จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Chumpol Punnin ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย โพสต์ภาพหญิงสาวรายหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บและลูกน้อย พร้อมระบุเหตุการณ์ใจความว่า ได้พบเห็นเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ คือ สามีขับรถชนภรรยา ขณะที่ภรรยายังอุ้มลูกอยู่ในอ้อมแขน ทำให้รถเหยียบข้อเท้า และข้อมือของแม่ ทำให้ลูกกระเด็นตกหัวกระแทกพื้นปูดบวม ส่วนแม่ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าและข้อมือขยับไม่ได้ โดยเห็นว่าเด็กร้องไห้ไม่หยุด
วันที่ 20 ม.ค. 62 หญิงสาวผู้เสียหาย ได้เข้าพบ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองระยอง พร้อมลูกชาย ซึ่งทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหญิงสาว ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใด ๆ
ขณะที่
นายจุมพล พูนนิน อายุ 43 ปี อาสากู้ภัย ผู้โพสต์เรื่องราว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ตนได้รับแจ้งให้ช่วยผู้บาดเจ็บ แต่สิ่งที่พบกลับเป็นภาพที่สะเทือนใจอย่างมาก เพราะนอกจากผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บจะตั้งครรภ์ได้ประมาณ 9 สัปดาห์แล้ว ยังพบว่ามีลูกชายวัยขวบเศษ ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ตนซึ่งมีลูกเล็ก ๆ อยู่ จึงเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว และตัดสินใจโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อสะท้อนให้สังคมได้รับรู้ถึงสถานการณ์ของความรุนแรงที่เกิดขึ้น และหวังจะให้เรื่องราวนี้เป็นอุทาหรณ์ ไม่ให้ใครก่อเหตุรุนแรงกับคนในครอบครัวเช่นนี้อีก ส่วนการดำเนินการในเรื่องคดีนั้น เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเข้ามาช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาต่อไป
ขณะเดียวกัน
พ.ต.อ.ดำรง อ้วนสูงเนิน ผู้กำกับการ สภ.เมืองระยอง เปิดเผยว่า วันนี้หญิงสาวผู้เสียหายเดินทางมาที่โรงพัก แต่ไม่ได้แจ้งความสามี และได้ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนว่า ตนเองไปเจอตั๋วหนังในกระเป๋าสามี จึงสอบถามและเป็นเหตุทำให้ทะเลาะกัน โดยมีการยื้อประตูรถ ประตูรถจึงหนีบมือได้รับบาดเจ็บ สามีไม่ได้ตั้งใจทำร้าย และสามีไม่ได้ขับรถไล่ชน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ติดต่อฝ่ายสามี เพื่อสอบปากคำต่อไปแล้ว