ผลวิจัย พบวิถีชีวิตอยู่เย็น อาจช่วยยืดอายุขัยมนุษย์ได้ สำนักข่าวซินหัวของประเทศจีน เปิดเผยว่า คณะนักวิทยาศาสตร์จีนและสหราชอาณาจักรค้นพบว่า
สัตว์ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมเย็นสบายอาจมีอายุขัยยืนยาวมากกว่า ซึ่งการค้นพบนี้อาจเป็นเบาะแสสำหรับความพยายามแสวงหาหนทางมีอายุยืนยาวของมนุษย์
คณะนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีขั้นสูงเซินเจิ้น สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ร่วมมือกับคณะผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเวินโจว มหาวิทยาลัยเหลียวเฉิง และมหาวิทยาลัยแอเบอร์ดีน ดำเนินการทดลองในหัวข้ออุณหภูมิร่างกายส่งผลต่ออายุขัยของหนูอย่างไร
ก่อนหน้านี้เหล่านักวิทยาศาสตร์คาดว่าสัตว์ที่มีอัตราการเผาผลาญอาหารสูงมักมีอายุขัยสั้นกว่าสัตว์ที่มีอัตราการเผาผลาญอาหารต่ำ ส่วนการศึกษาครั้งนี้ คณะนักวิจัยนำหนูแฮมสเตอร์อยู่ในสภาพอุณหภูมิสูงราว 32.5 องศาเซลเซียส และพบว่าอัตราการเผาผลาญอาหารของพวกมันลดลง ขณะอุณหภูมิร่างกายเพิ่มสูงขึ้น
คณะนักวิทยาศาสตร์ของการศึกษาครั้งนี้ ซึ่งเผยแพร่ผลการศึกษาผ่านวารสารเนเจอร์ เมตาบอลิซึม (Nature Metabolism) ยังพบอายุขัยของหนูแฮมสเตอร์ เพศผู้และเพศเมีย ที่อยู่ในสภาพอุณหภูมิสูงดังกล่าวลดลงร้อยละ 41 และร้อยละ 28 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับหนูที่อาศัยอยู่ในสภาพอุณหภูมิราว 21 องศาเซลเซียส
นอกจากนั้นคณะนักวิจัยทดลองใช้พัดลมขนาดเล็กเป่าอากาศเหนือตัวหนูที่อยู่ในสภาพอุณหภูมิสูง และพบว่าการเป่าลมไม่ส่งผลต่ออัตราการเผาผลาญ เพียงแต่ลดอุณหภูมิร่างกายลง ซึ่งอุณหภูมิร่างกายที่ลดลงนี้ทำให้อายุขัยของหนูกลุ่มดังกล่าวฟื้นสู่ระดับเดียวกับหนูที่อยู่ในอุณหภูมิ 21 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้ คณะนักวิจัยตั้งสมมติฐานว่าอุณหภูมิร่างกายเป็นตัวแปรสำคัญต่ออายุขัยมากกว่าอัตราการเผาผลาญ ดังนั้นมนุษย์จึงอาจควรใช้ชีวิตแบบ “อยู่เย็นและแก่ตาย” แทนการดำเนินชีวิตเชื่องช้าและระแวดระวังเพื่อยืดอายุขัยก็เป็นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผลวิจัยพบการดื่ม กาแฟ - ชา อาจลดเสี่ยงโรคสมองเสื่อมและภาวะสโตรก
- ผลวิจัยพบสารประกอบสำคัญ 2 อย่างจาก กัญชา อาจป้องกันการติดเชื้อได้
- ผลวิจัยของสหรัฐฯพบ ดื่มกาแฟ - กินผัก อาจป้องกันการติดเชื้อได้