จากกรณี นายเอกลักษณ์ ชุมทอง อายุ 20 ปี ชาว จ.สงขลา นักมวยจากค่ายสิงห์มาวิน ฉายา “ร้อยเชิง สิงห์มาวิน” เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันที่ 27 ม.ค. 62 หลังถูกออกหมายจับ ข้อหา ห้ามมิให้นักมวยรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักมวยกระทำการล้มมวย ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบทราบผู้ก่อเหตุรับเงินล้มมวย จากการว่าจ้างของเซียนมวยเป็นเงิน 60,000 บาท
วันที่ 28 ม.ค. 62
นานธัชนนท์ คชชาสุวรรณ เจ้าของค่ายมวยสิงห์มาวิน เปิดเผยว่า คู่มวยที่ร้อยเชิงขึ้นชกเกิดขึ้นตั้งแต่ 20 ธ.ค. 61 ซึ่งวันดังกล่าว ตนไม่ได้เดินทางไปดูด้วย เนื่องจากติดธุระ หลังการชกนักมวยค่ายตนแพ้ ตนก็สงสัยว่าทำไมถึงแพ้ เนื่องจากวันดังกล่าวคู่ชกของร้อยเชิง เป็นคู่มวยที่เป็นรองกว่ามาก เป็นไปได้ยากที่ร้อยเชิงจะแพ้ แต่ตนเองไม่ได้คิดอะไร จากนั้นวันรุ่งขึ้นมีคนรู้จักส่งแชตมาประมาณว่า มีคนที่คาดว่าเป็นคนจ้างวานร้อยเชิงให้ล้มมวย ตนจึงคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก ประกอบกับพบความผิดปกติของร้อยเชิง เนื่องจากช่วงก่อนชก ร้อยเชิงเริ่มมีพฤติกรรมแปลก เริ่มก้าวร้าวกับผู้ฝึกซ้อม ขาดซ้อมบ้าง เก็บตัวคนเดียวบ้าง เมื่อชกเสร็จครั้งล่าสุดร้อยเชิงก็หายออกไปจากค่าย ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ตนมาทราบว่าร้อยเชิงกลับบ้านช่วงปีใหม่ ซึ่งผิดแปลกจากนักมวยคนอื่นๆ ที่ปกติหลังชกเสร็จ ควรนอนที่ค่ายก่อน
จากนั้น ตนได้รับข้อมูลว่า มีนักมวยที่ซ้อมในค่ายตน ประมาณว่าไปเล่นพนันมวยออนไลน์ แต่กลับเล่นฝั่งตรงข้ามกับร้อยเชิง ทั้งที่เขานอนห้องเดียวกัน ซึ่งมีความเชื่อมโยงว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งร้อยเชิงกลับมาวันที่ 13 ม.ค. 62 ตนนัดหมายเซียนมวย และนักมวยของเขาเข้ามาที่ค่าย
สุดท้ายทุกคนมาที่ค่าย ตนจึงนำโทรศัพท์ของร้อยเชิงมาดูข้อความการสนทนา พบว่าถูกลบข้อความออกหมดแล้ว แต่พบข้อความแชตของนักมวยอีกคนเกี่ยวกับการล้มมวย ตนจึงส่งข้อมูลดังกล่าวให้ตำรวจนครบาล และนักมวยทั้งหมดยอมรับสารภาพ และหลังจากนี้ ร้อยเชิงคงกลับมาสู่วงการมวยไม่ได้อีก เป็นการจบเส้นทางชีวิตในวงการมวยตลอดไป
ทั้งนี้ ตนอยากให้จับคนจ้างวานให้ได้ และเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างกับเด็กที่อยู่ในค่าย โดยวันนี้ตนไปประกันตัวให้ร้อยเชิง เพราะถึงแม้จะทำผิด แต่ตนสงสาร จึงประกันตัวให้เพื่อออกมาต่อสู้คดี
ด้าน
นายกัมปนาท ชูสุวรรณ เจ้าของค่ายมวย ก.กัมปนาท โค้ชของ ดาว ก.กัมปนาท ผู้ชนะของการชก เปิดเผยว่า วันที่ขึ้นชกกับร้อยเชิง ตนยอมรับว่า ดาว เด็กของค่ายตนกระดูกมวยอ่อนกว่า คือเป็นรองในด้านประสบการณ์ แต่ตนคิดว่ารูปร่างของดาวสูงใหญ่และได้เปรียบกว่า ขณะชกตนมองว่าดาวเป็นรองแค่ในยกแรก ซึ่งตั้งแต่ยก 2 จนถึงยกสุดท้าย ฝั่งของตนได้เปรียบ และออกอาวุธจนร้อยเชิงดูกลัว สะดุ้ง และแพ้ไปในที่สุด ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าในตอนนั้นร้อยเชิงตั้งใจล้มมวยหรือไม่ เพราะตนก็เพิ่งมารู้ข่าวว่าร้อยเชิงล้มมวย
ซึ่งในวันนั้น ค่าตัวของร้อยเชิงได้ถึงเกือบ 60,000 บาท แต่ดาวได้แค่ 30,000 บาท อีกทั้ง ตนยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มมวย เพราะในวงการมวยจะรู้ดีว่า ตนอาจจะเป็นคนเดียวในประเทศไทย ที่เป็นเจ้าของค่ายมวย แต่ไม่เล่นมวย อย่างไรก็ตาม สำหรับเซียนมวยที่จ้างล้มมวย ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร