จากกรณี วันที่ 9 ม.ค. 62 พ.ต.ต.ปัญญา ไล่คง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายด้วยอาวุธมีด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ น.ส.ราตรี นิลลออ หรือ ตรี อายุ 44 ปี ภายในร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ใน หมู่ 2 บ้านพรุชี ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง
โดยขณะเกิดเหตุ แฟนของผู้ตาย มีปากเสียงกับผู้ตายอย่างรุนแรง รวมถึงการทำร้ายร่างกายด้วยการตบตีและเตะ อีกทั้งคนร้ายตะโกนขู่คนที่เข้ามาช่วยว่า เป็นเรื่องของผัวเมีย ถ้าใครแจ้งตำรวจจะแทงให้ตาย จากนั้น คนร้ายจึงชักอาวุธมีดกระหน่ำแทงแฟนตัวเอง กระทั่งเสียชีวิต ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป (อ่าน :
ลูกชายอดีตตำรวจ กระหน่ำแทงแฟนสาวไม่ยั้ง 7 แผลดับ ญาติวิ่งเข้าช่วยถูกขู่ หากจุ้นจะฆ่าให้ตาย)
ต่อมา พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผบก.ภ.จว.ตรัง, พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ ผกก.สภ.เมืองตรัง, พ.ต.ท.ทินกร มณีรัตน์ สว.สส.สภ.เมืองตรัง พร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวนกว่า 30 นาย ร่วมกันนำตัว นายเชิดศักดิ์ นาคพรม หรือ เอก อายุ 36 ปี ผู้ต้องหา เดินทางทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางความสนใจของประชาชนจำนวนมากที่มุงดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรึงกำลังเข้ม เพราะหวั่นว่าอาจจะเกิดการรุมประชาทัณฑ์
เวลา 19.30น. ที่ วัดขุนสิทธิ์ หรือ วัดต้นเหรียง บ้านขุนสิทธิ์ หมู่ 10 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งศพของ น.ส.ราตรี ญาติได้ได้นำโลงศพมาตั้งไว้ โดยบรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างโศกเศร้า บรรดาญาติ ๆ พี่น้องเพื่อนร่วมงาน และคนรู้จักต่างมาร่วมงานท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัย
ขณะที่
นายสาคร นิลละออ อายุ 52 ปี พี่ชายของผู้ตาย ให้สัมภาษณ์ว่า น้องสาวเป็นคนนิสัยดี รักพี่น้อง เป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ดีมีเพื่อนฝูงมากกมาย ผู้ตายเป็นคนเคยมีครอบครัวมาก่อน แต่ได้หย่ากันไป และมีลูกชาย 1 คน อายุ 13 ปี ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ครอบครัวเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ญาติผู้สูงอายุต่างรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมสงสัยว่าใจคอทำด้วยอะไร ทำไมถึงโหดร้ายกันอย่างนี้ หลังจากนี้ ตนไม่เรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาขอขมาศพ เพราะไม่อยากเห็นหน้า เพราะครอบครัวอาจอดใจไว้ไม่ได้ และก็ไม่ขออโหสิกรรมให้ด้วย
ส่วนเรื่องคดีนั้น ตนต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งครอบครัวเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของตำรวจ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายเป็นอย่างมาก ที่สามารถจับตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว