จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการล็อกตัวจับกุม "หลวงปู่เดือนชัย" หรือ พระเดือนชัย หรือ พระหลักชัย สร้างสุระ อายุ 62 ปี หลังก่อเหตุเมาแล้วขับรถฝ่าไฟแดง บริเวณบ้านคำอาฮวน ต.คำอาฮวน จ.มุกดาหาร มิหนำซ้ำเมื่อค้นตัวยังพบยาเสพติด ยาบ้าจำนวน 37 เม็ด ก่อนคุมตัวไปสึกและนำไปดำเนินคดี ซึ่งเป็นอดีตพระที่โด่งดังจากข่าวลุงพลนั้น
ล่าสุด วันที่ 16 มี.ค. 65 ร.ต.อ.บัณฑิต คำไพ รองสว.(สอบสวน) สภ.นิคมฯ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อวานหลังจากทำการสึกอดีตพระเดือนชัยแล้ว ยังไม่ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหา เพราะผู้ต้องหายังไม่สามารถให้การได้ เนื่องจากอยู่ในอาการเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง
ซึ่งวันนี้จะทำการสอบสวนให้เสร็จ พร้อมกับส่งตัวไปที่ศาลมุกดาหาร โดยเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา 5 ข้อหา 1.ยาเสพติดประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) 3.ขับรถเสพเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) 4.เมาแล้วขับ 5.ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ซึ่งอัตราโทษร่วมทั่งหมดแล้วไม่ต่ำกว่า 15 ปี
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พูดคุยกับผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดใจว่า ตนเคยรักและเคารพศรัทธาพระเดือนชัยมาก ช่วงที่คดีน้องชมพู่กำลังดัง และได้เดินทางไปขายลอตเตอรี่ที่สำนักสงฆ์ของพระเดือนชัยที่จังหวัดอุดรธานี ตอนนั้นพระเดือนชัยถูกไล่ออกจากวัดที่จังหวัดมุกดาหารแล้ว ต่อมาพระเดือนชัยได้เข้ามาตีสนิทและบอกว่าจะเหมาลอตเตอรี่ของตนจนหมดแผง ตนดีใจมาก จึงยอมขายลอตเตอรี่ให้พระเดือนชัยไป เป็นเงินจำนวน 200,000 บาท แต่พระเดือนชัยตอนนั้นบอกว่าจะโอนเงินให้ทีหลัง ด้วยความเชื่อใจจึงยอมให้พระเดือนชัยเอาลอตเตอรี่ไปก่อน
แต่เมื่อเวลาผ่านไปพระเดือนชัยก็ยังไม่ยอมโอนเงินคืนให้ ตนพยายามทวงเงินหลายรอบ ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงพยายามเป็นลูกศิษย์คอยทำทุกอย่างให้พระเดือนชัย หวังว่าจะได้เงินคืน ลงทุนขนาดย้ายครอบครัวไปนอนกางเต็นท์ที่สำนักสงฆ์เพื่อรอเอาเงินจากพระเดือนชัย
กระทั่งมีอยู่คืนหนึ่งระหว่างที่กางเต็นท์รออยู่นั้น มีผู้ชายคนหนึ่งเป็นคนขับรถของพระเดือนชัย เดินเข้ามาเรียกให้ไปหาพระเดือนชัย โดยพาไปที่ก่อไผ่ข้างสำนักสงฆ์ ลักษณะเป็นต้นไผ่ล้อมรอบ มีผ้าม่านกั้นสำหรับทำพิธี เมื่อเปิดผ้าม่านเข้าไป เห็นพระเดือนชัยกำลังยืนแก้ผ้าและกำลังช่วยตัวเองอยู่ พร้อมบอกว่าจะขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย ตอนนั้นตกใจมากจึงพยายามปฎิเสธ แต่พระเดือนชัยก็ไม่ยอม นำอวัยวะมาวางไว้บนหัวของตน และบังคับให้อมอวัยวะเพศ ตัวเองขัดขืนจึงถูกพระเดือนชัยผลักและไล่ให้ออกไป
นอกจากนี้ มีพฤติกรรมอีกหลายอย่างที่เห็นระหว่างการเป็นลูกศิษย์ เช่น บรรดาลูกศิษย์ใครเข้ามากราบไหว้ศรัทธา ก็จะต้องกินฉี่ กินอุจจาระของพระเดือนชัย เจ้าตัวอ้างว่าของพวกนี้จะสามารถถอนคุณไสยล้างมนตร์ดำได้ มีบุญบารมี ลูกศิษย์บางคนที่เชื่อก็จะยอมกินกันเป็นปกติ ส่วนตนและลูกสาวก็เคยถูกบังคับให้กินฉี่พระเดือนชัยเช่นกัน แต่ที่ต้องกินนั้นไม่ได้เกิดจากความศรัทธา แต่จำเป็นต้องทำทุกอย่างให้พระเดือนชัยเชื่อใจ หวังจะได้เงินคืน ซึ่งต้องทนอยู่ในสภาพแบบนั้นเกือบ 1 เดือนเต็ม กว่าพระเดือนชัยจะเชื่อใจและยอมโอนเงินคืนให้ เมื่อได้เงินเสร็จตนและครอบครัวก็ขนของออกจากสำนักสงฆ์ทันที และจะไม่กลับไปอีก
