รวบหนุ่มฉกมือถือน้องแป้งขาย สาวซื้อต่อส่อซวยไม่รู้ของศพ ญาติเศร้าวืดรับร่างหลังปอดหาย

11 ก.พ. 65

จากกรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้ง พบชิ้นส่วนมนุษย์ลอยน้ำบริเวณหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ นำมาประกอบพบว่าเป็นของร่างเดียวกัน ญาติระบุตัวตนของร่างที่พบจากอัตลักษณ์ และรอยสักที่แผ่นหลังกับเล็บมือ ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตคือ น้องแป้ง หรือ น.ส.มณีรัตน์ กระจกภาพ อายุ 28 ปี ล่าสุดพบกล้องวงจรปิดก่อนกระโดดสะพานพระราม 8 นั้น

614435

วันที่ 11 ก.พ. 65 ตำรวจเปิดหลักฐานยืนยันรูปใบหน้าของผู้ตายได้อย่างชัดเจน เพื่อให้สังคมสิ้นข้อสงสัย ซึ่งก่อนจะตัดสินใจกระโดดสะพานพระราม 8 ผู้ตายได้เล่นโทรศัพท์ ก่อนที่จะวางโทรศัพท์ทิ้งไว้แล้วจบชีวิตตัวเองด้วยการตัดสินใจกระโดดสะพานพระราม 8 ลงในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ ขณะที่แท็กซี่มาส่งผู้เสียชีวิตก่อนตาย

862250234363

จากการตรวจสอบพบว่าโทรศัพท์ของผู้ตายได้ไปอยู่ที่หญิงสาวรายหนึ่ง โดยอ้างว่าสามีของเธอได้ซื้อมาจากอีกที่ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำ

401254

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยตำรวจได้เชิญตัวหญิงสาวที่ได้รับโทรศัพท์ของมณีรัตน์ผู้ตาย มาสอบสวน ถึงการครอบครองโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว ยี่ห้อ ซัมซุง รุ่นเอส 8 พลัส

414966

นางสาวแก้วตา (นามสมมติ) เจ้าของโทรศัพท์ อายุ 20 ปี เปิดเผยว่า ตนเองได้รับโทรศัพท์เครื่องนี้มาจากแฟนหนุ่ม เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 วันดังกล่าวเป็นวันเกิดของแฟนหนุ่ม ตนเองรู้สึกดีใจจึงถามแฟนหนุ่มว่าได้มาจากไหน แฟนหนุ่มบอกว่า ซื้อมาอีกที ในราคา 600 บาท เนื่องจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของตนเองหน้าจอแตก สภาพเครื่องขณะนั้นค่อนข้างใหม่ แต่หน้าจอแตกเล็กน้อย มาพร้อมเคสโทรศัพท์ สายชาร์จแบต แต่ไม่มีกล่อง ตนเองไม่ได้เอะใจ ตนเองจึงใส่เมมโมรี่การ์ดและซิมการ์ด โดยข้อมูลในเครื่องมีการลบทิ้งทั้งหมดแล้ว โทรศัพท์สามารถใช้งานได้ปกติ ไม่มีปัญหาใด ๆ ตนเองยังดูข่าวของสาวที่กระโดดน้ำกับพ่ออยู่เลย

341712

กระทั่งวันนี้ ตำรวจเดินทางมาที่บ้านจึงเพิ่งทราบว่าโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าวเป็นของนางสาวมณีรัตน์มาก่อน ตนเองไม่ได้กลัว แต่รู้สึกตกใจ ขณะที่ตำรวจคุมตัวมาสอบปากคำวันนี้ ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงเย็น ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกเครียด ยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ แต่จากนี้ต้องซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่

847314

ล่าสุดตำรวจทราบตัวผู้ที่นำกระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์มือถือของน้องแป้งไปขาย และสามารถจับกุมตัวได้ที่ตรอกสาเก ทราบชื่อคือ นายปิยะพงษ์ หรือโก๊ะ พวงเพ็ชร อายุ 40 ปี พร้อมของกลางกระเป๋าสะพายสีกรมท่า 1 ใบ ไปสอบปากคำ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้

267110

นายสันติสุข บุญรักษา อายุ 30 ปี และ นางสาวชลีพร จำปา อายุ 25 ปี ญาติของผู้ที่ซื้อมือถือจากโก๊ะ เปิดเผยว่า ประมาณวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 65 ช่วงเช้า นายโก๊ะเดินทางเข้ามาในชุมชน โดยนำโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งมาขายให้กับนายหมัด อายุ 30 ปี แฟนของนางแก้วตา โดยขอค่าโทรศัพท์เป็นจำนวนเงิน 500-600 บาท นายหมัดก็ให้ไป

725873

โดยขณะนั้นไม่มีใครเอะใจว่าจะเป็นโทรศัพท์ที่ขโมยมาหรือเป็นโทรศัพท์ของผู้ตาย ขณะนั้นตนเองทราบว่ายังไม่มีการใช้งานหรือเปิดเครื่องแต่อย่างใด

812767

ก่อนหน้านี้มีตำรวจมาวนเวียนที่ชุมชนอยู่ 3 วัน ก่อนที่วันนี้ช่วงเที่ยงตำรวจได้เข้าคุมตัวนางแก้วตาและหมัดไปสอบปากคำ ตนเองขอยืนยันว่าทั้งคู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ไม่ได้ทำผิด เพราะยืนยันว่านายโก๊ะนำมาขายให้จริง ซึ่งที่ผ่านมานายโก๊ะเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีแหล่งที่อยู่ชัดเจน มักจะนำของเก่ามาขายให้กับคนในชุมชนอยู่เสมอ

351179

ทีมข่าวเดินทางมาที่ ซอยหทัยราษฎร์ 33 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร นางสมใจ กระจกภาพ อายุ 58 ปี แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางไปที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรับร่างของผู้เสียชีวิตมาประกอบพิธี แต่ยังไม่สามารถรับได้ ซึ่งวันนี้ทางครอบครัวต้องได้เข้าไปเจาะเลือด เพื่อนำผลตรวจดีเอ็นเอไปยืนยันว่าตรงกับชิ้นส่วนศพที่เจอหรือไม่ และเพื่อที่ทำการชันสูตรพลิกศพในครบถ้วนตามขั้นตอน โดยจะต้องผลอีกประมาณ 2 สัปดาห์ อีกทั้งรอการค้นหาปอดเพื่อยืนยันอย่างชัดเจนด้วย

สำหรับชิ้นส่วนบริเวณลำตัว และเท้า ที่เจ้าหน้าที่เพิ่งเจอเมื่อวานนี้จะต้องนำไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และจะต้องรออีก 1 เดือน เนื่องจากสถานที่ที่เจอ อยู่คนละพื้นที่กัน เบื้องต้นทางครอบครัวยังไม่ทราบผลชันสูตร แต่แพทย์แจ้งมาว่าชิ้นส่วนที่แยกชิ้นกันนั้น มีรอยคล้ายถูกใบพัดเรือ หรือของมีคมตัด ซึ่งยังไม่สามารถชี้ชัดได้ ทั้งนี้ ทางครอบครัวอยากจะรอให้ผลชันสูตรพลิกศพของชิ้นส่วนศพทุกชิ้นออกมาครบถ้วนก่อน แล้วค่อยนำไปประกอบพิธีทางศาสนา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม