แม่ช็อกลูกฆ่ายายยัดถัง ปรี่ฉะแม่แฟนหนุ่มก่อนเงิบ เพิ่งรู้เด็กแหกตาทั้งคู่ช่วยกันฆ่า (คลิป)

16 ก.พ. 65

เมื่อกลางดึกของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบศพยายวัย 62 ปี ทราบชื่อภายหลัง นางสมศรี ม่านกระโทก ถูกฆ่ายัดถังขยะ บริเวณเชิงเขาชะโอย หมู่ 10 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี และในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถตามคุมตัวหลานสาววัย 17 ปี ชื่อ นางสาวอรอนงค์ พร้อมนายปฏิพล แฟนหนุ่ม วัย 23 ปี ได้ที่ จ.ตาก เอี่ยวลงมือฆ่าผู้ตายแล้วนำศพมาทิ้งไว้นั้น

208724

ล่าสุด 16 ก.พ. 65 ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสุพรรณบุรี จับกุม 2 ผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันซ่อนเร้น เคลื่อนย้าย ทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตายแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทั้งหมด ก่อเหตุโดยการบีบคอก่อนนำศพยัดถังแล้วขับรถไปทิ้งในป่า

624952253609371390481088634482169308

ส่วนความคืบหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี นางฟ้าใส (นามสมมติ) อายุ 43 ปี แม่ของนายปฏิพล ผู้ก่อเหตุ  เดินทางมาพร้อมกับญาติผู้ชายรวม 2 คน เพื่อเข้าพบลูกชายที่สถานีตำรวจ พร้อมเล่าว่าปกติลูกชายจะไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนไกล ไม่เคยไปต่างจังหวัดเลยด้วยซ้ำ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นวันเกิดของลูกชาย อายุครบ 23 ปีบริบูรณ์ ช่วง 11.00 น. ของวันนั้น หลังจากที่ตนและลูกชายกลับจากเก็บพริกในสวน ก็เห็นว่าลูกชายเอารถของตนมาล้าง เป็นรถกระบะตอนเดียว ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน สภาพเริ่มเก่าแล้ว ตนยืนยันว่าเป็นคนละคันกับที่สื่อนำเสมอมาตลอด 2 วันที่ผ่านมา

907177

ขณะที่ลูกชายล้างรถ ตนก็ตะโกนแซวไปว่า "ลูกชายล้างรถ วันนี้คงฝนตกมั้งเนี่ย" แต่ลูกก็ไม่ตอบ ตนจึงถามอีกว่าจะออกไปไหน ลูกชายบอกว่า "วันนี้เป็นวันเกิดหนู หนูจะออกไปเที่ยวที่เมืองตาก ไปดูเขื่อน" ตนก็บอกว่า "ถ้าเป็นวันเกิดลูก ลูกก็พาแม่ไปกินหมูกระทะด้วยกันไหม ไปเลี้ยงพ่อกับแม่ก็ได้ มีตังค์แล้วนี่" เพราะเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ตนเพิ่งจะปล่อยให้คนมาเช่าไร่ ได้เงินมา 50,000 บาท แบ่งให้ลูกชายใช้จ่าย 18,000 บาท แต่ลูกชายตอบกลับมาว่า "ไม่ครับ หนูจะไปเที่ยวคนเดียว" หลังจากนั้นเวลาประมาณ 12.00 น. ลูกชายก็ขับรถกระบะคันดังกล่าวออกจากบ้านไป

ตนคาดว่าลูกชายคงนัดเจอฝ่ายหญิงที่คิวรถตู้ ตามที่พนักงานขับรถตู้เห็น เพราะตลอดที่ผ่านมา ลูกชายเข้า-ออกบ้านคนเดียวทุกครั้ง และตนก็ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าแฟนลูกมาก่อน จนกระทั่งเวลา 14.39 น. ของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ขณะที่ตนอยู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็คุมตัวลูกชายมาจากคิวรถตู้กลับมาที่บ้าน พร้อมกับบอกว่า "ลูกชายไปบีบคอคนตายกับแฟนสาว แม่อยากจะพูดอะไรกับลูกชายไหม ถ้าไม่พูดจะพาลูกไปแล้วนะ" ตนก็ตกใจมาก จึงพยายามถามลูกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ลูกไม่ยอมเล่า บอกแค่ว่า "แม่ไม่ต้องกลัวหรอก ไม่มีอะไรหรอกแม่" ตนก็เค้นถามลูกว่า "ถ้าลูกไม่บอกแม่ แม่จะขาดใจตายได้นะ แม่ไม่ไหวแล้ว" ซึ่งตอนนั้นตนเห็นว่าลูกเริ่มตัวสั่น และพูดว่า "ผมพูดไม่ออกจริง ๆ ครับ" โดยใช้เวลาในการคุยไม่ถึง 5 นาที จากนั้นตนก็ถามกับตำรวจว่าผู้หญิงอยู่ไหน เพราะอยากเห็นหน้าผู้หญิง แต่ตำรวจบอกว่า "จับได้ด้วยกันนี่แหละ แต่ไม่ได้พามาที่นี่" แล้วก็พาลูกชายตนออกไปที่ สภ.แม่สอด