นอกจากนี้ พระเดือนชัยเสพยาบ้า มั่วสีกามานานแล้ว ชาวบ้านในละแวกไม่มีใครเคารพศรัทธา มีก็แต่ชาวบ้านคนนอกพื้นที่เท่านั้น ซึ่งที่ตัวเองออกมาแฉพฤติกรรมพระเดือนชัยนั้น ก็เพราะไม่อยากให้ใครต้องมาเจอแบบตนอีก
ทีมข่าวเดินสำรวจโดยรอบ พระเดือนชัยได้ลงยันต์ไว้ทั่วทุกมุมของสำนักสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นกำแพง ประตู ต้นเสา หรือแม้กระทั่งจานดาวเทียมโทรทัศน์ แผงโซลาเซล ก็ยังมียันต์เขียนอยู่
พบขวดพลาสติกซึ่งบรรจุน้ำสีเหลือง คล้ายปัสสาวะถูกบรรจุใส่ขวดอยู่ในลังกระดาษ พบถังสีส้มภายในบรรจุน้ำอะไรบางอย่าง เมื่อเทออกมา พบคล้ายอุจจาระอยู่ในถัง ส่งกลิ่นเหม็นเป็นอย่างมาก ตรงกับข้อมูลของชาวบ้านที่บอกว่าพระเดือนชัยมักจะให้ลูกศิษย์ดื่มกิน อีกทั้งยังพบรองเท้าผู้หญิง 1 คู่ ขวดเบียร์ กระป๋องเบียร์ ถูกทิ้งไว้โดยรอบสำนักสงฆ์อีกด้วย
ทีมข่าวสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง บอกว่าตัวเองนั้นไม่เคยศรัทธาในตัวพระเดือนชัยมานานแล้ว และไม่เคยเข้าไปที่สำนักสงฆ์ถึงแม้ว่าบ้านจะอยู่ใกล้กันก็ตาม โดยก่อนที่พระเดือนชัยจะถูกตำรวจจับเรื่องยาเสพติดก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา เพิ่งจะเป็นวันเกิดของพระเดือนชัย คืนวันนั้นมีการจัดงานปาร์ตี้วันเกิดให้กับพระเดือนชัยที่สำนักสงฆ์ มีการเปิดเพลงเสียงดังมาก และมีบรรดาลูกศิษย์ต่างมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก ไม่คิดเลยว่าพระเดือนชัยจะมาถึงจุดจบแบบนี้
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของแม่พระเดือนชัย พบกับน้องสาวและคุณแม่พระเดือนชัย กำลังนั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้าน ทีมข่าวสอบถามพูดคุยว่าทราบข่าวเรื่องที่ลูกชายถูกจับเรื่องยาเสพติดแล้วหรือยัง ซึ่งแม่และน้องสาวทำหน้างงอยู่สักพัก บอกว่าไม่ทราบข่าว กำลังรอลูกชายกลับบ้าน เพราะหายไปตั้งแต่เมื่อวาน พยายามเดินไปตามหาที่สำนักสงฆ์ เอาข้าวไปให้ลูกแต่ก็ไม่เจอตัว แม่ของอดีตพระเดือนชัยขอให้ทีมข่าวเปิดข่าวให้ดูว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยน้องสาวพระเดือนชัยร้องไห้อย่างหนัก พูดอะไรไม่ออก ส่วนแม่พระเดือนชัยได้แต่ก้มหน้าเศร้า
แม่และน้องสาวพระเดือนชัย เปิดใจว่า พวกตนเห็นพระเดือนชัยหายออกไปจากสำนักสงฆ์ตั้งแต่เมื่อวาน ไม่รู้จริง ๆ ว่าพระเดือนชัย ออกไปไหน ไม่คิดเลยว่าลูกชายจะถูกจับเรื่องยาเสพติด และที่ผ่านมาก็ไม่ทราบจริง ๆ ว่าลูกชายเสพยาบ้า แต่ยอมรับว่าพระเดือนชัยดื่มเบียร์จริง และก่อนที่ขับรถออกไปจากสำนักสงฆ์ก็ดื่มเบียร์มาหลายขวด เสียใจที่พระเดือนชัยทำแบบนี้
ทีมข่าวสอบถามต่อว่าแล้วที่ผ่านมาพระเดือนชัยคอยมาช่วยเหลือดูแลคุณแม่และครอบครัวบ้างหรือไม่ ซึ่งแม่และน้องสาวต่างส่ายหัว บอกว่า ไม่ค่อยได้มาดูแลเท่าไรนัก เพราะพระเดือนชัยชอบใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมากกว่า