วันที่ 9 ม.ค. 61 ความคืบหน้ากรณีผู้ปกครองนักเรียนชาย ในพื้นที่ จ.กระบี่ จำนวนหลายรายร้องเรียนว่า ครูหนุ่มในโรงเรียนแห่งหนึ่งกระทำอนาจารเด็กนักเรียนในห้องเรียน และบ้านพัก ด้วยการให้เด็กลูบคลำและอมอวัยวะเพศ (อ่าน :
สอบเด็กชาย ถูกบังคับอมนกเขา 4 ชั่วโมง - ตร.จ่อหมายเรียกครู ชี้หากผิดจริง คุก 20 ปี)
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่โรงเรียนที่เกิดเหตุ โดยจากการสำรวจห้องพักครู ที่มีการกล่าวอ้างว่าครูคนดังกล่าวใช้ก่อเหตุ พบว่าภายในมีการจัดบอร์ดนิทรรศการเอาไว้รอบห้อง และมีโต๊ะทำงานวางอยู่ 2 ตัว ซึ่งตัวหนึ่งเป็นของครูผู้ถูกกล่าวหา และอีกตัวหนึ่งเป็นครูผู้หญิง โดยโต๊ะของครูผู้ถูกกล่าวหาตั้งอยู่ประตูทางเข้า มองเห็นเด่นชัดได้จากภายนอกห้อง หากมีเด็กเข้าไปนั่งอยู่บริเวณใต้โต๊ะดังที่กล่าวอ้าง ก็สามารถมองเห็นได้จากนอกห้อง
ส่วนห้องเรียนซึ่งอยู่ถัดไป พบว่าภายในห้องได้มีโต๊ะเรียนตั้งอยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนโต๊ะของครูผู้สอนจะอยู่บริเวณซ้ายสุดของห้อง โต๊ะของครูผู้สอนเป็นโต๊ะแบบเปิดโล่ง ไม่มีการนำสิ่งของมาปิดไว้
โดย
นางสาวชมพู (นามสมมติ) เพื่อนครูผู้ถูกกล่าวหา เปิดใจว่า นิสัยใจคอของครูผู้ถูกกล่าวหา คนที่ตั้งใจและขยันทำงาน พูดจาเรียบร้อย มีหางเสียงทุกคำ ยอมรับว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นรู้สึกตกใจ แต่ก็อยากให้มีการพิสูจน์ตามความจริง และสิ่งที่ เด็กนักเรียนอ้างว่า ถูกครูคนดังกล่าวกระทำอนาจารในห้องเรียนนั้น ส่วนไม่ทราบข้อเท็จจริง ให้ว่าไปตามกระบวนการ แต่ความรู้สึกส่วนตัวแล้วครูที่รู้จักกันไม่มีพฤติกรรมเข้าข่าย
ด้าน
นางจินตนา สุขย้อย ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า หลังจากที่มีผู้ปกครองและนักเรียนเข้ามาแจ้งเรื่อง ตนเองก็ไม่นิ่งนอนใจ โดยสั่งให้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และสั่งให้ครูผู้ถูกกล่าวหาย้ายมานั่งทำงานภายในห้องธุรการโรงเรียน ให้อยู่ใกล้หูใกล้ตา ส่วนคำให้การของเด็กนักเรียนที่โรงเรียนได้มีการสอบเบื้องต้นนั้น เด็ก 3 คนที่อ้างว่าถูกครูกระทำอนาจาร ด้วยการให้จับอวัยวะเพศของครู ถึงให้มีการช่วยสำเร็จความใคร่ แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกโรงเรียน อ้างว่าเกิดขึ้นที่บ้านเช่าของครู
ขณะที่
ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวต่อว่า ครูผู้ถูกกล่าวหาได้ขอแสดงความบริสุทธิ์ ด้วยการทำบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อชี้แจง โดยข้อความระบุว่า “ไม่ได้กระทำผิด ตามที่มีการกล่าวอ้าง” ซึ่งในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียน จะต้องส่งเรื่องคำให้การของเด็ก รวมถึงใบบันทึกโต้แย้งของครูผู้ถูกกล่าวหา ส่งไปให้กับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษากระบี่