เมื่อคืนที่ผ่านมา ทันทีที่รู้ข่าวว่าลูกเป็นผู้ต้องสงสัยก็รู้สึกตกใจ และไม่เชื่อว่าลูกจะลงมือก่อเหตุจริง เพราะลูกเป็นคนนิสัยดี เรียบร้อย เงียบ ๆ ทำงานช่วยที่บ้าน ไม่เคยทำให้พ่อแม่เดือดร้อน เป็นเสาหลักของครอบครัวมาโดยตลอด ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะป่วยเป็นโรคไตตั้งแต่อายุ 12 ปี และเพิ่งจะหัดขับรถได้ 2 ปีเท่านั้น เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ลูกชายขับออกไปไกล ๆ คนเดียว จึงยังไม่อยากปักใจว่าลูกชายเป็นคนลงมือด้วยตามที่ตำรวจบอกตนเมื่อวานนี้

534548

ช่วงเที่ยง นางเจริญศรี (สงวนนามสกุล) ลูกสาวนางของผู้เสียชีวิต เป็นแม่ของนางสาวอร ผู้ก่อเหตุ เดินทางมาที่ สภ.เดิมบางนางบวช ทำเรื่องขอใบรับศพที่กำลังชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร ได้เจอกับ นางฟ้าใส (นามสมมติ) แม่ของนายปฏิพล จึงถามถึงเหตุแรงจูงใจในการฆ่าครั้งนี้ ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ทราบว่าลูกของตัวเองคบกัน อีกทั้งยังไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะเป็นประเด็นเรื่องเงิน แล้วกล้าทำถึงขนาดนี้

493616

นางเจริญศรี เปิดใจว่า ตนเองเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของนางผู้ตาย ไม่ใช่ถูกเก็บมาเลี้ยง ตนเองมีลูก 5 คน ผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้หญิงเป็นลูกคนที่ 4 ที่ยกไปให้นางสมศรีเลี้ยงดู ซึ่งมีศักดิ์เป็นยายเลี้ยงตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ผู้เสียชีวิตดูแลผู้ก่อเหตุเป็นอย่างดี อยู่ในสายตาตลอด แม้กระทั่งไปเรียนใน จ.นครราชสีมา ก็เดินทางไปอยู่ด้วย แต่จะมีปากเสียงประจำกับหลาน โมโหง่ายหาเร็ว ปากร้ายใจดี ส่วนนางสาวอรเป็นเด็กหัวอ่อน เรียบร้อย อยู่ในโอวาท ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน

นางสมศรีมีนิสัยชอบเล่นหวยฮานอย และจะถูกได้เงินงวดละ 4-5 หมื่นประจำ และงวดสุดท้ายที่ถูก ตนทราบว่าเป็นเงิน 1 แสนบาท ซึ่งส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อว่าเรื่องเงินจะเป็นชนวนในการก่อเหตุ หากมีโอกาสจึงอยากถามลูกสาวเหมือนกันว่าทำไปด้วยอะไร ทำไมถึงกล้าทำกับยายแท้ ๆ ได้

ทั้งนี้ ตนได้โทรคุยกับผู้เสียชีวิตครั้งล่าสุดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้เสียชีวิตอยู่บ้านที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี กับนางสาวอรแต่ว่าตนไม่ได้เข้าไปที่บ้าน เนื่องจากผู้เสียชีวิตกลัวเรื่องโควิด-19 ตอนนั้นก็ได้มีการคุยกันเรื่องจะให้นางสาวอรเรียนต่อปริญญาตรี จะให้กลับไป จ.นครราชสีมา เพื่อฝึกงานให้เสร็จ แต่อาจจะเป็นไปได้ที่เมื่อผู้ตายทราบว่านางสาวอรมีแฟนจึงไม่พอใจ อาจจะมีการดุด่าไปบ้าง แต่เชื่อว่าไม่เคยลงไม้ลงมือตีหลาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก คาดไม่ถึง ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะกล้าทำผู้เป็นยายได้ขนาดนี้ เพราะที่ผ่านมานางสมศรีเลี้ยงดูหลานเป็นอย่างดี รักมากกว่าตนเสียอีก ทั้งเสื้อผ้าที่ใส่ก็ซื้อให้ โรงเรียนก็ส่งเรียนเอกชน ไม่เคยทำให้รู้สึกขาด

ยอมรับว่านางสมศรีเป็นคนมีเงินจริง แต่ก็ไม่เคยแต่งตัวหรือแสดงพฤติกรรมให้ใครรู้ว่าเป็นคนมีเงิน ในส่วนเรื่องการพกเงินยอมรับว่าผู้ตายเป็นคนชอบพกเงินสด และบัตรเอทีเอ็ม ผู้ก่อเหตุหรือลูกสาวทราบรหัสบัตร เพราะเคยกดให้อยู่ตลอด หลังเกิดเหตุกระเป๋าที่ใส่เงินและบัตรของผู้ตายหายทั้งหมด หากผู้ต้องสงสัยนำไปจริง อยากถามว่าเอาทรัพย์สินเหล่านี้ไปไว้ที่ไหน ถ้าผลออกมาว่าลูกสาวเป็นคนลงมือฆ่าจริง ก็คงไม่ประกันตัว อยากให้เขารับกรรม และได้คิดถึงการกระทำของตัวเอง ไม่ขอสู้คดีต่อ และอยากจะถามทั้งคู่ว่าถ้ารักกันจริงทำแบบนี้ทำไม ทำไมไม่ห้ามกัน หรือถ้าพลาดพลั้งฆ่ายายเพราะโดนกีดกัน หลังก่อเหตุทำไมไม่ชวนกันหนี แล้วปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาจัดการที่เหลือ จะมีการเอาศพยายใส่ถังแล้วไปซ่อนทำไม

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม