เอสพีอาร์ซี จ่ายเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วไปแล้วกว่า 50 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าจ่ายกลุ่มประมงให้แล้วเสร็จในสัปดาห์หน้านี้ 120 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจ่ายชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเลระยองของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ เอสพีอาร์ซี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ทางบริษัท เอสพีอาร์ซี ยังคงเดินหน้าจ่ายค่าชดเชยเยียวยาแก่กลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาช่วยเหลือความเดือดร้อนของชาวบ้านกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยวันนี้ (4 มี.ค.) เอสพีอาร์ซี ได้จ่ายค่าชดเชยเยียวยาแก่กลุ่มประมงบริเวณชายหาดแม่รำพึง พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วครั้งนี้ รวม 8 กลุ่ม ประมาณ 300 คน
อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินชดเชยเยียวยาแก่กลุ่มหาดแม่รำพึงครั้งนี้ มีกลุ่มประมงพื้นบ้านบางกลุ่มเกิดความไม่พอใจและจะไม่ขอรับค่าเยียวยา เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มบางรายได้ถูกตัดชื่อออกไป โดยอ้างว่าไม่มีทะเบียนเรือ จนเกิดความไม่พอใจจะไม่ขอรับเด็ดขาด หากเพื่อนสมาชิกในกลุ่มไม่ได้รับเงิน
นายประเสริฐ แสงเมฆ ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านบางกะเชอ กล่าวว่ากรณีรายชื่อตกหล่นนี้เกิดขึ้นทุกกลุ่มประมง โดยทางบริษัท อ้างว่าไม่มีทะเบียนเรือในการทำอาชีพ ทั้งที่ประมงรายนั้นมีตัวตนทำอาชีพจริงและมีเรือจริง ส่วนที่ไม่มีทะเบียนเรือนั้น เป็นเพราะทางราชการไม่ยอมเปิดให้แจ้งลงทะเบียนเรือ จึงทำให้ไม่มีทะเบียนเรือ
สำหรับกลุ่มประมงพื้นบ้านบางกระเชอ มีสมาชิกจำนวน 5-7 ราย มีรายชื่อตกหล่น และขอยืนยันว่าหากเพื่อนสมาชิกไม่ได้รับเงินชดเชยเยียวยา ทางกลุ่มที่มีสมาชิกอยู่ประมาณ 50 คน จะไม่ขอรับเงินชดเชยเยียวยาด้วยกัน เพราะเราจะไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง ให้ได้รับความเดือดร้อนแน่นอน ทั้งที่หาดแม่รำพึงเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุน้ำมันรั่วครั้งนี้และเป็นพื้นที่สีแดงเขตประสบภัยพิบัติไม่สามารถออกทะเลทำอาชีพประมงได้ มาเป็นเวลาร่วมนับเดือน ดังนั้น เอสพีอาร์ซี จึงต้องควรนำไปทบทวนและพิจารณาช่วยเหลือเยียวยา
อย่างไรก็ดี การจ่ายเยียวยาชดเชยเหตุน้ำมันรั่วในทะเลระยองครั้งนี้ เอสพีอาร์ซี ได้เดินหน้าจ่ายชดเชยเยียวมาแล้วตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว โดยได้จ่ายกลุ่มอาชีพอื่น รวม 1,200 คน จำนวนเงิน 14 ล้านบาท และขณะนี้กำลังเดินหน้าจ่ายค่าชดเชยเยียวยาแก่กลุ่มประมงพื้นบ้าน จำนวน 2,660 คน จำนวนเงินกว่า 120 ล้านบาท และยืนยันจะจ่ายกลุ่มประมงให้แล้วเสร็จในสัปดาห์หน้านี้ รวมยอดเงินจ่ายเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไปแล้วจนถึงเวลานี้กว่า 50 ล้านบาท ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ที่กำลังเจรจาเพื่อหาข้อยุติจ่ายค่าชดเชยเยียวยา คือ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวอื่น ๆ กลุ่มโรงแรม กลุ่มร้านอาหาร โดยคาดว่าในกลุ่มสาขาอาชีพเหล่านี้จะมีการจ่ายชดเชยกันเป็นหลักล้านบาทบาทต่อราย เลยทีเดียว และกลุ่มเหล่านี้มีผู้แจ้งลงทะเบียนขอรับเยียวยาไว้กว่า 3,000 ราย ด้วยกัน