ศึกชิง ต้นมะขามเทศ ยังไม่จบ! คู่กรณีปะทะกันอีกรอบ เจ้าของบ้านยกมือสาบานปลูกเองกับมือ ยันไม่ตัดเด็ดขาด ส่วนชาวบ้านแถวนั้นโต้กลับ ต้นมะขามเทศอยู่มาตั้งนานแล้ว
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสภาพพร้อมระบุข้อความไว้ว่า "เพื่อนบ้านชอบมาขโมยเก็บผลไม้หน้าบ้านทำยังไงดี ขนาดเรายืนมองตอนเขาเด็ด ยังทำไม่สนใจ ไม่มีความเกรงใจเลย เก็บสอยทุกวัน จนไม่เหลือให้เจ้าของได้กินบ้างเลย ตั้งแต่พวกเขาย้ายมาอยู่ได้ 3 ปี พวกเขาเก็บไม่เหลือให้คนปลูกได้เหลือเก็บเลย ก่อนหน้านี้ยังเก็บเอาไปขายเป็นค่าอาหารหมาจรได้ เราไม่ได้หวงนะถ้าเพื่อนบ้านดีกับเรา เราควรทำยังไงดีคะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ"
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30.น.วันที่ 16 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อติดตามความคืบหน้าบริเวณซอยสายรุ้ง (สุขาประชาสรรค์ 46) บ้านเลขที่ 76/29 หมู่5 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นบ้านชั้นเดียวมีลานหน้าบ้านล้อมด้วยลูกกรงและมีต้นมะขามเทศสูงยาวประมาณ 2 เมตรกว่าอยู่บริเวณหน้าบ้าน พบชาวบ้าน น.ส.สุนันทา ประเสริฐสังข์ อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน (เสื้อดำสะพายกระเป๋า) ยืนเท้าเอวประทะคารมโต้เถียงกับชาวบ้านอีกรอบ โดยอ้างว่าตัวเองเป็นคนปลูกต้นมะขามเทศดังกล่าว โดยทางเจ้าของที่เคยมาดูแล้วก่อนจะยกมือไหว้สาบานว่าตนเองเป็นคนซื้อมาปลูก ถ้าไม่เป็นเรื่องจริงขอให้รถชนตาย ยืนยันว่าไม่ให้ตัดต้นต้นมะขามเทศดังกล่าว ส่วนทางชาวบ้านยืนยันเสียงแข็งว่าต้นมะขามดังกล่าวขึ้นเองก่อนที่ น.ส.สุนันทา จะมาอยู่ที่นี่
น.ส.สุนันทา กล่าวว่าตนไม่ยินดีให้มาเก็บ เขามีพฤติกรรมไม่ดีกับตน ตนไม่อยากให้เก็บทั้งที่ต้นนี้ปลูกมานาน เขาก่อความรำคาญตนมาตลอดและตนไม่เคยไปว่า มีแต่ครอบครัวนี้มายุ่งคนอื่นไม่เคยยุ่ง ตนเป็นคนปลูกเจ้าของที่ก็รับรู้ ถ้าต้นไม้ตนถูกตัดก็ถือว่าชนะและได้แกล้งเราไปในตัว ให้ไปจบที่ตำรวจต้องให้มาเคลียร์ตรงนี้ ตนไม่ยอมเหมือนมากลั่นแกล้ง เห็นเยอะๆ เสียงเยอะๆ มีแต่ครอบครัวเขา ไม่ได้มีใครมารวมตัวมีแต่บ้านนี้ที่มาเกลียดตน
น.ส.สุนันทา บอกอีกว่า เรื่องของเรื่องเขามาปลูกบ้านปิดกั้นทางน้ำจนชาวบ้านต้องมาทำท่อ เลยให้เทศบาลมาแหวกทางน้ำเพราะน้ำมันไปท่วมบ้านตน เทศบาลก็มาดูแล้วสร้างความไม่พอใจกับเขา ตนไม่ยอมให้ตัดแต่จะให้ตำรวจมาช่วยตัดสิน ไม่มีใครทั้งซอยหรือทั้งหมดนะ มีบ้านนี้บ้านเดียว ต้นไม้ตนปลูกมาไปสร้างปัญหาอะไรให้เขา ให้มีคำพิพากษามาถึงจะให้ตัด มันมีกฎหมายอยู่แล้วจะมาตัดตอนนี้ไม่ได้เพราะถือว่ามีความผิด
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุก่อนจะให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายไปตกลงกันที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อหาข้อยุติกรณีดังกล่าว