จากกรณีนักเรียนหญิงวัย 15 ปี ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าว กรณีเข้ากักตัวเพื่อรักษาอาการป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสนามโพสะ ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง และถูกชายที่เข้ามารักษาอาการเช่นเดียวกันลวนลาม และพยายามล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้งนั้น
วันที่ 23 ก.พ. 65 นางสาวฟิล์ม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ผู้เสียหาย บอว่า ตนเข้าการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามโพสะ ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 พร้อมกับเพื่อนในรุ่นที่ติดเชื้อโควิด-19 เหมือนกันอีก 10 คน ลักษณะของที่พัก ไม่ได้มีการแบ่งโซนชายหญิงอย่างชัดเจน และไม่ได้มีเจ้าหน้าที่เดินควบคุมแต่อย่างใด
ตนพบกับนายมิกซ์ อายุ 18 ปี เป็นผู้ป่วยโควิด-19 เหมือนกัน แต่มาคนเดียว และเพิ่งมาหลังจากตนเข้าไปอยู่ได้ 3 วัน ลักษณะเตียงนอนก็อยู่ตรงข้ามปลายเตียงของตน ซึ่งช่วงกลางดึกวันที่ 16 ก.พ.65 ขณะที่ทุกคนกำลังเข้านอนนอน นายมิกซ์ได้เดินมาเปิดมุ้งของตน และพยายามเข้ามานั่งในมุ้ง พร้อมทั้งมีการลูบแขน ลูบขา พยายามผลักตนให้นอนลง
ตอนนั้นเตียงข้าง ๆ เป็นเพื่อนตนก็เห็นเหตุการณ์จึงช่วยกันดึงตนออกมา ทำให้นายมิกซ์เกิดความไม่พอใจเดินออกไป พร้อมทั้งเตะพัดลมตัวเองจนแตกเสียหาย หลังจากนั้นก็มีพฤติกรรมเดินตามตนไปห้องน้ำ ไปนั่งกินข้าวตรงไหนก็ตามมานั่งด้วย
ตนรู้สึกตกใจกลัวมากจึงปรึกษาเพื่อนและญาติ แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ตนก็ไม่รู้จะแจ้งเจ้าหน้าที่อย่างไร เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ตรวจเวรยามเลย ก่อนออกจากโรงพยาบาลสนาม นายมิกซ์พูดกับตนว่าโกรธมาก และถ้าออกจากโรงพยาบาลสนามจะตามไปเล่นงานตนและเพื่อนถึงบ้าน
หลังครบกำหนดการกักตัว ตนก็กลับมาเล่าเรื่องดังกล่าวให้กับผู้ปกครองและครูทราบ ก่อนที่จะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง ให้ดำเนินการ ส่วนตัวอยากให้โรงพยาบาลสนามรัดกุมมากกว่านี้ เรื่องของระบบการแบ่งแยกชายหญิงอย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้อีก ตนก็กังวลใจเรื่องคำขู่ของนายมิกซ์ว่าจะมาทำร้าย แต่พอได้พบกับตำรวจแล้วก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น
นายมิกซ์ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ผู้ถูกกล่าวหา เปิดใจว่า ตอนที่เข้าไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม มีความชอบพอใจกับนางสาวฟิล์ม ซึ่งในตอนแรกก็มีท่าทีว่าจะชอบตนเหมือนกัน เลยพยายามเข้าหาเพื่อที่จะพูดคุยด้วยในลักษณะการจีบสาว พอวันหลัง ๆ มา นางสาวฟิล์มทำท่าทีเปลี่ยนใจ ไม่ชอบตนแล้ว
คืนวันที่ 16 ก.พ.65 ยอมรับว่ามุดมุ้งของนางสาวฟิล์มจริง เพื่อที่จะเข้าไปพูดคุยว่าเกลียดตนหรือไม่ ถึงเปลี่ยนใจที่จะไม่คุยกับตนแล้ว ไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าไปลวนลาม หรือจะทำอย่างอื่น และก็ไม่คิดว่านางสาวฟิล์มจะเข้าใจผิดแบบนั้น ส่วนเรื่องที่มีการข่มขู่ ยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดจริง แต่แค่สอบถามที่อยู่เพราะเผื่อว่าวันหนึ่งจะไปเที่ยวเล่นหานางสาวฟิล์ม ซึ่งตอนนี้ตนอยากขอโทษนางสาวฟิล์มและครอบครัวที่ทำให้รู้สึกไม่ดีและเข้าใจผิด ส่วนเรื่องคดีความ ตนพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับทางเจ้าที่ตำรวจอย่างตรงไปตรงมา และไม่ได้มีความกังวลใจ เพราะไม่มีเจตนาอย่างอื่น นอกจากเข้าไปสานสัมพันธ์
นางจำปา (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ยายผู้เสียหาย บอกว่าตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังหลานสาวเพิ่งออกจากโรงพยาบาลสนาม เล่าให้ฟังว่าถูกชายหนุ่มมุดมุ้งเข้ามาลวนลาม แต่โชคดีที่เพื่อนหลานสามารถช่วยเหลือไว้ได้ทัน ซึ่งตนเข้าใจว่าไม่ได้มีใครอยากติดเชื้อโควิด-19 และคงไม่ได้อยากมาใกล้ชิดผู้ป่วย แต่ตนก็รู้สึกสงสัยว่าทำไมโรงพยาบาลสนามไม่มีการแบ่งแยก ระหว่างผู้ชายและผู้หญิงอย่างชัดเจน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ครอบครัวรู้สึกช้ำใจ เพราะหลานสาวติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ยังต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก กับผู้ก่อเหตุเอง หลานสาวก็เพิ่งไปรู้จักข้างใน และตนก็ไม่ได้รู้จักส่วนตัว ซึ่งไม่ใช่คนใกล้เคียงหมู่บ้านด้วย เบื้องต้นได้มีการเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทองแล้ว เนื่องจากมีความกังวลใจหลังหลานสาวบอกว่าผู้ก่อเหตุข่มขู่ว่าจะมาทำร้ายถึงบ้าน และอยากให้ทางโรงพยาบาลสนามปรับปรุงมาตรการความปลอดภัย และให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีแบบหลานสาวของตน
ด้านพ.ต.อ.นัฎฐพงษ์ ศรีเพ็ญประภา ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำผู้เสียหาย ญาติผู้เสียหาย รวมถึงสหวิชาชีพและศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัด เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการประสานงานไปยังผู้ถูกกล่าวหา จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย