สาวร่ำไห้โดน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็น ตำรวจ หลอกโอนเงิน 800,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้เป็นเงินขายที่นาของแม่เพื่อเอาเงินไปปลูกบ้านอยู่ ถูกหลอกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินต้องโอนเงินไปให้ตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.ศรีสะเกษ ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ น.ส.มะลิวัลย์ อัฐทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่1 บ้านหนองครกต.หนองครก อ.เมืองศรีสะเกษ อาชีพผู้ช่วยห้องยาโรงพยาบาลแห่งหนึ่งได้เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.สำราญศักดิ์ แซงเพชร พนักงานสอบสวนอาญา/เทคโนโลยีด้วยอาการเศร้าเสียใจสุดขีดเนื่องจากว่า น.ส.มะลิวัลย์ได้ถูกคนร้ายหลอกให้โอนเงินไปให้จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรก 2,000 บาท และครั้งที่ 2 จำนวน 751,000 บาท
ซึ่งน.ส.มะลิวัลย์ได้โทรศัพท์แจ้งไปยังธนาคารแล้วแต่ทางธนาคารแจ้งว่าจะต้องนำเอาหลักฐานการแจ้งความจากพนักงานสอบสวนไปยื่นเรื่องขอระงับการโอนเงินจำนวนทั้งหมดได้จึงได้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ช่วยเหลือเรื่องนี้โดยด่วน
น.ส.มะลิวัลย์ ให้การด้วยอาการเศร้าเสียใจมากว่ามีคนโทรมาแจ้งว่ามีพัสดุของตนส่งมา แต่ไม่สามารถส่งได้ ศุลกากรได้ยึดไว้เนื่องจากมีปัญหาโดยให้ตนโทรไปที่ไปรษณีย์แห่งหนึ่งตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ชายคนดังกล่าวให้มา ตนจึงได้โทรไปที่หมายเลขดังกล่าวซึ่งปลายสายอ้างว่าเป็นพนักงานคนหนึ่งได้บอกว่ามีบุคคลแอบอ้างใช้ชื่อในการจัดส่งพัสดุต้องห้ามผิดกฎหมาย โดยหน่วยงานที่แจ้งคือไปรษณีย์พนักงานผู้แจ้งชื่อ น.ส.รุ่งที่จัดส่งพัสดุวันที่ 11 ก.พ. 65 เวลา 13.15 น. ชื่อผู้รับพัสดุหยางลี่ถิง ที่อยู่ 522/03 ถ.จงซัง เขตลี้วัง มณฑลกวางโจว ประเทศจีน 510145 เบอร์โทร.13912737889 หมายเลขอ้างอิงจากศุลกากร 0008963418 ในกล่องพัสดุตรวจพบมีพาสปอร์ต 8 เล่มบัตร ATM 9 ใบ เสื้อผ้า 6 ชุดพาสปอร์ตและบัตร ATM ถูกซุกซ่อนอยู่ในเสื้อผ้า
โดยผู้ที่โทรมาบอกว่าเกี่ยวกับคดีฟอกเงินและบอกว่าให้ติดต่อกับตำรวจสภ.เชียงรายเขาจึงได้โทรไปติดต่อกับตำรวจสภ.เชียงรายให้จากนั้นให้ตนคุยกับคนที่อ้างว่าเป็นตำรวจและให้แจ้งความโดยเขาบอกว่าให้แจ้งความตามข้อความที่ตนจดเอาไว้เมื่อตนได้โทรไปอีกเขาบอกว่าให้แอดไลน์เพื่อจะได้คุยกันใน LINE
น.ส.มะลิวัลย์อัฐทองให้การต่อไปว่าตนจึงได้แอด LINE เข้าไปเขาจึงได้เช็กข้อมูลของตนว่าตนชื่อนามสกุลอะไร ตนจึงได้แจ้งไปเขาได้แจ้งให้ทราบว่าตนมีคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินเพราะว่ามีคนเอาชื่อของตนไปแอบอ้างเปิดสมุดบัญชีให้กับชายคนหนึ่งขณะนั้นตนตกใจมากแม้แต่ชื่อตำรวจตนก็จำไม่ได้ด้วยเขาบอกว่าชายคนนี้เอาชื่อของตนมาเปิดบัญชีธนาคารเป็นชื่อธนาคารกรุงเทพไปใช้ในการฟอกเงินจำนวนเงิน 8,000,000 บาททำให้ตนยิ่งกลัวมาก
เขาบอกว่าต้องให้ตนแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการแจ้งบัญชีของตนให้เขาตรวจสอบว่ามีเงินของชายคนนี้โอนเข้ามาหรือไม่ในการฟอกเงินโดยเขาถามว่าบัญชีของตนมีบัญชีอะไรบ้างตนจึงได้บอกไปว่ามีบัญชีธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพานิชย์มียอดเงินจำนวนเท่าไหร่เพื่อที่เขาจะได้ตรวจสอบบัญชี โดยให้ตนโอนเงินเข้าไปบัญชีของคนที่จะตรวจสอบโดยแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบปปง.ตนก็สงสัยว่าทำไมจะให้โอนเงินไปก่อนแล้วจะตรวจสอบได้เหรอเอาแค่เลขบัญชีไปตรวจสอบไม่ได้เหรอ เขาบอกว่าไม่ได้จะต้องเห็นเงินว่าเงินมาจากที่ไหนบ้างมีเงินโอนมาจากการกระทำผิดกฎหมายหรือเปล่า ตนก็ได้บอกไปเลขบัญชีอีกเล่มหนึ่งที่ยังไม่มีเงินเขาได้ขู่มาว่าจะต้องบอกเลขบัญชีมาให้หมดไม่เช่นนั้นมันจะมีความผิดเพราะว่าปกปิดข้อมูลไว้หากมีการตรวจสอบเจอจะมีความผิดร้ายแรงจำคุกกี่ปีกี่ปีเขาก็ว่าไปทำให้ตนยิ่งกลัวมาก
ตนจึงได้โทรไปถามอีกคนหนึ่งว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่เขาก็บอกว่าคำพูดที่พูดออกมานี้เขาได้บันทึกไว้หมดแล้วหากพูดอะไรที่ไม่ดีออกมามันจะเป็นการหมิ่นประมาทนะ เอาไปใช้ในชั้นศาลได้ทำให้ตนยิ่งกลัวมากกว่าเดิม ตนจึงได้ถามไปว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างเขาจึงให้โอนเงินเข้าบัญชีของคนชื่อแสงรวี วิเศษสิน ซึ่งจะเป็นคนตรวจสอบบัญชีเสร็จแล้วจะโอนเงินกลับมาให้เมื่อทำการตรวจสอบเงินเสร็จแล้วว่าบัญชีเงินของตนไม่มีเงินจากการกระทำผิดกฎหมายเข้ามาในบัญชี พร้อมทั้งให้ตนส่งเลขบัญชีของตนที่จะโอนเงินกลับมาเข้าไปให้ด้วยพร้อมกับแนบสลิปที่ตนส่งเข้าไปตนจึงได้ทำตามทุกอย่าง เขาแจ้งว่าให้รอการตรวจสอบ 30 นาที โดยให้ถือสายรออยู่จากนั้นเขาจะโอนเงินกลับ
น.ส.มะลิวัลย์ อัฐทอง ให้การว่าตนจึงได้นั่งรออยู่ 30 นาทีโดยถือสายรออยู่เนื่องจากเขากำชับว่าห้ามวางสายเด็ดขาดยังคงเป็นการบันทึกคำให้การของตำรวจอยู่ตนก็ไม่ได้วางโทรศัพท์เลยจากนั้นโทรศัพท์ได้ตัดไปเองตนจึงรู้ได้ทันทีว่าโดนหลอก
ขณะนั้นตนทำอะไรไม่ถูกตนจึงได้โทรไปที่ธนาคารเพื่ออายัดเงิน เขาบอกว่าเงินที่โอนออกไปแล้ว เขาไม่สามารถจะอายัดได้จะต้องไปแจ้งความแล้วเอาหนังสือแจ้งความมาแจ้งให้ธนาคารทราบ เพื่อที่ธนาคารจะได้ทำเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อระงับการโอนเงินตามขั้นตอนของธนาคาร ตนจึงได้มาแจ้งความที่สภ.เมืองศรีสะเกษเงินที่โอนไปมีจำนวนทั้งสิ้น 751,000 บาท เงินทั้งหมดเป็นเงินของแม่คนเดียวเป็นเงินที่ได้จากการที่แม่ของตนขายที่นาได้เงินมาแล้วได้นำเอามาฝากกับตนไว้เพื่อที่จะได้นำเอาเงินมาสร้างบ้าน
ตนกำลังจะเอาเงินไปทำบ้านให้แม่โดยเมื่อช่วงเช้า ตนก็กำลังคุยกับแม่ว่าจะสร้างบ้านแบบไหนให้เรียกช่างมาทำบ้าน ตนจึงขอให้ตำรวจช่วยติดตามเงินของตนกลับคืนมาให้ด้วย ตนเชื่อมั่นในความสามารถของตำรวจว่าจะสามารถช่วยเหลือตนในเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน
ทางด้าน ร.ต.อ.สำราญศักดิ์ แซงเพชร พนักงานสอบสวนอาญา/เทคโนโลยี กล่าวว่าเรื่องนี้ตนจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบจากนั้นจะได้ทำการตรวจสอบว่าเลขบัญชีธนาคารที่ น.ส.มะลิวัลย์ โอนเงินไปนั้นเป็นบัญชีของผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีหรือไม่ จากนั้นจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผบช.ตำรวจไซเบอร์ ชี้แจงแล้ว ปมดราม่าไล่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้ไปเล่นกับคนอื่น
- บุกรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวบแอดมินชาวไทยกว่า 70 คน หลอกลงทุนแล้วเชิดเงิน เสียหาย 200 ล้าน
- เมียหัวหน้าวงหมอลำ สาวน้อยเพชรบ้านแพง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋นเงินสูญกว่า 2 ล้านบาท
Advertisement