ส่วนกรณีที่สังคมรวมถึงผู้ปกครองในพื้นที่ กำลังเข้าใจผิดว่าผู้อำนวยการโรงเรียนปกป้องครูผู้ถูกกล่าวหานั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากโรงเรียนรับทราบเรื่องก็ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบศึกษาธิการ อีกทั้งยังมีการทำเป็นบันทึกว่ากล่าวตักเตือน เพื่อไม่ให้ครูผู้ถูกกล่าวหากระทำผิด จนกระทั่งมีผู้ปกครองมาแจ้งเป็นครั้งที่ 2 หากตรวจพบก็จะไม่ให้ผ่านการประเมิน หรือเสนอให้ออกจากราชการ
ขณะที่
นายบอย (นามสมมติ) ครูผู้ถูกกล่าวหา เปิดใจว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ความจริง ซึ่งขอยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง โดยไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเหมือนดังที่มีคนกล่าวอ้าง ส่วนกรณีที่เด็กอ้างว่าเข้ามาบีบนวด หรือสัมผัสกับร่างกายของตัวเองนั้น ย้ำว่า ตนเองเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัว จึงเป็นไปได้ยากที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งสามารถไปสอบถามกับคนใกล้ชิดได้ แต่เรื่องที่เด็กออกมาบอกว่าได้มีการถูกบังคับให้จับอวัยวะเพศหรืออมนั้น ส่วนตัวไม่รู้ว่าเป็นการสร้างเรื่องมาจากไหน แต่การเป็นครูก็ย่อมมีบ้างที่จะขัดแย้งกับผู้ปกครองและเด็ก ซึ่งก็เชื่อว่าอาจเป็นเพราะเรื่องนี้อาจมีส่วนด้วยหรือไม่ ที่ทำให้การสร้างเรื่องขึ้นมา และกลายเป็นข่าวใหญ่โต รวมถึงมีการจัดฉากรวบรวมให้มีเด็กเสียหายถึง 8 คน
ส่วนจุดเริ่มต้นของปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อปีการศึกษา 2560 โดยมีผู้ปกครองไม่พอใจ และเชื่อว่าลูกจะโดนครูกระทำ จึงได้ร้องเรียนกับผู้อำนวยการโรงเรียน จากนั้นก็ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่ปรากฏเป็นข่าว คือไม่มีมูลว่าตนเองกระทำอย่างนั้น
อีกทั้ง ตนยังฝากถึงคนที่เข้าใจผิดหรือสังคมที่กำลังรุมด่าว่า เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอยากทำร้ายกันโดยวิธีการแบบนี้ ซึ่งในฐานะความเป็นครู ยังมุ่งมั่นตั้งใจสอน ตั้งใจทำงานอย่างดี เพราะอาชีพครูเป็นอาชีพที่ตนเองรัก ตนคงไม่ทำลายอาชีพที่ตนเองรักโดยเรื่องแบบนี้แน่นอน ยอมรับว่าเรื่องที่เกิด ไม่เพียงทำให้ตนเองเดือดร้อน ยังทำให้สถานบันการศึกษา และหน่วยงานได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งหากมีโอกาสได้เจอกับผู้ปกครองนักเรียน ตนเองก็อยากพูดคุยชี้แจง ไม่อยากให้เข้าใจกันผิดแบบนี้ แต่ก็มีความกังวลว่าผู้ปกครองจะไม่ฟัง และเข้ามาทำร้ายร่างกายทั้งที่ยังไม่ได้ฟังข้อเท็จจริง
ครูผู้ถูกกล่าวหา ชี้แจงกรณีห้องเรียนและห้องพักครูด้วยว่า เป็นไปได้ยากที่จะทำอะไรในจุดที่มีเด็กจำนวนมาก ส่วนในห้องเรียนมีการอ้างว่าตนนำฉากมากันเป็นมุมส่วนตัวนั้น ยืนยันว่าไม่มี อาจมีเพียงแค่บอร์ดจัดนิทรรศการเท่านั้น
ส่วนปมที่เด็กอ้างว่า หากครูก่อเหตุแล้วเด็กวิ่งหนี ครูจะส่งให้เด็กนักเรียนคนอื่นไปวิ่งไล่จัดมาส่งให้ครูนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนเองไม่เคยให้ใครไปวิ่งไล่จับใคร และเรื่องให้เกรดน้อย หรือปรับตกช้ำชั้นเรียน ยืนยันด้วยว่าทุกอย่างเป็นไปตามเกณฑ์ คนไหนที่เรียนเก่งก็ได้รับเกรดดี ถ้าใครเรียนไม่ดีก็ได้เกรดน้อยตามศักยภาพของเด็กแต่ละคน