กรณีดราม่าแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง "พิมรี่พาย" หรือ น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ จนแฮชแท็กติดอันดับหนึ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ หลังจากที่พิมรี่พายออกมาไลฟ์สดขายของตามปกติ แต่กลับมีคอมเมนต์เข้ามาในบางช่วงของการไลฟ์สดว่า "คนดูน้อยจัง" ทำให้พิมรี่พายตอบกลับด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรง และด้วยท่าทีที่โมโห
ทั้งนี้ มีบางช่วงที่พิมรี่พายพูดประมาณว่า ตนก็แค่คนขายของธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มีข่าวในกระแส ก็แค่คนธรรมดาเป็นแม่ค้าออนไลน์ของประเทศไทย คนรุมดู 2.9 หมื่นคน แต่มีบางคนเมนต์ว่า "คนดูน้อยจัง" แม้ทีมงานจะพยายามเตือนผ่านไลฟ์แล้ว แต่พิมรี่พาย ก็หันกลับไปตอบว่า "ไม่ต้องเตือน" ก่อนจะฟาดโต๊ะ ฟาดของรอบ ๆ ตัว
นอกจากนี้ พิมรี่พาย ระบุอีกว่า "สาระแนมาบงการว่าคนดูน้อย ชีวิตตัวเองเอารอดหรือยัง การที่มาบอกว่าชีวิตพิมรี่พายตกต่ำ เอาเครดิตอะไรมาพูด พิมเรียนจบ ม.6 คนที่มาวิพากษ์วิจารณ์จบ ป.ตรี ป.โท ป.เอก ดอกเตอร์ พิมฟ้องเรียกเงินมาหมดแล้ว พิมให้เครดิตคนที่มาด่าสูง ๆ เลยว่าจบ ป.ตรี เงินเดือน 14,000 บาท รู้หรือเปล่าว่าภาระเงินเฟ้อตอนนี้มากที่สุดในรอบ 13 ปี บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังตรึงราคาไม่ไหว บริษัทที่คุณทำงานอยู่ให้เงินเดือน 16,000 บาท เรียนจบ ป.ตรี มาด้วยการกู้ กยศ. รู้หรือเปล่าว่าเงินเดือนที่ได้นั้นติดลบ รู้หรือเปล่าว่ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบ่งครึ่งทุกวัน เอาเครดิตอะไรบอกว่าพิมตกต่ำ ทำไมไม่เอาเวลาไปคิดว่า จะทำยังไงให้ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น แล้วจะเอาอะไรมาพิพากษาตน เอาเครดิตอะไรมาบอกว่าพิมตกต่ำ ตกต่ำตรงไหน"
อย่างไรก็ตาม หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีกระเเสดราม่าโจมตีพิมรี่พายว่าทำเกินกว่าเหตุ รวมถึงพฤติกรรมดังกล่าวดูไม่เหมาะสม เป็นการดูถูกคนจน ทั้ง ๆ ที่พิมรี่พายก็เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน
ขณะที่ “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” อดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง ก็ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า “ไม่ได้ว่าจะเห็นด้วยกับพิมรี่พายนะ แต่คนบางคนสมควรโดนด่า ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะรวยหรือจน คนประเภทว่าชอบระรานคนอื่น ชอบค่อนแคะคนอื่น คนที่ไม่ได้มีอะไรดีกว่าเขา ทำไม่ได้เหมือนอย่างเขา แต่ชอบเสนอหน้าไปดูถูกหรือบั่นทอนกำลังในการทำมาหากินของเขา ผมเข้าใจอารมณ์แบบพิมรี่พายเลยนะ ประเภทว่า ตอนนี้คนดูไลฟ์น้อยลงนะ ดับแล้วสิ ทองไปไหน ขายกินหมดแล้วหรอ ชีวิตดูตกต่ำลงนะ คนแบบนี่ไม่ใช่คนรวยหรือคนจน แต่คนแบบนี้คือพวกนังป้าข้างบ้าน ซึ่งไม่ได้มีชีวิตอะไรดีกว่าชาวบ้านเขาหรอก แต่ชอบสาระแน ดูถูกถากถาง ซึ่งสมควรโดนด่า ปล.ไม่ว่าจะรวยหรือจน เราก็ไม่มีสิทธิ์ไประรานหรือดูถูกชีวิตคนอื่น”
ล่าสุดวันที่ 17 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับ นายณัฐพล ม่วงทํา หรือ หนุ่ย เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน และที่ปรึกษาด้านการตลาดแถวหน้าของเมืองไทย กล่าวว่า ปรากฎการที่เกิดขึ้นในมุมของการตลาด เชื่อว่าจำนวนคนดูที่ลดลงอาจจะเป็นผลพ่วงเรื่องระบบเฟซบุ๊กที่ปิดกั้นการมองเห็น รวมไปถึงด้วยความที่คนบางคนอาจจะกดติดตามเพจร้านต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะ ซึ่งทำให้เพจของพิมรี่พายไลฟ์สด ไม่สามารถมองเห็นได้ ก็เชื่อว่าเป็นปัจจัยส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้ อีกปัจจัยที่มีผลต่อคนดู คือ เรื่องของการตลาด รวมถึงคู่แข่งในโซเชียลฯ ที่บางรายมีการจัดโปรโมชันส่งฟรี ลด แลก แจก แถม แต่กลับกันพิมรี่พาย ยังคิดค่าขนส่งในราคา 111 บาท ซึ่งเมื่อลูกค้ามีตัวเลือกที่ดีกว่า ก็ไม่แปลกที่เขาจะเลือกสิ่งที่คุ้มค่าและถูกกว่า เป็นเรื่องปกติในมุมการตลาด เพราะการตลาดจริง ๆ แล้ว ปัจจัยแรกที่คนจะเลือกซื้อหรือไม่ ก็คือเรื่องของค่าขนส่ง
"ถามว่าคนดูหายไปครึ่งต่อครึ่ง มุมนักการตลาดมองว่าหากหายไปเกินครึ่ง ก็ค่อนข้างน่าคิด แต่ต้องบอกว่ายอดคนดูไม่ได้เป็นตัวแปรหลัก ว่าคนนิยมหรือไม่ เพราะจริง ๆ แล้วต้องย้อนกลับไปดูที่ระบบหลังบ้าน ว่าจำนวนคนสั่งชื้อยังคงเท่าเดิมหรือคงที่ ซึ่งยอดการสั่งซื้อตัวนี้แหละคือชี้ชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาได้รับผลกระทบจริงหรือไม่ เพราะบางทีคนดูเพิ่มขึ้นหลักแสน แต่ยอดสั่งซื้อเท่าเดิม" นายณัฐพล กล่าวให้ฟัง
อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถฟันธงได้ว่ากระแสที่เกิดขึ้นของพิมรี่พาย ยอดการสั่งสินค้าจะตกลงหรือไม่ เพราะตนไม่ทราบถึงตัวเลขหลังบ้าน แต่หากหลังบ้านยอดขายตกจริง ประเด็นนี้พิมรี่พายก็น่าจะต้องกลับมาคิดทบทวน ว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นการสร้างกระเเส หรือเป็นความผิดพลาดด้วยความไม่ตั้งใจ หากสิ่งที่เขาทำไปต้องการสร้างกระเเสและยอดขาย เขาเองก็คงต้องคิดทบทวนใหม่ แต่ตนเชื่อว่าพิมรี่พายก็คงจะปรับตัวหรือคิดทบทวนในหลักการตลาดใหม่แน่นอน แต่หากเขายังชะล่าใจคิดว่าสิ่งที่ทำถูกต้อง แน่นอนกลุ่มคนดูบางคนอาจจะรู้สึกเปลี่ยนไป สุดท้ายก็จะส่งผลต่อยอดขายอย่างแน่นอน
ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับอีกหนึ่งท่าน ที่เคยออกมาแสดงความคิดเห็น "พิมรี่พาย" เกี่ยวกับดราม่าก่อนหน้านี้ "หมอของขวัญ" หรือ พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เปิดเผยว่า สำหรับดราม่าดังกล่าวตนกลับเห็นด้วยกับพิมรี่พาย แต่ไม่ได้พูดเข้าข้าง เพราะดราม่าสงคราม หรือดราม่าส้มคนรวย ตอนนั้นตนก็ไม่ได้เห็นด้วย แต่พอมาเป็นประเด็นดราม่าครั้งนี้ ตนได้ย้อนดูคลิปแล้ว ก็ไม่เห็นว่าพิมรี่พายพูดผิดไปจากความจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจค่อนข้างแย่ ทำงานกี่ปีจะมีเงินให้พ่อให้แม่ ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นความจริง ถ้าจะผิดก็ผิดตรงที่เขาใช้คำหยาบตามสไตล์ แต่ตนไม่ได้มองว่าพิมรี่พายดูถูกใคร เป็นเพียงการพูดโดยรวมและยึดตามหลักความเป็นจริง
"พี่มองว่าคนที่เข้ามาคอมเมนต์ ต้องการโจมตีหรือต้องการดึงให้คนอื่นลงมาอยู่ในจุดที่ตัวเองเป็นหรือไม่ เพราะหากคนที่อยู่ในไลฟ์เป็นแฟนคลับจริง หรือเป็นเพื่อนรัก เพื่อนชั่ว ตามสไตล์ที่พิมรี่พายพูด พี่คิดว่าเขาคงจะคอมเมนท์ในมุมอื่น และให้กำลังใจมากกว่า เพราะจริง ๆ แล้วเราเองไม่รู้ว่าวันนั้นพิมรี่พายเจอปัญหาอะไรมา อาจจะเป็นวันแย่ ๆ ของเขา หรือเขาเองอาจจะมีปัญหาเรื่องบริษัท เราเดาไม่ได้ แล้วพอมาเจอคำพูดที่ค่อนข้างสะเทือนใจ เป็นใครไม่ปรี๊ดก็คงแปลก ถ้าวันนั้นพี่รู้สึกไม่ดีแล้วเจอเหตุการณ์เหมือนพิมก็คงด่ากลับเช่นกัน" พญ.ของขวัญ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวไม่สามารถตัดสินได้ว่า คนดูไลฟ์สดน้อยลงแล้วรายได้จะลดลงตามไปด้วย ไม่แน่ว่ารายได้อาจจะมากขึ้นด้วยหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพิมรี่พายก็เจอดราม่าหนัก ๆ ตนเชื่อว่าเขาคงปล่อยผ่าน เพราะเขาไม่ผิด หากใครไม่ชอบก็เลื่อนผ่าน แต่ตนก็ยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับพิมรี่พาย ตนเชื่อว่าหากเขาจะขอคำปรึกษาก็คงจะติดต่อเข้ามาเอง