โต้กันยับ! คนจัดมาราธอนนครพนมยัน งานไม่ห่วย แค่เหรียญขาด-คนร่วมแฉ แข่งจบไม่ดูแล (คลิป)

14 ม.ค. 62
จากกรณีการจัดงานวิ่ง นครพนมซุปเปอร์ฮาล์ฟ มาราธอน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 62 ที่ผ่านมา หลังจากการจัดงาน มีผู้ร่วมงานวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับระบบการจัดการของงานที่ไม่มีการดูแลนักวิ่ง น้ำดื่มไม่เพียงพอ อีกทั้งเหรียญรางวัล ยังไม่พอกับผู้เข้าแข่งขัน
งานเดินวิ่ง นครพนมซุปเปอร์ฮาล์ฟ มาราธอน ครั้งที่ 1
งานเดินวิ่ง นครพนมซุปเปอร์ฮาล์ฟ มาราธอน ครั้งที่ 1
วันที่ 14 ม.ค. 62 ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดนครพนม (ศปก.นพ.) นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผวจ.นครพยม พร้อมหน่วยงานทุกภาคส่วน ร่วมประชุม กรณีงานเดิน-วิ่งนครพนมซุปเปอร์ฮาล์ฟ มาราธอน ครั้งที่ 1 มีนายพชรวัฒน์ นวกุลภูวนันท์ หรือ โหน่ง อดีตศิษย์เก่าโรงเรียนชื่อดัง รุ่น 35 เป็นผู้ดำเนินการ โดยชิงถ้วยรางวัลของมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ และรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้แก่โรงพยาบาลนครพนม จัดซื้อเครื่องเอ็กซเรย์ดิจิตอล และมอบให้มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์
ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดนครพนม
โดย ร.ต.อ.ดร.มนัส โนนุช กรรมการ และผู้อำนวยการสำนักนโยบาย และแผนมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ กล่าวขอโทษนักกีฬาที่ทำให้เกิดความไม่พึงพอใจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พร้อมอธิบายเหตุผลของการจัดงานในครั้งนี้ นางบุญร่วม ปริปุณณะ รองผู้อำนวยการด้านการพยาบาล โรงพยาบาลนครพนม และน.ส.นันทิยา โรจนาพงษ์ นักรังสี การแพทย์ชำนาญการพิเศษ ร่วมให้รายละเอียด โดยนายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม โทรศัพท์เข้ามากลางที่ประชุม และมีการพูดคุยรับฟังการชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้อง
นายพชรวัฒน์ นวกุลภูวนันท์ ผู้จัดงาน
ด้าน นายพชรวัฒน์ นวกุลภูวนันท์ หรือ โหน่ง อดีตศิษย์เก่าโรงเรียนชื่อดังรุ่น 35 ผู้จัดงาน เปิดเผยว่า สังคมออนไลน์กระหน่ำวิจารณ์ โดยไม่ฟังคำอธิบายจากตน เช่น เรื่องน้ำดื่มไม่เพียงพอ ตนยืนยันว่าก่อนเริ่มงานตนได้สั่งน้ำดื่มมารองรับถึง 10,000 ขวด ซึ่งก็ต้องมีเหลือแน่นอน เพราะมีนักกีฬาทั้งสิ้น 3,061 คน ส่วนที่อ้างว่า วางแตงโมไว้เป็นลูก ๆ แล้วนักกีฬาจะทานอย่างไร ความจริงตนสั่งแตงโมมาทั้งหมด 1 ตัน กับอีก 200 ลูก มีนักเรียนจิตอาสา คอยบริการนักวิ่งทุกคน และนักเรียนก็ไม่อยู่บริเวณนั้นแล้ว สำหรับเสื้อที่ถูกกล่าวหาว่า ตนทำขาย และนำเสื้อราคาไม่กี่บาทมาให้นักกีฬา ก็ไม่เป็นความจริง เพราะตนไม่ได้ขายเสื้อ ค่าสมัครวิ่งระยะทาง 5 กม. 300บาท, 10 กม. 500บาท และ 25 กม. 700 บาท ทุกรายการได้เสื้อกล้าม 1 ตัว ตนเห็นว่าเหมาะสมแล้ว ส่วนที่นักกีฬาวิ่งถึงเส้นชัยแล้วไม่มีเหรียญ ขออธิบายว่า ตนสั่งผลิตเหรียญจำนวน 2,500 เหรียญ เพราะในเวลานั้น มีผู้มาสมัครจำนวนเท่านี้ หลังเปิดแถลงข่าว มีผู้สมัครเพิ่ม ตนจึงสั่งผลิตเพิ่มตามจำนวนดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว หากเสร็จก็จะดำเนินการส่งมอบให้นักกีฬาถึงบ้าน ทั้งนี้ ต้องกราบขอโทษนักกีฬาทุกท่าน ตนไม่ได้ตั้งใจจะให้งานออกมาลักษณะนี้ แต่เกิดจากการผิดพลาดระหว่างดำเนินการ
น.ส.อ้อย (นามสมมติ) ผู้เข้าร่วมวิ่งมาราธอน
ขณะที่ น.ส.อ้อย (นามสมมติ) ผู้เข้าร่วมวิ่งมาราธอน อายุ 39 ปี เปิดเผยว่า โดยปกติตนเป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้ว และเห็นมีการประชาสัมพันธ์ของรายการวิ่งนครพนม ซุปเปอร์ฮาล์ฟ มาราธอน ครั้งที่ 1 ที่ระบุว่า จะเป็นการวิ่งลัดเลาะไปตามแม่น้ำโขง และผ่านอุโมงค์พญานาค ซึ่งตนรู้ว่าจะมีภาพวิวที่สวยงามมาก จึงได้สมัครวิ่งในราคา 700 บาท ซึ่งได้เสื้อวิ่ง 1 ตัว และจะได้เสื้ออีกตัว เมื่อวิ่งจบการแข่งขัน โดยตนได้สมัครวิ่งแบบซุปเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 25 กิโลเมตร ทั้งนี้ ตลอดการแข่งขันจะมีการตั้งจุดแจกน้ำเปล่า ในระยะทางทุก 2 กิโลเมตร ไปถึง 12.5 กิโลเมตร แล้วกลับตัววิ่งกลับเข้าเส้นชัยอีก 12.5 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อตนวิ่งขาไป ก็มีน้ำเปล่าดื่มปกติ ในจุดบริการน้ำต่าง ๆ แต่ขากลับ น้ำเปล่าหมด ซึ่งทางงานได้นำน้ำอัดลมเป็นขวดมาให้นักวิ่งดื่มแทน ซึ่งตนรู้ว่าการดื่มน้ำอัดลมขณะออกกำลังกายจะเป็นอันตรายมาก เพราะร่างกายค่อนข้างร้อน หากกินน้ำอัดลมที่มีแก๊ส อาจจะทำให้อันตรายต่อชีวิต อย่างไรก็ตาม ตนคำนวนว่าน้ำเปล่าจำนวน 10,000 ขวด ที่จัดไว้ไม่พออยู่แล้ว เพราะอย่างน้อยต้องมีน้ำจำนวน 13,000 ขวดขึ้นไป อีกทั้งเหรียญรางวัลยังมีไม่พอกับผู้เข้าแข่งขัน เนื่องจากผลิตเหรียญมาแค่ 2,500 เหรียญ เมื่อตนทวงถามไปยังผู้จัด ก็บอกให้ตนฝากที่อยู่ไว้ แล้วทางผู้จัดจะจัดส่งของรางวัลให้ภายหลัง น.ส.อ้อย กล่าวต่อว่า ตนก็เสียความรู้สึกกับงานนี้ ซึ่งตนก็ลองคำนวนแล้วว่าผู้จัดเองก็ได้ค่าสมัครเพียง 1.3 ล้านบาท แต่ถ้าหากได้เงินจากคนที่สมัครเพิ่มมากกว่านั้น ตนคิดว่าการทำบุญแค่ 1 ล้านบาท อาจจะน้อยเกินไป ซึ่งโดยส่วนตัวหากมีการจัดวิ่งที่นครพนมอีก ตนก็ไม่กล้าไปอีกแล้ว เพราะตนรู้สึกผิดหวัง และอยากไปเที่ยวที่อื่นมากกว่า

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