วันที่ 14 ม.ค. 62 จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้หลายหน่วยงาน มีการรณรงค์ให้สวมหน้ากากอนามัย N95 ซึ่งสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่าหน้ากากดังกล่าวขาดตลาด
ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ร้านขายยาใกล้โรงพยาบาลศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดยพบว่าร้านส่วนใหญ่ติดป้ายระบุว่า หน้ากาก N95 หมดแล้ว เนื่องจากมีประชาชนเข้ามาสอบถามและหาซื้อกันเป็นจำนวนมาก
โดย
น.ส.ธิดารัตน์ ศรีสุวรรณ เภสัชกรประจำร้านขายยาฟาสซิโน สาขาท่าน้ำศิริราช เปิดเผยว่า ตอนนี้ที่ชั้นวางขายหน้ากาก N95 ของร้าน ซึ่งมีวางจำหน่าย 2 ราคาคือ 32 บาท และ 65 บาท แตกต่างกันด้วยยี่ห้อสินค้า โดยพบว่าขณะนี้สินค้าหมดเกลี้ยงทั้ง 2 แบบ ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา
โดยที่ร้านมีสินค้าทั้งหมด 1,000 ชิ้น มีประชาชนให้ความสนใจ และตื่นตัวเป็นอย่างมาก ทำให้ต้องจำกัดจำนวนการซื้อเพียงคนละ 2 ชิ้นเท่านั้น ก่อนหน้านี้ทางร้านจะสต็อกของประมาณสัปดาห์ละ 1,000 - 2,000 ชิ้น แต่หลังจากมีข่าว เริ่มนำเข้ามาเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 5,000 ชิ้น และเริ่มขายดีช่วง 4-5 วัน ที่ผ่านมา ส่วนหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ยอดขายยังปกติ
ด้าน
นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า มีรายงานข่าวว่าหน้ากากอนามัย N95 ขาดตลาด เนื่องจากประชาชนตื่นตัวในการป้องกันฝุ่นละอองเล็ก PM 2.5 ที่พบเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลติดต่อกันหลายวัน
โดยการใช้หน้ากากอนามัย N95 ถือว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ดี แต่ทั้งนี้ก็ไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก เนื่องจากผู้ที่ควรจะใช้หน้ากากชนิดนี้ควรเป็นคนที่ทำงานกลางแจ้งในพื้นที่เสี่ยง อาทิ กรรมกรก่อสร้าง จักรยานยนต์รับจ้าง และบรรดาพ่อค้า แม่ค้าริมถนน มากกว่า
ส่วนประชาชนทั่วไปซึ่งไม่ได้ทำงานกลางแจ้ง หรือเพียงสัญจรผ่านพื้นที่เสี่ยงในเวลาไม่นานอาจไม่ต้องกังวลกับเรื่องดังกล่าวมากนัก แต่หากเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ป่วยถุงลมโป่งพอง ผู้ป่วยโรคหอบ อาจจะต้องสวมหน้ากากป้องกันตัวเอง เพราะฝุ่นละอองขนาดเล็กอาจจะเข้าไปทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น