วันที่ 22 พ.ย.67 ทนายเกิดผล แก้วเกิด เปิดใจกับทีมข่าวว่า วันนี้ เมื่อเวลา 09:00 น. ตนเองตั้งใจที่จะเดินทางไปเยี่ยมทนายตั้มที่เรือนจำ แต่ไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ เนื่องจากบุคคลที่สามารถเข้าเยี่ยมได้ ทนายตั้มต้องระบุชื่อว่า ประสงค์ให้เข้าเยี่ยม 10 คน โดยในนั้นไม่ได้ระบุชื่อของตนเอง โดยทางทนายตั้ม ขอสงวนไว้ให้กับญาติ ตนจึงต้องเปลี่ยนให้มาเยี่ยมในฐานะทนายความ แต่ด้วยตนเองยังไม่ได้รับการแต่งเป็นทนายความของทนายตั้ม จึงได้ให้เอกสารกับทนายตั้มเซ็น ซึ่งหากเขาอยากให้ตนเยี่ยมเขาก็เซ็น แต่ถ้าไม่อยากให้ตนเข้าเยี่ยมก็ไม่เซ็น ทั้งนี้ตอนที่ตนเข้าไปก็พบกับทางคุณอ้อ พี่สาว น้องสาวของทนายตั้ม และทนายอาคม เข้าไปเยี่ยมเช่นกัน ซึ่งตนเองก็ได้มีโอกาสยืนพูดคุย เขาก็เล่าเรื่องราวแบบเดียวกันกับที่ทนายตั้ม เคยพูดผ่านสื่อไปก่อนหน้านี้ว่า ให้เงินด้วยความเสน่หา
โดยเจตนาที่ตนเองตั้งใจที่จะเดินทางไปเยี่ยมทนายตั้มครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของคดี แต่เป็นห่วง อยากจะถามแค่เรื่องสารทุกข์สุกดิบ ในฐานะคนเป็นเพื่อน หรือคนรู้จักกัน ส่วนในเรื่องคดี ตนมีความคิดเห็นไม่ตรงกับทนายตั้ม เพราะตนเชื่อในฝั่งของผู้เสียหาย ในขณะที่ทางของทนายตั้มคิดว่า เขาได้เงินมาด้วยความเสน่หา เมื่อความเห็นไม่ตรงกันก็ไม่สามารถเป็นทนายให้ได้อยู่แล้ว
ในส่วนของกระบวนการของทนายตั้มทั้งหมดถามว่าเข้าข่ายอ้างยี้ซ่องโจรหรือไม่นั้น ทนายเกิดผล บอกว่า ยังไม่ชัดเจน หากจะเข้าข่ายจะต้องมีการทำเป็นกระบวนการเป็นกลุ่มจำนวนเกิน 5 คนขึ้นไป หากจะใกล้เคียง ก็จะมีคดีเรื่องเงิน 39 ล้านบาทมากกว่า เพราะค่อนข้างที่จะชัดเจนว่ามีการวางแผนเป็นกระบวนการ แต่จะเกี่ยวข้องกับทนายตั้มมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ส่วนคดีอื่นก็จะเห็นว่าทนายตั้มทำแต่เพียงผู้เดียวไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถ แบบแปลงบ้าน ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
พร้อมให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ทนายตั้มได้พาคุณอ้อยไปเที่ยวที่วัดปลากั้ง จังหวัดเชียงราย ส่วนตัวมองว่า ไม่ใช่ที่เปลี่ยวที่ปราศจากผู้คน เพราะวัดดังกล่าวเป็นวัดใหญ่ การที่ไปทำอะไรไม่ดี น่าจะไม่ใช่ ส่วนเขื่อนเชี่ยวหลาน จากภาพที่ดูก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงามดี แต่ก็ยอมรับว่าเป็นพื้นที่ไม่มีสัญญาณจริง ณ ตอนนั้นส่วนตัวคิดว่าเจตนาทนายตั้มก็คงไม่คิดอะไรหรือไม่ แต่พอมาเกิดเรื่องเกิดราวทาง คุณอ้อย จึงมีการปะติดปะต่อเรื่องประมวลผลว่า น่าจะมีความเชื่อมโยงกัน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นพฤติกรรมของทนายตั้มมีส่วนทำให้เชื่อได้
ในส่วนที่เมื่อวานนี้ ทางด้านของคุณสนธิได้เดินทาง ไปยื่นตรวจสอบมรรยาททนายความของทนายตั้ม ทนายเกิดผลบอกว่า ในเรื่องของการตรวจสอบมรรยาททนายความนั้น ต้องรอดูคดีอาญาของทางทนายตั้มก่อน หากในคดีอาญาทนายตั้มผิดกระบวนการตรวจสอบมรรยาท ทนายความจึงจะสามารถตัดสินได้
ทนายเกิดผล บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเคยเห็นคุณเบียร์ ซึ่งเป็นคนขับรถให้กับทนายตั้มก่อนหน้านี้ เวลาไปทานข้าวกับทนายตั้ม แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะอยู่แต่ที่รถ ส่วนคนที่ชื่อว่าเล็กนั้น ตนเองไม่รู้จักและไม่เคยเห็นแต่มีข้อมูลมาว่าทนายตั้มเคยไปช่วยทำคดีให้เขา
Advertisement