หดหู่! เผยแชตลับยายเก็บขยะเลี้ยงหลานทรพีฆ่ายัดถัง แม่แฟนห่วงลูกรับบาปแทน (คลิป)

จากกรณีเมื่อกลางดึกของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบศพยายวัย 62 ปี ทราบชื่อภายหลัง นางสมศรี ม่านกระโทก ถูกฆ่ายัดถังขยะ บริเวณเชิงเขาชะโอย หมู่ 10 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี และในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถตามคุมตัวหลานสาววัย 17-18 ปี ชื่อ นางสาวอรอนงค์ พร้อมนายปฏิพล แฟนหนุ่ม วัย 23 ปี ได้ที่ จ.ตาก ผู้ลงมือฆ่าผู้ตายแล้วนำศพมาทิ้งไว้นั้น

ต่อมา วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายปฏิพลออกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ​ที่เชิงเขาชะโอย​ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นจุดทิ้งศพ

ล่าสุด วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ทีมข่าวเดินทางไปที่ หมู่ 10 ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก พบกับ นางฟ้าใส (นามสมมติ) แม่ของนายปฏิพล อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาฆ่ายัดถัง เปิดใจว่า ส่วนตัวก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมลูกชายที่ต้องโทษอยู่ ตนเองก็ได้สอบถามถึงที่มาที่ไปว่าทำไมต้องฆ่า โดยที่ทางลูกชายอ้างว่าเป็นเพราะแฟนสาวหรือหลานของคนตายเป็นคนสั่งให้ทำ ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าหากฝ่ายหญิงไม่ชวนไป ลูกชายตนก็คงไม่มีทางทำแน่

ส่วนตัวก็อยากจะขอโทษกับครอบครัวผู้สูญเสีย อยากให้เข้าใจว่าจริง ๆ แล้วลูกชายของตนไม่ได้คิดวางแผนจะไปฆ่า แต่เป็นเพราะฝ่ายหญิงหรือหลานคนตายล่อลวงไปให้ฆ่า ทั้งที่ลูกชายของตนไม่เคยรู้จักผู้ตายมาก่อน อยากให้ทางฝ่ายหญิงออกมารับสารภาพกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่จะโยนความผิดให้ทางลูกของตนเพียงฝ่ายเดียว ลูกชายตนเองปกติจะเป็นคนดี ไม่ดื่มเหล้า สูบบุรี่ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ขณะที่ทุกวันตอนเช้าจะช่วยเเม่เปิดร้านขายของชำ และคอยเฝ้าร้านให้ตลอด

ส่วนของคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ตนอยากจะได้ในส่วนของทนายความในการสู้คดี เพราะครอบครัวเองไม่ได้มีเงินทองมากมายที่จะไปสู้คดีได้ หนำซ้ำตนอบากได้รถของกลางที่เป็นกระบะคืน เพราะด้วยอาชีพที่ต้องขายของชำ ต้องอาศัยรถไปชื้อของ แต่ตอนนี้ไม่มีรถเลยลำบาก ถ้าย้อนกลับไปได้หากรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนคงห้ามลูกไว้ แต่ที่ลูกออกไปหาผู้หญิงคนดังกล่าว เขาอ้างว่าจะขับรถไปเที่ยวน้ำตกก่อนจะหายไป ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาออกจากบ้านไปไกล ปกติจะขับไปแค่ใน อ.แม่สอด เพื่อไปหาหมอ เพราะเขาป่วยเป็นโรคไต

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่ ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี นายดำรงค์ ม่านกระโทก สามีของผู้ตาย เปิดเผยว่า ประเด็นเรื่องคนแถวห้องเช่าของยายสมศรีที่เมืองโคราช อยากให้ญาติไปเชิญวิญญาณ เพราะมีคนเห็นวิญญาณภรรยา ทางญาติยืนยันจะไปเชิญวิญญาณแน่นอน คิดว่าวิญญาณของยายสมศรียังคงวนเวียนอยู่ ทางญาติยังไม่มีใครฝันเห็น ได้ยินแค่คนแถวบ้านเช่าลือกันว่าเจอวิญญาณของยายสมศรี

