ป๊อบ ปองกูล ใส่ดีเอ็นเอ ตัวตน ความรู้สึก ลงซิงเกิล เวลา เพลงรักสุดโรแมนติก

ศิลปินน้ำเสียงอบอุ่น ป๊อบ ปองกูล สืบซึ้ง พี่ใหญ่แห่งค่ายไวท์มิวสิก ส่งซิงเกิล “เวลา”   บอกเล่าเรื่องของคนเราที่มีจังหวะชีวิตไม่ตรงกัน เป็นการร่วมงานกันอีกครั้งกับ  “แอ้ม - อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์”  ผู้แต่งเนื้อร้องและทำนอง ที่เคยสร้างความประทับใจคนฟังมาแล้วอย่าง UNDO, ภาพจำ ฯลฯ 

ครั้งนี้ป๊อบตั้งใจทำงานเพลงเต็มที่ ใส่ดีเอ็นเอตัวตนความรู้สึกลงไปในเพลงได้สุดอบอุ่น  จนเป็นเพลงรักสุดโรแมนติก บวกกับเมโลดี้ที่สวยงาม ที่จะทำให้เราเชื่อมั่นว่าเมื่อถึง “เวลา” เราจะได้พบกับคนที่เราเฝ้ารอ โดย “ป๊อบ” เล่าถึงการทำงานเพลงครั้งนี้ว่า

“ผมไม่ได้ร้องเพลงละครมาค่อนข้างนานแล้ว  เพราะรู้สึกว่าการร้องเพลงละครมันมีความเป็นตัวตนของตัวเองน้อย แต่ครั้งนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่บอย  ถกลเกียรติ  และแอ้ม อัจฉริยา  ซึ่งพี่บอยได้ให้เราตีความเพลงนี้โดยความรู้สึกของเราเอง และจากเมสเสจที่ได้คุยก็รู้สึกว่ามันเป็นพล็อตที่น่าสนใจ เพราะว่าหลายๆครั้งที่เราเห็นความรักที่มันไม่สัมฤทธิ์ผล บางทีทุกอย่างมีวัตถุดิบพร้อมแล้ว แต่มันขาดอย่างเดียวคือเรื่องเวลาแค่นั้นเอง

ซึ่งจากเมสเสจ เรื่องของ “เวลา” ทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่อง  About Time และก็นึกถึงเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ที่ชื่อ The Luckiest  แต่ไม่ได้แปลว่าเราไปเอาสิ่งนั้นเค้ามานะ แค่เป็นแบบเราเก็ตไอเดียของความรู้สึกนั้นมาว่า เรารู้สึกว่าเรื่องเวลานั้นเป็นเรื่องสำคัญ การคลิกของเวลามันเป็นเรื่องสำคัญมาก การที่เข็มยาวเข็มสั้น เข็มวินาทีมันจะเดินทางมาตรงกันเนี่ย ในหนึ่งวันมันมีแค่สองครั้ง และในสองครั้งนั้น ถ้าเราไม่สามารถที่จะคว้าโอกาสมันไว้ได้มันก็จะหลุดลอยไปในทุกๆวัน และผมมองว่ามันจริง ที่ในวันนึงเราเลี้ยวผิดบ้าง เลี้ยวพลาดบ้าง  ผมมองว่าในจุดที่เราเดินทางกับเวลาตลอด สุดท้ายจุดที่เราอยู่ตรงนี้มันอาจจะมีคำตอบของเวลาซ่อนอยู่ ว่าความสุขเราอยู่ตรงจุดไหน ความสำคัญของคนที่อยู่รอบข้างเรามันอาจจะเป็นแค่เราหันไปมองและก็เห็นมันก็ได้ อันนี้คือแง่มุมของผมที่ผมเข้าไปร้องเพลงด้วยบรรยากาศนั้นนะ

ในสวนของเอ็มวี ได้น้องตรี ภรภัทร และน้องเฟิร์น นพจิรา มาแสดงให้ในเอ็มวีนี้ด้วย  เป็นเนื้อเรื่องที่ถ่ายใหม่ทั้งหมด มีพาร์ตที่ผมร้องซิงค์อยู่ด้วย และเป็นพาร์ตของเนื้อเรื่อง ที่มีการใส่อะเรนจ์เมนท์เรื่องของเวลา นาฬิกาเข้าไป  บรรยากาศในเรื่องก็จะเป็นในตึก ที่พระเอก นางเองจะมีการเดินสวนกันไปมาในช่วงเวลาต่างๆ ซึ่งหลายครั้งอาจจะเคยเจอกันแต่ไม่เคยทำความรู้จักกัน เชื่อว่าหลายคนก็อาจจะเคยเป็นแบบนี้ ก็อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสทดลองฟังเพลงๆนี้ ผมไม่รู้ว่าจะเหมาะสมกับคุณในฟังก์ชันไหน อาจจะเหมาะสมกับเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกเพราะ หรือดูแล้วอินกับละครก็เป็นฟังก์ชันที่เราก็ต้องการทั้งหมด

มันเข้ากับละครได้ดีและมันเข้ากับตัวผมได้ด้วย และก็ถ้าเป็นฟังก์ชันที่ฟังแล้วรู้สึกถึงชีวิตตัวเองความรู้สึกของตัวเอง ก็เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่ผมก็อยากให้เกิดกับทุกๆเพลงรวมถึงเพลงนี้เหมือนกัน เรารู้สึกว่าเราตั้งใจทำโดยการที่ดึงดีเอ็นเอของตัวเราเอง ความรู้สึกของตัวเรา ความรู้สึกที่เรามีมุมมองต่อเวลา ไม่ว่าจะเป็นกับแอ้ม หรือกับผมเองเนี่ย คืออยากให้เป็นในมุมมองที่มันสามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตของคนคนนึงได้ ก็หวังว่าฟังเพลงนี้แล้วคุณจะมีความหวังกับการหมุนของเวลาว่าวันนึงมันจะหมุนให้เราไปเจอะเจอกับใครบางคน หมุนให้คนที่เราเจ็บปวดเริ่มบรรเทาเบาบางลงไปได้  ไปไกลจากเรามากขึ้น และหมุนให้คนที่เรารักเค้าเข้ามาในวงรอบของเราได้ครับ”