"โคจิ" สารภาพตีลูกเลี้ยงตายโมโหอึเลอะ เมียไม่เชื่อพลั้งมือ แฉเมาไอซ์ทืบศพช้ำ (คลิป)

จากกรณีการเสียชีวิตของเด็กชายนาวา อายุ 1 ขวบ 4 เดือน ภายในบ้านพัก ซอยประชาอุทิศ 14 เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ซึ่งสภาพศพมีแผลศีรษะแตก ปากแตก ใต้คาง และหลังมีรอยช้ำ

ล่าสุด ความคืบหน้าวันที่ 15 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เค้นสอบปากคำนายโคจิ นันท์วงค์ หรือ ตะวัน อายุ 21 ปี พ่อเลี้ยง ตลอดทั้งคืนตั้งแต่เวลา 19.00-23.00 น. ที่ผ่านมา

สุดท้ายนายโคจิรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายทุบตีเด็กชายนาวา ขณะที่นางสาวปนัดดา ดรโนนบุตร หรือ ฟ้า อายุ 20 ปี แม่ของเด็ก ออกไปทำงานในช่วงกลางคืนที่ร้านคาราโอเกะ เนื่องจากเด็กชายนาวาอุจาระโดยขณะที่กำลังนำผ้าอ้อมสำเร็จรูปมาเปลี่ยนให้ เด็กชายนาวาวิ่งไปมาทำให้อุจจาระเลอะเทอะเรี่ยราด จึงหงุดหงิดโมโหและลงมือทุบตีทำร้ายเด็ก

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวนายโคจิไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ อีกทั้งผลตรวจปัสสาวะของนายโคจิยังพบว่าเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหาทั้งหมด 4 ข้อหา ได้แก่ 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย 2.กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมเด็ก 3.กระทำการอันเป็นการรุนแรงในครอบครัว และ 4.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย โดยจะทำการฝากขังตัวผู้ต้องหาต่อศาลอาญาธนบุรี ภายในวันนี้

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง สน.ราษฎร์บูรณะ โดยในเวลา 13.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายโคจิ นันท์วงค์ หรือ ตะวัน อายุ 21 ปี พ่อเลี้ยง ออกมาจากห้องขัง เพื่อนำตัวไปส่งศาลอาญาธนบุรี ทีมข่าวอสอบถามนายโคจิขณะเดินขึ้นรถถึงสาเหตุที่ลงมือทำร้ายเด็กชายนาวา และอยากจะขอโทษอะไรใครหรือไม่ แต่เจ้าตัวตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “พลั้งมือตีน้อง”

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาออกจาก สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหามาชี้จุดทำแผนในที่เกิดเหตุอีกครั้ง แต่กันสื่อไม่ให้เข้าไปเก็บภาพภายในบ้านที่เกิดเหตุ

นายโคจิ ผู้ต้องหา กล่าว ๆ ว่า “เด็กดื้อ พลั้งมือ” เมื่อถามว่าอยากขอโทษอะไรครอบครัวเด็กชายนาวาหรือไม่ เจ้าตัวเพียงพยักหน้า ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวออกไป ซึ่งขณะนั้นมีญาติของเด็กชายนาวาเข้าไปตีศีรษะนายโคจิ 1 ครั้ง

จากนั้น ครอบครัวก็ได้นิมนต์พระ 1 รูป จากวัดเลาพระราม 2 ไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของเด็กชายนาวา ครอบครัวได้จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ เพื่อขอให้เปิดทางให้ทางครอบครัวพาดวงวิญญาณของน้องนาวาไปยังวัดเลา

นายสะอาด ศรีธิเลิศ อายุ 53 ปี ตาของเด็ก เป็นผู้ตีศีรษะของผู้ต้องหา บอกว่าปกติแล้วเด็กชายนาวาไม่ใช่เด็กดื้อ เป็นเด็กที่ทุกคนรัก ตนโมโหที่ผู้ต้องหาไม่ขอโทษครอบครัวของตน โดยสิ่งที่ตนทำยังน้อยเกินไปกับสิ่งที่ผู้ต้องหาทำ ปกติแล้วจะเห็นแต่ในข่าวว่าพ่อเลี้ยงทำร้ายลูกเลี้ยง ตนไม่คาดคิดว่าจะเจอกับตัวเอง สุดท้ายขอให้หลานไปสบาย