ขณะเดียวกันวันนี้ได้ไปเยี่ยมหลานสาว ไปกับแม่หลาน ไปให้กำลังใจบอกให้หลานสู้ ๆ ให้อดทน กลับตัวเป็นคนดี พ้นโทษออกมาจะได้กลับตัวกลับใจ โดยหลานมีกำลังใจดีขึ้น หลังเจอหน้าแม่และหน้าตนเอง อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าจะดูแลหลานสาวให้ดีที่สุด เพราะตอนที่อยู่กับยาย ยายก็คอยบ่นคอยสอน อยากให้หลานได้ดี แต่ด้วยความที่อายุต่างกัน หลานอายุเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ทัศนคติเลยต่างกัน ตนเองอยากให้อภัยหลาน และหากพ้นโทษออกมาจะได้กลับมาเป็นคนดีของสังคม

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับแชตข้อความที่นางสมศรี ผู้ตาย พูดคุยกับเพื่อน ในทำนองว่าจะเก็บขวดขาย เก็บเงินไว้ให้หลานสาวเป็นค่าเทอม และเลี้ยงดูหลานสาวอย่างดี และส่งภาพที่ถ่ายคู่กับหลานให้กับเพื่อนดูเพื่ออวดด้วยนั้น

ที่บ้านเช่าของนางสมศรี ผู้เสียชีวิต บริเวณหลังวัดสมอราย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อไปถึงพบว่าห้องเช่าจุดเกิดเหตุปิดล็อกคล้องแม่กุญแจไว้ โดยที่ทางญาติยังไม่ได้เดินทางมาเปิดประตูทำพิธีอัญเชิญวิญญาณแต่อย่างใด อีกทั้งจากการสังเกตรถซาเล้งที่ผู้เสียชีวิตใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน ก็ยังคงจอดไว้อยู่ที่บริเวณห้องเช่า โดยที่ยังไม่ได้ถูกทำการเคลื่อนย้าย

นายสุพัฒน์ แสนบุญ อายุ 49 ปี เพื่อนข้างห้องเช่า กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังไม่ได้เดินทางมาที่ห้องเช่าจุดเกิดเหตุเพื่อทำการอัญเชิญดวงวิญญาณ นางสมศรี ผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด โดยห้องเช่ารวมไปถึงรถ จยย. ซาเล้งที่ผู้เสียชีวิตใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวันก็ยังคงปิดล็อก และจอดไว้อยู่ที่บริเวณห้องเช่าเหมือนเดิม

ส่วนนี้ตนในฐานะเป็นเพื่อนข้างห้องเช่า รวมไปถึงผู้เช่ารายอื่น ๆ ก็มีความรู้สึกกังวลและไม่สบายใจ เนื่องจากการเสียชีวิตของนางสมศรี เป็นการตายที่เกิดจากการฆาตกรรม ไม่ใช่ตายธรรมดา อยากให้ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตเดินทางมาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณ ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาให้ถูกต้องตามหลักศาสนาพุทธ

เพราะหลังเกิดเรื่องเจ้าของห้องเช่าเอง ก็ยังไม่ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับทางผู้เช่ารายอื่นเลย ส่วนนี้ก็อยากจะให้ทางเจ้าของห้องเช่าทำการเชิญพระมาทำพิธีรดน้ำมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคลและสร้างความสบายใจให้กับตนและผู้เช่ารายอื่น ๆ ที่ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไป เพราะขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้เช่าทำการย้ายออกหลังจากทราบข่าว

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่สะเทือนใจ เพราะนางสมศรีเป็นคนอัธยาศัยดีต่อผู้อื่น ไม่คิดว่าหลานสาวของนางสมศรีจะก่อเหตุฆ่ายายของเจ้าตัวได้ลง ซึ่งหากมีโอกาสได้พูดกับเจ้าตัวก็อยากจะบอกว่า "ไม่น่าทำแบบนี้" ตนอยากฝากให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์ โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นหลาน ควรรักและให้ความเคารพเอาใจใส่ผู้สูงอายุภายในครอบครัวให้มาก ในวันที่ยังมีโอกาส พร้อมทั้งอยากบอกกับดวงวิญญาณของนางสมศรีให้ไปสู่พระภูมิที่ดี และขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

