จากกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพร้อมชาวบ้านได้ช่วยกันออกตามหา ด.ช.พงศกร วังสุขี หรือ น้องบิ๊ก วัย 3 ขวบ หลังหายออกจากบ้านเมื่อ เวลา 09.00 น. วันที่ 13 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา โดยบ้านของน้องอยู่บริเวณหลังโรงเรียนบ้านเหล่าสูง ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 14 ก.พ. 65 พ.ต.ท.สินธร ภูเเสนสั่น พนง.สอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนพบศพเด็กที่บริเวณสระน้ำ พื้นที่แหล่งเรียนรู้การเกษตรบ้านดงน้อย ต.ห้วยโพธิ์ ตรวจสอบคือศพน้องบิ๊ก วัย 3 ขวบ ที่หายออกจาบ้านจมน้ำเสียชีวิต
ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังบ้านของเด็กผู้เสียชีวิต หลังโรงเรียนบ้านเหล่าสูง ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อไปถึงพบว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้จัดสวดอภิธรรมศพที่บ้าน บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของคนในครอบครัว และเพื่อนบ้านที่มาร่วมงานในวันนี้
นางบุญยืน จักนามน ป้าเด็กผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกติแล้วหลานชายจะเป็นเด็กน่ารัก แต่จะเป็นเด็กที่เงียบ ไม่ค่อยพูด ชีวิตประจำวันคนในครอบครัวก็จะปล่อยให้น้องเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านกับสุนัขเหมือนตามปกติ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
เมื่อช่วงเวลา 08.00-09.00 น. ของวันที่ 13 ก.พ. 65 หลานชายได้เดินหายออกจากบ้านไป โดยที่แม่ของเด็กไม่ทันระวัง กว่าจะรู้ตัวก็หายไปแล้ว หลังทราบเรื่องคนในครอบครัวจึงช่วยกันออกค้นหาแต่ก็ไม่พบ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างกาฬสินธุ์ช่วยส่งทีมเพื่อค้นหาบริเวณหนองน้ำ ตามคลองชลประทาน และบริเวณป่าข้างบ้านที่คาดว่าน้องอาจจะประสบอุบัติเหตุจมน้ำ แต่หาไม่พบ จนถึงเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่จึงได้ยุติการค้นหา
กระทั่ง วันนี้เวลา 65 08.00น. ทางครอบครัวได้รับการประสานจากทาง ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ว่ามีชาวบ้านไปพบศพเด็กที่บริเวณสระน้ำภัยในพื้นที่แหล่งเรียนรู้การเกษตรบ้านดงน้อย คาดว่าเป็นหลานชายที่หายตัวจากบ้าน จึงตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็พบศพของหลานชายอยู่ในสภาพคว่ำหน้า สวมเสื้อสีแดง ลอยอยู่ในสระน้ำภายในแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตร ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร จึงคาดว่าหลานชายน่าจะเดินตามสุนัขออกมา ก่อนเดินพลัดตกลงคลองน้ำชลประทานใกล้บ้าน และไหลมาโพล่ที่จุดพบศพดังกล่าว
ด้าน นางพรทิพย์ สะแพงน้อย อายุ 27 ปี แม่เด็กผู้เสียชีวิต กล่าวสั้น ๆ ว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่าดูแลลูกได้ไม่ดี จึงทำให้ลูกต้องมาจากไปอย่างกะทันหัน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก จึงอยากให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์ หากมีบุตรหลานควรดูแลให้ดี อย่าให้ละสายตา ควรดูแลอย่างใกล้ชิด จะได้ไม่เกิดเหตุสูญเสียซ้ำ