กรณี “แตงโม-นิดา” ดารา-นักแสดงชื่อดังพลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม เขตจังหวัดนนทบุรี ขณะกำลังล่องเรือกับเพื่อน ๆ รวม 5 คน โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมถึงนักประดาน้ำ ช่วยกันระดมพลค้นหาร่างตั้งแต่ช่วงกลางดึกในคืนวันที่ 24 ก.พ. 65
ต่อมา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ ได้มีการลงพื้นที่ไปยัง ประตูระบายน้ำใกล้กับวัดลุ่ม จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ ที่บันทึกภาพเรือในวันเกิดเหตุได้เชื่อโยงหาหลักฐานเพิ่มเติม และคราบเลือดที่พบใกล้ประตูระบายน้ำนั้น
ทีมข่าวได้กล้องบริเวณประตูระบายน้ำ เทียบกับมุมกล้องของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งฝั่งซ้ายของจอจะเห็นมุมไกลเป็นพื้นที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นจุดที่นางสาวแตงโมตกจากสปีดโบ๊ต ส่วนมุมขวาของจอเป็นมุมกล้องของประตูระบายน้ำวัดลุ่ม ช่วงเวลาคาดว่าเกิดเหตุ 22.32 น. ฝั่งซ้ายจะเห็นแสงไฟของเรือสปีดโบ๊ตขับผ่านเรือลากทราย ส่วนฝั่งขวาของมุมจอจะเห็นว่าชายใส่เสื้อกล้ามสีน้ำเงินลุกขึ้นจากจุดที่นั่งตกปลาอยู่ เดินขึ้นไปด้านบนประตูระบายน้ำ ใกล้กับจุดที่ ส.ส.เต้ เจอกองเลือด
วันที่ 21 มี.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ ไปยังบริเวณประตูระบายน้ำใกล้กลับวัดลุ่ม จ.นนทบุรี สำรวจกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบช่วงเวลาก่อนและหลังเกิดเหตุในคืนวันที่ 24 ก.พ. 65 ตามที่ ส.ส.เต้ ได้มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกองเลือดที่เจอบนประตูระบายน้ำข้างวัดลุ่ม อาจเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องในคดีของนางสาวแตงโมหรือไม่
ในคืนวันที่ 24 ก.พ. ก่อนตกเรือ เวลา 21.39 น. กล้องวงจรปิด 2 ตัว ซึ่งตัวแรกหันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนตัวที่ 2 หันไปที่ประตูระบายน้ำวัดลุ่ม จับภาพชายใส่เสื้อก้ามสีน้ำเงินมาพร้อมกับคันเบ็ดเดินไปมา บริเวณประตูระบายน้ำและเดินเรียบไปกับริมน้ำเจ้าพระยา จังหวะเดียวกันมีเรือแจวสีขาวมีการภายเรือล่องในแม่น้ำเจ้าพระยาเรียบไปกับเขื่อนริมน้ำที่เห็นชายใส่เสื้อสีน้ำเงินเดินผ่าน
เวลา 21.53 น. มุมกล้องจะไม่เห็นชายใส่เสื้อกล้ามสีน้ำเงิน แต่ยังคงเห็นเรือแจวสีขาวพายอยู่ใกล้กับประตูระบายน้ำ จากนั้นช่วงเวลาดังกล่าว เรือแจวก็จะพายวนอยู่ที่เดิม ก่อนที่จะหายไปในประตูระบายน้ำ
ช่วงเวลา 22.12-22.32 น. หลังจากที่ชายใส่เสื้อกล้ามสีน้ำเงินเดินหายไปจากมุมกล้อง เดินมาเรียกเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา กลับมาที่ประตูระบายน้ำจุดเดิม มุมกล้องด้านล่างจะเห็นว่านั่งตกปลาอยู่ นั่งอยู่บริเวณเดิมและเดินไปมาในกล้อง จากภาพเวลา 23.14 น. ก็ยังพบว่าเรือขับวนหาแตงโมอยู่
ทีมข่าวจึงได้สำรวจบริเวณพื้นที่โดยรอบของประตูระบายน้ำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายจั้ม (นามสมมติ) ชาวบ้านที่ขับเรือแจวอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาตามที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด ยืนยันว่า ตนเองมาพายเรืออยู่ในช่วงเวลาตามที่ปรากฏอยู่ในกล้องจริง ตนเองพายเรือแจวออกไปเพื่อวางตาข่ายปลา เป็นกิจวัตรประจำวัน เนื่องจากบริเวณประตูระบายน้ำเนื่องจากมีปลาชุม และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีชาวบ้านคนอื่นมาตกปลาและยิงปลาที่ประตูระบายน้ำ งถ้าดูจากกล้องวงจรปิดก็จะมีชาวบ้านคนอื่นมาอยู่ด้วยกันในช่วงเวลานั้นด้วย เมื่อมีการดูจากกล้องวงจรปิดแล้วยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นใคร ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นคนงานก่อสร้างที่อยู่ในละแวกนี้ก็ได้
ในคืนวันเกิดเหตุ ตนเองอยู่ตั้งแต่ช่วงก่อนที่เรือสปีดโบ๊ตของนายปอแล่นผ่าน จนกระทั่งหลังเวลาเกิดเหตุคือ 22.32 น. ตนเองก็ยังวางขายปลาอยู่บริเวณนั้น ไม่ได้ไปไหน เพราะพายเรือกลับบ้านหลังเที่ยงคืน ตอนที่ตนเองกำลังวางขายปลาก็สังเกตว่ามีเรือสปีดโบ๊ตลำที่เกิดเหตุขับผ่านขึ้นไป ก่อนที่จะขับลงมาและวนอยู่ที่เดิม ได้ยินเสียงคนพูดกันเสียงดังเจี๊ยวจ๊าว แต่จะได้ยินเสียงผู้หญิงคล้ายกับตะโกนหาใครบางคน จนกระทั่งตัวเองไม่รู้ภายหลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่ามีคนตกน้ำ ซึ่งคนนั้นก็คือแตงโม
แต่สำหรับกรณีที่ ส.ส.เต้ ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกองเลือดที่เจอบนประตูระบายน้ำ ส่วนตัวมองยืนยันกับชาวบ้านตรงกันว่าเป็นเลือดปลา ซึ่งอาจเกิดจากการยิงปลา หรือการทุบหัวปลาดุก เพราะตอนที่จับปลามาได้ปลาอาจจะยังดิ้นจึงต้องมีการทุบก่อนที่จะนำกลับบ้านไปปรุงเป็นอาหาร ฉะนั้นจึงไม่ได้คิดเป็นไปตามข้อสมมุติฐานของ ส.ส.เต้ ว่าจะมีใครพากันขึ้นมาทำร้ายที่ประตูระบายน้ำ เพราะในวันนั้นมีทั้งตนเองและชาวบ้านคนอื่นอยู่ที่จุดดังกล่าว ที่สำคัญแม้ว่าตนเองจะอยู่ใกล้กับบริเวณประตูระบายน้ำพร้อมกับชาวบ้านกลุ่มอื่น ๆ ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองเลือดดังกล่าว และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นเกี่ยวกับการตกน้ำของนางสาวแตงโม
ทั้งนี้ ในคืนวันเกิดเหตุแม้ว่าตนเองจะเห็นสปีดโบ๊ต และเจ็ตสกีในกลุ่มเพื่อนของนายปอ มีการขับผ่านไปมาบริเวณท่าน้ำวัดลุ่ม แต่ก็ยืนยันในฐานะที่เป็นพยานมุมมองของชาวบ้านที่หาปลาอยู่บริเวณประตูระบายน้ำ ว่าไม่พบเห็นเรือสปีดโบ๊ตหรือเรือเจ็ตสกีของกลุ่มนายปอผ่านมาเฉียด หรือใกล้กับประตูระบายน้ำ ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนหนึ่งในกลุ่มของเรือสปีดโบ๊ตขึ้นไปก่อเหตุหรือทะเลาะกันบริเวณประตูระบายน้ำตามที่มีคนสงสัย