นายสุที นันขุนทด อายุ 46 ปี เจ้าของแมวที่วิญญาณมาหา กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพเปิดร้านรับเลี่ยมกรอบพระ อยู่ห่างจากห้องเช่าของผู้เสียชีวิตประมาณ 100 เมตร โดยปกติเท่าที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตก็เป็นคนอัธยาศัยดี และมักจะมาชอบพูดคุยกับตนและภรรยา รวมไปถึงมักจะมาหยอกล้อเล่นกับ "เจ้าเทา" แมวบ้าน อายุ 2 ปี ที่ตนเลี้ยงไว้อยู่เป็นประจำ กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งก่อนที่ตนจะทราบเรื่องการเสียชีวิตของนางสมศรึก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น

เริ่มจากช่วงวันที่ 11 ก.พ.65 เวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่ตนนั่งเลี่ยมกรอบพระของลูกค้าอยู่ภายในบ้าน ส่วนภรรยาก็ยืนอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าบ้าน ตนพบเห็นนางสมศรีลักษณะเหมือนคนปกติเดินมาพูดคุยกับภรรยาของตนที่หน้าบ้าน พร้อมกับถามว่า "เอาแมวเข้าบ้านยัง" เสมือนอยากจะมาเล่นกับแมวเหมือนทุกวัน ซึ่งภรรยาก็ตอบว่า "เอาเข้าแล้ว" ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายเข้าบ้าน

ช่วงวันที่ 13 ก.พ.65 ช่วงกลางดึกขณะที่ตนนอนพักอยู่ภายในห้อง ได้ยินเสียงหมาเห่าหอน เสียงดังสนั่นติดต่อกันเป็นเวลานาน เสมือนพบเจออะไรบางอย่าง ก่อนจะได้ยินเสียงแมวขึ้นไปเดินเล่นอยู่บนหลังคา เหมือนเล่นกับใครสักคน กระทั่งตนมาทราบข่าวภายหลังว่านางสมศรีถูกฆาตกรรมเสียชีวิตภายในห้องเช่า ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.65 ตนกับภรรยาจึงรู้สึกตกใจและประหลาดใจว่าหากนางสมศรีเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.65 จริง แล้วบุคคลที่มาถามภรรยว่าเอาแมวเข้าบ้านหรือยังคืออะไร

หากมองตามความเชื่อของตนก็มั่นใจว่าคงเป็นดวงวิญญาณของนางสมศรี ที่อาจยังไม่รู้ว่าตัวเองเสียชีวิต จึงออกมาพูดคุยกับเพื่อนบ้านเหมือนตามปกติ อีกกรณีหนึ่งเจ้าตัวอาจจะมาบอกหรือพยายามสื่อให้ทราบว่าเสียชีวิตแล้ว สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นตนก็ขอแสดงความเสียใจกับคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย เหตุการณ์สูญเสียในครั้งนี้ตนก็ไม่คาดคิดว่าหลานสาวของนางสมศรีที่มีลักษณะเป็นคนเงียบครึมจะตัดสินใจลงมือก่อเหตุดังกล่าวได้

หลังจากทราบว่านางสมศรีเสียชีวิตในห้องเช่าใกล้บ้านตน วันที่ 16 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ตนจึงลองทำการจุดธูปเสี่ยงทายเพื่อขอโชค
ปราฏว่าเลขออกมา 057 ซึ่งทำให้ตนถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว จากลอตเตอรี่ 4 ใบ ได้ใบละ 2,000 บาท รวม 8,000 บาท และถูกหวยอื่น ๆ อีก 15,000 บาท รวม 23,000 บาท สร้างความประหลาดใจให้กับตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก