วันที่ 22 ม.ค. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในบ้านหลังหนึ่ง ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
โดยพบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว โดยพบศพนางศศิธร เรือนถา อายุ 26 ปี เสียชีวิตอยู่บริเวณทางเดินหลังบ้าน สภาพศพมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งจนกะโหลกยุบ และแผลฉกรรจ์หลายแผล ขณะเดียวกันพบศพนายสมพงษ์ ชื่นใจ อายุ 72 ปี เจ้าของบ้าน แขวนคอเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน
นอกจากนี้ ภายในบ้านที่เกิดเหตุ พบหลักฐานเป็นไม้หน้าสามขนาดความยาวประมาณ 1 ฟุตครึ่ง จำนวน 1 ท่อน มีร่องรอยคราบเลือด ตกอยู่ใกล้เคียงกับศพของนางศศิธร และพบขวดเบียร์มีกลิ่นยาฆ่าแมลง อยู่ใกล้เคียงกับศพของนายสมพงษ์ ผู้ตาย ภายในห้องนอน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ศพของทั้งคู่เสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง และได้นำศพผู้ตายทั้งสองส่งไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางศศิธรซึ่งมีสามีอยู่แล้ว และมีลูกด้วยกัน 3 คน ได้ลักลอบคบหาและมีความสัมพันธ์กับนายสมพงษ์ ซึ่งหย่าร้างกับภรรยาและอยู่เพียงลำพังในบ้านที่เกิดเหตุ โดยระหว่างที่ทั้งคู่คบกัน นางศศิธรมักขอเงินจากนายสมพงษ์ใช้บ่อยครั้ง และทั้งคู่จะแอบมาพบกันภายในบ้านที่เกิดเหตุ
กระทั่งบ่ายวานนี้ (21 ม.ค. 62) นางศศิธรมาหานายสมพงษ์ที่บ้านและเงียบหายไป กระทั่งช่วงเย็น สามีของนางศศิธรตามหาพบรถจักรยานยนต์ของนางศศิธรจอดอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ และพบความผิดปกติ จึงประสานผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยงัดซี่หน้าต่างไม้ของตัวบ้านออก แล้วจึงพบศพผู้ตายทั้งสอง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเบื้องต้นว่า สาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ อาจมาจากความหึงหวง โดยคาดว่านายสมพงษ์น่าจะหึงหวงและไม่พอใจนางศศิธรมาขอเงินอยู่เป็นประจำ และก่อนเกิดเหตุ ทั้งคู่อาจจะมีปากเสียงกัน นายสมพงษ์จึงลงมือใช้ไม้หน้าสามตีนางศศิธรจนเสียชีวิต ก่อนที่จะตัดสินใจฆ่าตัวตายตาม
ขณะที่
เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า นายสมพงษ์ เจ้าของบ้าน อาศัยอยู่เพียงลำพัง โดยประกอบอาชีพทำงานรับจ้างทั่วไป ปกติเห็นว่าเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ส่วนผู้หญิงที่เสียชีวิตนั้น มักจะชอบแวะเวียนมาหานายสมพงษ์อยู่เป็นประจำในช่วงกลางวัน แต่ไม่เคยเห็นนอนค้างคืนที่บ้านเกิดเหตุ ทั้งนี้ ยอมรับว่า ทั้งสองคนอาจจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน และฝ่ายชายอาจจะมีการให้เงินฝ่ายหญิงใช้จ่ายด้วย
โดยก่อนเกิดเหตุ พบว่านางศศิธรมาหานายสมพงษ์ที่บ้านตามปกติเหมือนทุกครั้ง และหายเงียบเข้าไปอยู่ในบ้านด้วยกันทั้งคู่ โดยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ได้ยินเสียงคล้ายเสียงคนมีปากเสียงกัน แต่เข้าใจว่าเป็นการพูดคุยกันปกติ เพราะนางศศิธรมักพูดจาเสียงดังอยู่แล้ว ต่อมาจึงได้ยินเสียงของตกด้วย กระทั่งในช่วงเย็นของวันเดียวกัน สามีของนางศศิธรมาตามหาตัวภรรยา ก่อนจะพบว่าทั้งคู่กลายเป็นศพอยู่ภายในบ้าน
ทั้งนี้
เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า เพื่อนบ้านในละแวกนี้ แทบไม่อยากเชื่อว่านายสมพงษ์จะก่อเหตุเช่นนี้ได้