. ญาติได้นำตัวเด็กทั้ง 2 คน เข้ามาพบกับพ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต โดยมีเจ้าหน้าที่จาก พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมการสอบปากคำด้วย ซึ่งการสอบสวนเด็กเล่าให้ พ.ต.อ.มนัสเวท อย่างละเอียด ว่าถูกทำอะไรบ้าง จนทำให้พ.ต.อ.มนัสเวท ทนฟังไม่ได้ สั่งการให้ร้อยเวรเจ้าของคดี ไปขออนุมัติศาลออกหมายจับ ในข้อหา 3 ข้อหาคือ 1.กระทำชำเราแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี 2.พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อทำการอนาจาร 3.พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ทราบชื่อต่อมา นายบรรทม อุลิต อายุ 59 ปี หลังจากได้หมายจับ พ.ต.อ.มนัสเวท จึงเรียกชุดสืบสวนมาวางแผนเพื่อเข้าจับกุม นายบรรทม โดยให้พ่อเลี้ยงของเด็กโทรศัพท์หานายบรรทม เพื่อนัดให้นายบรรทม ออกมาเพื่อให้ตำรวจคุมตัว
หลังจากนั้น ตำรวจชุดสืบสวน ของ สภ.คูคต ได้ไปรวบตัวนายบรรทม ได้ที่บริเวณหน้าวัดปัญจทายิกาวาส ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ขณะที่ตำรวจลงรถไปคุมตัว นายบรรทมไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด และบอกว่ากำลังจะไปมอบตัว ซึ่งหลังจากตำรวจคุมตัว นายบรรทม มาที่โรงพัก นายบรรทม ก็ยังไม่ขอพูดอะไร บอกแต่เพียงว่า ขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก นายภาคิน พลเมืองดีที่อยู่ใกล้บ้านและเห็นเหตุการณ์ว่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ และ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ ลูกหลานของคนในชุมชนพระสิทธิ์ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทราบว่าถูกกระทำมาแล้วหลายครั้ง โดยพ่อ แม่ ไม่กล้าแจ้งความเนื่องจากถูกข่มขู่และเกรงกลัวอิทธิพล จึงขอให้ตนช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพาเข้าแจ้งความดำเนินคดี
ภายหลังรับแจ้งตนจึงได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต เพื่อพาครอบครัวผู้เสียหายเข้าแจ้งความ และได้ประสานไปยัง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ปทุมธานี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขอให้ส่งนักสังคมสงเคราะห์พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาที่ สภ.คูคต เพื่อร่วมทำการสอบสวน จนนำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับและจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด
นายเอกภพ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะพาผู้เสียหายเดินทางเข้าพบ เพื่อยื่นเรื่องขอรับเงินเยียวยา เนื่องจากผู้เสียหายในคดีอาญา สามารถติดต่อขอรับเงินเยียวยาได้ที่สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม
นางนกแก้ว (นามสมมติ) แม่ของ ด.ญ.เอ เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นตนรู้เรื่องจากแม่ของตน ว่าลูกสาวถูกหลอกให้ใช้ปากสำเร็จความใคร่กว่า 10 ครั้ง เพื่อแลกกับการเล่นโทรศัพท์ จึงเดินทางไปถามความจริงกับนายบรรทม ซึ่งก็ยอมรับสารภาพว่ากระทำเช่นนั้นจริง จากนั้นตนได้เดินทางไปแจ้งความ แต่นายบรรทม กลับยื่นข้อเสนอเป็นการชดใช้ความเสียหาย จำนวน 40,000 บาท ตนจึงรับเอาไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานมอบให้กับตำรวจ เนื่องจากตนไม่มีหลักฐานอะไรเลย นอกจากคำพูดของลูกสาว
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าเสียใจมาก ๆ ไม่คิดว่าคนที่ไว้ใจจะทำกับลูกของตนได้ถึงขนาดนี้ ส่วนข่าวที่ออกไปว่าตนรับเงินจากนายบรรทม มาแล้วเรื่องจะจบ ไม่เป็นความจริง ที่จริงแล้วตนไม่ได้อยากได้เงิน แต่รับเงินไว้เพื่อเป็นหลักฐานทางคดี เพราะก่อนหน้านี้ตนได้ปรึกษาทนายเอาไว้แล้วว่าไม่ยอมความ เงินทั้งหมดที่ได้มาตนก็ส่งให้ตำรวจเป็นหลักฐานในคดีเรียบร้อยแล้ว
ทีมข่าวเดินทางไปยังโต๊ะสนุกของนายบรรทม แต่ปรากฎว่าภรรยาของนายบรรทม ไม่ได้อยู่ที่โต๊ะสนุก ทีมข่าวจึงให้นายเจ (นามสมมติ) เดินพาไปดูจุดที่นายบรรทม พาเด็กเข้าไปอนาจาร จากการตรวจสอบพบว่าโต๊ะสนุกแห่งนี้เป็นโต๊ะสนุกที่มีทางเข้าออก 2 ทางที่ติดกับสนามเด็กเล่น
"ช่วงเย็นของทุกวัน เด็ก ๆ มักจะมาเล่นที่สนามเด็กเล่นข้างโต๊ะสนุก ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดที่ลับตาผู้ใหญ่ และเป็นทางเชื่อมต่อไปยังห้องพักของนายบรรทม คาดว่านายบรรทม จะลวงเด็กเข้าไปในห้อง จากการหลอกให้ไปดูปลา ที่นายบรรทม ทำบ่อเลี้ยงเอาไว้ด้านหน้าห้องของนายบรรทม" นายเจ กล่าวให้ฟัง