สาว 17 ผูกคอดับ หนุ่มนอนข้าง ๆ อ้างไม่เห็น เจ้าตัวปัดจัดฉากฆ่ายันปลดศพช่วยชีวิต

จากกรณีนางสาวผกามาศ บูรณะ หรือ บิว อายุ 17 ปี ผูกคอเสียชีวิต เมื่อเวลา 11.26 น. ของวันที่ 9 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา ภายใน บ้าน ถ.พิชิตณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์

พ.ต.ต. แสงหิรัญ แก้วดี สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยสุรินทร์ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ

วันที่ 11 ก.พ. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังสถานที่จัดสวดอภิธรรมศพของผู้เสียชีวิต บริเวณวัดเทพสุรินทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อไปถึงพบว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านที่มาร่วมฟังสวดอภิธรรมศพช่วงค่ำวันนี้

น.ส.ฐิติญา บูรณะ อายุ 34 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกสาวเป็นคนขี้ใจน้อย แต่จะเป็นเด็กร่าเริงยิ้มแย้มแจ่มใส ถึงแม้ว่าจะเป็นคนขี้น้อยใจ แต่ตนก็ไม่คิดว่าลูกจะคิดสั้นถึงขั้นคิดสั้นผูกคอตาย วันที่ 9 ก.พ.65 ก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้แชตมาหาช่วงเช้ามืด 05.00 น. แต่ตนไม่ได้ตอบกลับ เพราะยังไม่ตื่น อีกอย่างก่อนหน้าลูกจะเสียชีวิตลูกก็จะถามแต่เรื่องเงิน ซึ่งตนก็รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องที่ลูกทักมาถามเรื่องเงินนั้น เพราะนายเทพอายุ 17 ปี แฟนหนุ่มของลูกสาวชอบขู่เอาเงินจากลูกสาวไปใช้จ่าย

ซึ่งปกติบ้านหลังจุดเกิดเหตุ ลูกสาวจะอยู่กับแฟนหนุ่ม แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชม. ส่วนตนจะไปทำงานรับจ้างที่ จ.ชลบุรี และจะค่อยส่งเงินมาให้ลูกใช้จ่าย นาน ๆ ทีจะกลับมาอยู่กับลูกที่ จ.สุรินทร์ โดยเมื่อก่อนที่ตนยังอยู่กับลูก ก็เห็นว่าระยะเวลาทั้งคู่คบหา อยู่ด้วยกันมาประมาณ 2 ปี ก็มักทะเลาะกันทุกวัน แต่ในตอนนั้นก็คิดแค่ว่าทั้งคู่คงทะเลาะตามประสาความรักของวัยเด็ก ส่วนนิสัยของแฟนลูกสาวจะเป็นคนก้าวร้าว โผงผาง ขนาดตนที่เป็นแม่ของลูกสาวอยู่ในบ้านชั้นล่าง เขาก็ยังตีกับลูกสาวอยู่บนชั้น 2 โดยที่ไม่ได้มีความเกรงใจ

ส่วนตัวจึงคาดว่า แรงจูงใจที่ลูกสาวผูกคอนั้นน่าจะมาจากเบื่อพฤติกรรมของแฟนหนุ่ม อาจมีผู้หญิงคนอื่นหรือไม่ นอกจากนี้ตนยังติดใจกับคำพูดของนายเทพ ที่เคยพูดให้การอ้างกับตำรวจว่าวันเกิดเหตุนอนอยู่ในบ้านจุดเกิดเหตุ พอตื่นมาก็เห็นลูกสาวผูกคอเสียชีวิตแล้ว ก็เลยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่หากลองมองสถานที่เกิดเหตุจะเห็นได้ว่าห้องที่ลูกสาวตนผูกคอกับห้องที่เจ้าตัวนอนนั้น อยู่คนละห้อง นายเทพทำไมต้องหนีไปอยู่ที่ อ.ลำดวนด้วย หลังเกิดเรื่องแทนที่จะรอตนที่บ้าน ขณะที่ตนเดินทางกำลังจะมาถึง หากบริสุทธิใจ

อีกทั้งในส่วนบาดแผลลอยกรีดแขนที่ลูกสาวทำร้ายตัวเอง ตนก็เพิ่งเคยเห็น จึงติดใจสาเหตุการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่อง ตนคงทำได้เพียงรอผลตรวจจากทางนิติเวช รพ.สุรินทร์ ประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะรู้สาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดว่าความเป็นจริงแล้ว
เกิดจากลูกสาวตั้งใจผูกคอตายเองจริงหรือไม่ ในฐานะคนเป็นแม่ก็รู้สึกเสียใจกับการจากไปของลูกสาวอย่างกะทันหัน เสมือนหัวใจไม่เหลืออะไรเลย

หากมีโอกาสได้พูดกับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย ตนก็อยากจะถามว่า "ทำไมถึงตัดสินใจทำแบบนี้" ขอให้ลูกหลับให้สบายไปอยู่ในภพภูมิที่ดี โดยที่ไม่ต้องเป็นห่วง และอยากฝากให้ทุกคนในสังคมดูเคสนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ หากมีลูกควรให้ความสนใจและใส่ใจลูกให้มากกว่านี้ จะได้ไม่เกิดการสูญเสียเหมือนครอบครัวของตน

นอกจากนี้ มีข้อความของผู้เสียชีวิต ปรากฏภาพหน้าโพรไฟร์เฟซบุ๊กแม่ของแฟนหนุ่ม มีข้อความบรรยายระบุว่า "มันด่าว่าหนูเป็นผู้หญิงหยำฉ่- หนูไม่รู้หรอกว่า มันบอกว่าหนูกับมันเลิกกันเพราะอะไร แต่ดูจากที่แม่มันด่า คงจะเดาไม่ยาก อยากให้รู้ว่า คนที่มีคนอื่นมันไม่ใช่หนู ตั้งแต่ตอนที่อยู่บ้านมัน แม่มันจิกหัวใช้หนูเหมือนเป็นขี้ข้า ด่าว่าหนูเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีพ่อมีแม่ ด่าว่าหนูต่ำ ทำตัวไม่เหมือนผู้ดี มีอีกเยอะที่เค้าด่าหนู เยอะมาก

เผื่อแม่อยากจะทักไปคุยอะไรกับเค้าหน่อย หนูขอโทษนะ หนูว่าโลกนี้มันคงไม่ใช่ที่ของหนู หนูขอโทษที่หนูคิดแบบนี้นะ แต่หนูไม่อยากอยู่แล้ว" หลังจากทราบเรื่องไม่นาน ก็พบว่าเฟซบุ๊กลูกสาวถูกปิดลงโดยไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ปิด

นายปฏิพัทธ์ เสียงเสนาะ อายุ 18 ปี เพื่อนสนิท อาสาสมัครกู้ภัยที่ขึ้นไปเก็บศพ กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบแฟนหนุ่มผู้เสียชีวิตได้ตัดเชือกออกจากคอผู้เสียชีวิต แล้วนำศพมานอนไว้ที่เตียง ตรวจสอบสภาพศพพบมีบาดแผลกรีดที่ข้อมือ มีรอยช้ำตามร่างกาย จากสภาพศพคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาประมาณ 2-3 ชม.

จากเจ้าหน้าตำรวจถึงที่เกิดเหตุ ทางด้านแฟนหนุ่มก็ยังอยู่ที่เกิดเหตุ ตนได้สังเกตดูก็ไม่เห็นมีอาการโศกเศร้าเสียใจ อีกทั้งพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ก็จับประเด็นไม่ได้ พูดวกไปวนมา สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะตนกับผู้เสียชีวิตรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งปกติแล้วผู้เสียชีวิต จะเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยจะยุ่งวุ่นวายกับใคร เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน

ตนสังเกตเห็นช่วง 2 ปีหลังนี้ ผู้เสียชีวิตเริ่มมีนิสัยเปลี่ยนไป ตั้งแต่เริ่มคบหากับแฟนหนุ่ม และจากการสังเกตแฟนผู้เสียชีวิตมักชอบพาออกนอกลู่นอกทาง นอกจากนี้ ปกติผู้เสียชีวิตก็จะอยู่ที่บ้านหลังจุดเกิดเหตุกับแฟนหนุ่มเพียง 2 คน ตนที่บ้านอยู่ไม่ห่างกันมากนัก ก็มักจะได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกันเสียงดังทุกวัน อีกทั้งมีเสียงทำร้ายร่างกายกันด้วย เพื่อนบ้านละแวกนี้จะรู้กันดีจนกลายเป็นเรื่องปกติ

นอกจากนี้ ตนยังเคยได้ยินเสียงเวลาผู้เสียชีวิตร้องไห้ออกมากจากภายในบ้านบ่อยครั้ง ส่วนเหตุจูงใจในการผูกคอตายครั้งนี้ ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว เพราะสังเกตดูว่าแฟนหนุ่มจะไม่ค่อยสนใจผู้เสียชีวิตเท่าไรนัก อีกทั้งเวลาผู้เสียชีวิตมีเงิน ทางนายเทพก็จะเอาเงินไปหมด อย่างไรก็ตามส่วนตัวตนก็คิดไม่ถึงว่าผู้เสียชีวิตจะคิดสั้นตัดสินใจผูกคอตนเอง เพราะมองว่าน่าจะโตพอที่จะคิดได้ แม้กระทั้งตอนเด็ก ๆ ก็ยังเคยท้าทายกันเลยว่า "ห้ามตายจากกันนะ ถ้าใครตายก่อนแพ้"

นายเทพประทาน แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต เดินทางมาร่วมฟังสวดอภิธรรมศพเป็นคืนที่ 2 กล่าวว่า ตนคบหากับผู้เสียชีวิตมานานเกือบ 2 ปี โดยเริ่มรู้จักกันผ่านกลุ่มเพื่อน จึงเริ่มศึกษาดูใจ และตัดสินใจคบมาเป็นแฟน ก่อนมาอยู่ด้วยกันที่บ้านจุดเกิดเหตุ โดยปกติแล้วแฟนของตนจะมีนิสัยเดียวกับตนคือเป็นคนอารมณ์ร้อน ก้าวร้าว โผงผาง อีกทั้งเป็นคนขี้น้อยใจชอบคิดมาก ปมปัญหาเรื่องชู้สาวคิดว่าตนจะนอกใจแล้วจะเป็นคบหากับผู้หญิงอื่น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วตนไม่มีใคร และจะอยู่กับเพื่อนส่วนใหญ่ ในส่วนนี้จึงเป็นสาเหตุทำให้ช่วงที่ผ่านมาตนและแฟนสาวมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง

ซึ่งตนเป็นลูกผู้ชายก็ยอมรับว่าเวลาทะเลาะกันกับแฟนสาว เคยลงมือทำร้ายร่างกายแฟนด้วยการชกต่อยจริง เป็นเพียงเพราะอารมณ์ ที่เกิดจากแฟนสาวไม่เข้าใจ และชอบคิดมากว่าตนจะนอกใจ แต่ในส่วนการเสียชีวิตของแฟนสาวในครั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำร้ายร่างกายแฟนสาวหรือจัดฉากแต่อย่างใด

ก่อนเกิดเหตุ วันที่ 8 ก.พ. 65 ช่วง 20.00 น. ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปดื่มสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนที่ร้านเหล้าในพื้นที่ใกล้บ้าน ซึ่งแฟนสาวของตนไม่ได้ออกมาด้วย เนื่องจากเจ้าตัวบอกว่าอยากนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บ้าน จนช่วง 00.00 น. ได้กลับเข้าบ้านมานอนอยู่กับแฟนสาวภายในบ้านเหมือนทุกวันตามปกติ ยืนยันว่าขณะนั้นไม่ได้มีปากเสียงกัน

กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 9 ก.พ.65 เวลาประมาณ 09.00-10.00 น. ตนตื่นขึ้นมาไม่พบแฟนสาวนอนอยู่ข้าง ๆ ตะโกนเรียกหาก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเดินตามหาแฟนกระทั่งไปพบว่าแฟนสาวของตนผูกคอตายอยู่ภายในห้องแม่ของแฟนสาว อยู่ติดกับห้องนอนของตนเสียชีวิตอยู่ในสภาพลิ้นจุกปาก ด้วยความที่ตกใจและคิดว่าต้องช่วยแฟนสาวก่อนเป็นอันดับแรก จึงทำการเอาไฟแช็กมาจุดลนเชือกที่ใช้ผูกคอ นำศพแฟนสาวลงมานอนไว้กับพื้นห้อง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบทำการช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าปมเหตุการณ์ตัดสินใจฆ่าตัวตายของแฟนสาวน่าจะเกิดจากปัญหาความเครียดและกดดันในหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัวทั้งของตนเองและแฟนสาว บวกกับแฟนสาวเป็นคนคิดมาก ชอบคิดว่าตนจะมีเรื่องชู้สาว ตนในฐานะแฟนของผู้เสียชีวิต เปรียบเสมือนเป็นต้นเรื่องที่อาจทำให้ผู้เสียชีวิตคิดสั้นฆ่าตัวตาย อยากจะกล่าวคำขอโทษกับดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต รวมไปถึงคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิตกับเหตุการณ์สูญเสียในครั้งนี้ หากมีโอกาสได้พูดกับผู้เสียชีวิตตนอยากบอกว่า รักมาก หลังจากนี้ก็ขอให้ผู้เสียชีวิตไปดี

หากคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังคงคาใจ ก็อยากขอให้รอผลชันสูตรจากทางนิติเวชระบุออกมาให้แน่ชัดว่า การเสียชีวิตที่แท้จริงเกิดจากอะไร และร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของผู้เสียชีวิต ตนเป็นผู้กระทำหรือไม่

เวลาประมาณ 18.00 น. แม่ของผู้เสียชีวิตและครอบครัวเดินทางไปที่บ้านจุดเกิดเหตุ เพื่อทำการอัญเชิญวิญญาณ โดยพิธีกรรมดังกล่าวทางครอบครัวผู้เสียชีวิตใช้สายสิญจน์พันกับหยวกกล้วยที่ทำเป็นหุ่น เสมือนเป็นตัวแทนของผู้เสียชีวิต และเสื้อผ้าที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่ก่อนตายผูกพันไว้กับคานบ้านจุดที่ผู้เสียชีวิตผูกคอ ก่อนคนในครอบครัวจะทำการกล่าวอัญเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต จากจุดที่ผูกคอเดินทางไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพื่อสวดอภิธรรมศพที่วัด ทางครอบครัวพูดเป็นภาษาเขมร เสมือนเรียกเชิญดวงวิญญาณให้ออกจากจุดเกิดเหตุ