นางสาวปนัดดา ดรโนนบุตร หรือ ฟ้า อายุ 20 ปี แม่ของเด็ก ที่กำลังร้องไห้กอดศพลูกชายภายในศาลาวัด บอกกับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนมาขออาศัยอยู่บ้านของผู้ต้องหา หลังจากที่ทะเลาะกับแม่ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากเคยรู้จักกัน จากนั้นก็ตกลงคบหากันในข่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยตนทำงานในเวลากลางคืนที่ร้านคาราโอเกะ ตนก็จะฝากให้ผู้ต้องหาดูแลลูกให้ บางครั้งลูกอาจมีรอยเขียวช้ำ ผู้ต้องหาก็จะบอกว่าลูกล้ม ตนก็ไม่ได้เอะใจ แต่ระยะหลังเวลาตนจะฝากลูกให้ผู้ต้องหาดูแล ลูกก็จะร้องไห้ ตนก็คิดว่าลูกอยากอยู่กับแม่ ไม่เคยคาดคิดว่าผู้ต้องหาจะทำร้ายลูกของตน

ทั้งนี้ ตนทราบว่าผู้ต้องหาเสพยาไอซ์ แต่ปกติผู้ต้องหาก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายตนหรือลูกของตนให้ตนเห็น ส่วนประเด็นข่าวเมื่อคืนวานนี้ที่ออกมาว่าตนให้การไม่ตรงกับผู้ต้องหา ตนช่วยผู้ต้องหา ตนขอชี้แจงว่าตอนแรกตนตื่นขึ้นมาในเวลา 15.00 น. ตนอยู่ลำพังกับลูกชาย จนตนรู้ว่าลูกชายเสียชีวิต ตนจึงโทรแจ้งแม่ของตน จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ตนก็ได้ตามตัวผู้ต้องหาให้มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนไม่ได้โกหกว่าผู้ต้องหาไม่อยู่บ้าน ตนไม่ได้เข้าข้างผู้ต้องหา

ทั้งนี้ ตนคล้ายกับมีบางสังหรณ์มาก่อน โดยคืนวันที่ 13 มีนาคม ตนขับรถจักรยานยนต์ออกไปทำงาน แต่เนื่องจากรถของตนไม่ค่อยดี จึงให้แม่เลี้ยงของผู้ต้องหาขับมาส่งตนกลางทาง แล้วตนจะนั่งรถแท็กซี่ไปทำงานต่อ ขณะนั้นตนอุ้มลูกชายไปด้วย เมื่อตนต้องขึ้นรถแท็กซี่ ลูกชายของตนก็ร้องไห้ตาละห้อย ไม่รู้ว่านี่จะเป็นลางหรือไม่ เมื่อตนกลับมาถึงบ้านในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 14 มีนาคม ตนเห็นลูกนอนหลับอยู่ จึงไม่เอะใจว่าเกิดเรื่องร้าย กระทั่งตื่นมาในช่วงเย็น 15.00 น. ลูกชายก็ปลุกไม่ตื่นแล้ว สำหรับประเด็นที่ผู้ต้องหาบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าโมโหที่เด็กชายนาวาอุจจาระเรี่ยราด ตนยอมรับว่าลูกของตนดื้อ แต่ก็ไม่ควรทำร้ายเด็ก

ตนรักลูกของตน ตนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามผู้ต้องหาทั้งคืนว่าตีเด็กชายนาวาหรือไม่ ผู้ต้องหาบอกไม่ได้ตี จนสุดท้ายยอมรับว่าตีแขนและไหล่ แต่ตนไม่ปักใจเชื่อ ตนเชื่อว่าผู้ต้องหาไม่ได้พลั้งมือทำร้ายเด็ก แต่จงใจ เนื่องจากลูกของตนมีรอยเขียวช้ำทั้งตัว และคาดว่าอีกฝ่ายน่าจะมีการใช้ของแข็งตีลูกของตนด้วย เพราะถ้าพลั้งมือ คงไม่พลั้งถึงตาย อยากบอกลูกชายว่า "แม่ขอโทษนะลูก แม่ไม่รู้ว่าเขาจะทำแบบนี้ แม่ขอโทษ"