จากกรณีเมื่อกลางดึกของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบศพยายวัย 62 ปี ทราบชื่อภายหลัง นางสมศรี ม่านกระโทก ถูกฆ่ายัดถังขยะ บริเวณเชิงเขาชะโอย หมู่ 10 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี และในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถตามคุมตัวหลานสาววัย 17 ปี ชื่อ นางสาวอรอนงค์ พร้อมนายปฏิพล แฟนหนุ่ม วัย 23 ปี ได้ที่ จ.ตาก เอี่ยวลงมือฆ่าผู้ตายแล้วนำศพมาทิ้งไว้นั้น
ล่าสุด ได้รับรายงานว่าเมื่อคืนที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ประมาณ 22.30 น. หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวทั้งคู่ออกจาก สภ.แม่สอด จ.ตาก ก็ได้แยกทั้งคู่ออกจากกัน บริเวณถนนทางแยก จ.ชัยนาท เพื่อทำการแยกสอบปากคำ
คุมตัวนายปฏิพลไปสอบปากคำที่เซฟเฮ้าส์ในพื้นที่ จ.ชัยนาท และคุมตัวนางสาวอร มาสอบปากคำที่เซฟเฮ้าส์ใน จ.สุพรรณบุรี เป็นที่เดียวกับที่เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายดำรงค์ ม่านกระโทก สามีของผู้ตายมาสอบปากคำ ตั้งแต่ช่วงกลางวันของวานนี้แล้ว
ขณะที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสุพรรณบุรี จับกุม 2 ผู้ต้องหา คือนายปฏิพล จันทรมณฑล และ นางสาวอร ซึ่งเป็นหลานสาวผู้ตาย ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันซ่อนเร้น เคลื่อนย้าย ทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย
ช่วงเช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 10.00 น. นายดำรงค์ ม่านกระโทก สามีของผู้ตาย เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ ระหว่างที่ยังคงอยู่ในความดูแลของตำรวจที่เซฟเฮ้าส์ บอกว่าตัวเองเป็นสามีใหม่ของนางสมศรี และเป็นพ่อเลี้ยงของนางเจริญศรี ซึ่งเป็นแม่แท้ ๆ ของนางสาวอร ผู้ก่อเหตุ
เมื่อคืนนี้ตนมีโอกาสได้คุยกับนางสาวอรผ่านทางโทรศัพท์ หลานสารภาพว่าเป็นคนวางแผนชวนนายปฏิพลก่อเหตุ ร่วมมือกันบีบคอผู้ตาย เพราะที่ผ่านมาโดนผู้ตายดุด่า มีปัญหาทะเลาะกันเป็นประจำ โดยเฉพาะมีอยู่ช่วงหนึ่ง ตนทราบจากผู้ตายว่าหลานกับแฟนหนุ่มจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ หลังเรียนจบ แต่ยายห้ามไว้ ทั้งเรื่องแฟนหนุ่มและเรื่องไปกรุงเทพฯ ทำให้หลานมีอารมณ์โกรธสะสม แต่ตอนแว็บแรกที่ทำไปนั้นไม่ได้ตั้งใจ แค่พลั้งมือพลาดไปเท่านั้น
จากนั้นเมื่อยายเสียชวิต ทั้งคู่ก็เอาศพขึ้นรถแล้วขับมาจากบ้านเช่าที่ จ.นครราชสีมา ตั้งใจจะมุ่งหน้าไปที่บ้านของนายปฏิพล ในพื้นที่ จ.ตาก แต่บังเอิญว่าคิดวิธีอำพรางศพได้ระหว่างทาง จึงเอาศพยายยัดถังในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี และเอาไปซ่อนไว้ที่เชิงเขาชะโอย จ.สุพรรณบุรี แต่เรื่องพฤติการณ์และไทม์ไลน์นั้น ตนไม่ทราบแน่ชัด ครั้งล่าสุดที่ตนได้คุยกับผู้ตายทางโทรศัพท์คือวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย เมื่อคืนนี้หลานบอกกับตนว่า "ขอโทษ หนูทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ"
ภาพวงจรปิดของสถานีรถไฟนครราชสีมา ภายในสถานีในช่วงวันที่ 7 ก.พ.65 เวลาประมาณ 14.52 น. จะเห็นภาพยายหลาน เดินลงจากรถไฟที่มาจากแก่งคอย จ.สระบุรี เวลาประมาณ 14.53 น. เป็นภาพต่อเนื่อง ยายหลานเดินออกจากสถานีรถไฟ เพื่อกลับไปยังบ้านเช่า มีช่วงหนึ่งในคลิปวงจรปิดเห็นว่าหลานสาวเดินนำหน้ายายเเละหันมาคุยบางอย่างกัน ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกัน
ภาพนิ่งกล้องวงจรปิดจากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี บันทึกเวลาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 22.52 น. เห็นผู้ต้องหา 2 คน มาด้วยกันกับรถกระบะตอนเดียว แต่ตอนนั้นยังไม่มีถังอยู่หลังรถ
ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ห้องเช่าดังกล่าว เผยภาพขณะนายปฏิพลและนางสาวอร วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 07.45 น. ขับรถกระบะตอนเดียวสีบรอนซ์เงินเข้าไปที่ห้องเช่า นาบปฏิพลขับ และนางสาวอรนั่งข้างกัน เมื่อจอดรถนายปฏิพลมีท่าทีกังวลและหวงรถ เดินสำรวจรอบรถและมองผ่านกระจกเข้าไปในรถอยู่หลายครั้ง ถอดเสื้อแขนยาวที่ใส่อยู่ปิดกระจกฝั่งคนนั่งคล้ายปิดบังอะไรอยู่
จังหวะนั้นลืมกุญแจไว้ในรถ จึงไปตามช่างที่อยู่คาร์แคร์ห่างจากห้องเช่าประมาณ 100 เมตร ให้มาเปิดประตูรถให้ โดยมีนางสาวอร มายืนดูเป็นระยะ หลังเปิดประตูรถและนำกุญแจออกมาจากรถได้สำเร็จ ก็ได้เข้าไปพักในห้อง ผ่านไปประมาณ 4 ชั่วโมง ก่อนจะเดินออกมาอีกครั้ง เวลา 11.21 น. และขับรถออกไปจากห้องเช่า
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.สามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เป็นหอพักที่ผู้ก่อเหตุเปิดพักอาศัย นางส้มโอ (นามสมมติ) ผู้ดูแลห้องพัก เปิดเผยว่า วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 08.00 น. ผู้ต้องสงสัยขับรถกระบะเข้ามาจอดที่หน้าตึกและทั้ง 2 คน ก็ทำการติดต่อขอเช่าห้องพัก 1 คืน ตนบอกว่าต้องเช็กอินหลังจาก 11.00 น. ทั้งคู่บอกว่าไม่ค้างคืน ขอนอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง ตนก็เลยให้เข้าพัก คิดค่าบริการ 500 บาท และให้นางสาวอรซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินลงชื่อ-ที่อยู่ กับเบอร์โทรไว้
จากนั้นถามกับกลุ่มผู้ต้องสงสัยว่ากำลังจะไปไหนกัน โดยนางสาวอรบอกว่ามาจาก จ.ตาก และกำลังจะไปเที่ยวกัน ระหว่างนั้นทาง นายปฏิพลได้เข้ามาขอความช่วยเหลือให้ช่วยตามช่างมางัดรถกระบะ เนื่องจากว่าฝ่ายชายลืมกุญแจรถไว้ภายในรถ ตนจึงไปตามช่างมาให้ช่วยงัดรถ หลังจากช่างช่วยงัดรถเสร็จ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนก็เข้าไปพักภายในห้องตามปกติ ไม่ได้มีอะไรผิดสังเกต ไม่มีร่องรอย ไม่มีกลิ่นติดตัวมาแต่อย่างใด จนกระทั่งประมาณ 11.30 น. ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ขึ้นรถกระบะขับและออกไป
ช่วงที่ผู้ต้องสงสัยเข้ามาพัก ตนไม่เห็นถังขยะหลังร แต่ภายในรถกระบะของผู้ต้องหานั้นตนไม่ได้สังเกต จึงไม่ทราบว่าผู้ต้องหาอำพรางศพมาหรือไม่ ทั้งนี้ตนก็ตกใจมาก หลังทราบข่าวว่าทั้งคู่เป็นผู้ต้องหาคดีฆ่ายัดถังขยะ ยืนยันว่าสภาพห้องที่ทั้งคู่เข้าพักไม่มีความผิดปกติ
นายธนัท ปานสุวรรณ อายุ 43 ปี เจ้าของคาร์แคร์ที่เข้ามาช่วยงัดประตูรถ บอกว่า ตนไม่ได้เอะใจอะไรเลย เนื่องจากไม่ได้ติดตามข่าว ก็เลยไปช่วย เพราะนายปฏิพลบอกว่าเขามาจากต่างจังหวัดกัน ไม่ได้บอกว่ามาจากจังหวัดไหน ตอนแรกเอาไม้บันทัดเหล็กไปช่วยงัด แต่งัดไม่ได้ ก็เลยชวนนายปฏิพลออกไปที่ตลาดเพื่อตามหาช่างอีกคนที่รู้จัก แต่บังเอิญว่าช่างคนนั้นไม่อยู่ ก็เลยพากันกลับมาที่คาร์แคร์และหยิบเอาซากูไรพร้อมกับไปขอไม้แขวนเสื้อเก่า ๆ จากผู้ดูแลหอมา 1 อัน แล้วก็ไปแหย่ ๆ งัด ๆ จนประตูสามารถเปิดออกมาได้ หลังจากนั้นนายปฏิพลก็ขอบคุณ ตนก็เดินทางกลับทันที
ตอนนั้นไม่ทันได้สังเกตด้านในรถชัดเจน แต่ไม่เห็นว่ามีอะไรสะดุดตา ไม่มีกองอะไรวางอยู่เลย ไม่มีอะไรที่กระบะ บวกกับไม่มีกลิ่นเน่าคละคลุ้งออกมาด้วย มีแค่กลิ่นรถเก่าและและกลิ่นดิน จึงไม่เอะใจว่าจะมีศพอยู่หรือไม่ ซึ่งบุคลิกของทั้ง 2 คนดูหวงรถ ไม่ค่อยยอมให้ใครเข้าไปในรถ ไม่ได้มีสีหน้าแววตาที่ดูเครียด ส่วนที่นายปฏิพลเอาเสื้อปิดกระจกรถนั้น มองแค่ว่าคงบังแดดหรือไม่
กระทั่งเมื่อวานนี้ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาถามถึง ทำให้ตนรู้ว่าคนที่ตนไปช่วยงัดรถคือกลุ่มผู้ก่อเหตุฆ่ายัดถังขยะ ก็รู้สึกตกใจมาก เพราะวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นวันเกิดตนด้วย ตอนแรกที่ไปช่วย ก็คิดในแง่ดีว่าได้ทำบุญแต่เช้า ก็เลยไม่คิดเงิน แต่ไม่คิดว่าคนที่ตนทำบุญด้วยจะเป็นฆาตกร
ภาพวงจรปิดอีกมุมจะเป็นวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 13.45 น. รถคันดังกล่าวมีถังสีฟ้าตั้งตรงอยู่หลังรถ พร้อมกับมีของอยู่กระบะหลังด้วย พิกัดแยกนางบวช จ.สุพรรณบุรี ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 3-4 กิโลเมตร ต่อมาเวลา 13.47 น. ภาพวงจรปิดบริเวณถนนก่อนถึงจุดพบศพ 850 เมตร สามารถจับภาพรถกระบะบรรทุกถังผ่านไปด้วย
ภาพวงจรปิดของสถานีรถไฟนครราชสีมา ภายในสถานีในช่วงวันที่ 14 ก.พ.65 เวลาประมาณ 11.27 น. เห็นเด็กสาว 2 คนสวมชุดนักเรียนโรงเรียนเอกชน ขับขี่รถจักรยานยนต์สีแดง มาที่ด้านหน้าสถานี ก่อนที่นางสาวอรอนงค์จะเดินขึ้นไปด้านบนตึก ส่วนเพื่อนผู้หญิงอีกคนขับรถไปจอดที่ลานจอดรถ เวลาประมาณ 11.43 น. จะเห็นเด็กหญิงทั้งสองคนที่สวมชุดนักเรียนเดินออกมาจากตึกก่อนที่จะเดินไปยังลานจอดรถ และขับรถจักรยานยนต์สีแดงออกไปจากสถานีรถไฟ
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่สถานีรถไฟ นครราชสีมา สอบถามนายอำพล รัตนิยะ นายสถานีรถไฟนครราชสีมา ให้ข้อมูลว่า นางสาวอรได้เข้ามาฝึกงานเดินเอกสารที่สถานีรถไฟ ช่วงประมาณเดือนตุลาคม 2564 ปกติเป็นเด็กเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด เท่าที่เห็นคือเด็กคนนี้จะมีคุณยายมาคอยนั่งเฝ้าทุกวันตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ฝึกงาน ยายจะมาส่งที่ฝึกงาน ใกล้เวลาจะเลิกก็มักจะมานั่งรอรับหลานที่ใต้ตึก ตรงม้านั่งเสมอ
ซึ่งในวันที่ 11 ก.พ.65 ฝึกงานเป็นวันสุดท้าย แต่ช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. 65 นางสาวอรลางาน ไม่ได้มาฝึกงาน จนกระทั่งช่วงวันที่ 13 ก.พ. 65 มีคนเห็นนางสาวอรมาที่สถานีรถไฟอยู่ มีเพื่อนเอามอเตอร์ไซค์มารับ จากนั้นในวันที่ 14 ก.พ.65 นางสาวอรกับเพื่อนผู้หญิงอีก 1 คน ได้ขับรถจักรยานยนต์สีแดงมาที่สถานีรถไฟ เพื่อมาเอาใบส่งตัว โดยทั้ง 2 คน แต่งชุดนักเรียน ซึ่งมีภาพจากวงจรปิดจับภาพไว้ได้
นอกจากนี้ ปกติ 2 ยายหลานมักจะมีการเดินทางจากที่สถานีรถไฟนครราชสีมา ขึ้นรถไฟราคาคนละ 29 บาท เนื่องจากมีส่วนลดไปยังอำเภอเเก่งคอย จังหวัดสระบุรี ทุกวันศุกร์ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. เมื่อก่อนจะพาสุนัขไปด้วยเสมอ จะจ่ายค่าโดยสารของสัตว์เลี้ยงราคาเบื้องต้น 90 บาท และ 2 ยายหลานมักจะกลับมาที่ จ.นครราชสีมา ในวันจันทร์ช่วงเวลา 14.00 น. เป็นประจำ