ตีแสกหน้าแซน! พิสูจน์ท่านั่งเล่นมือถือท้ายเรือทำกูรูงง อึ้งท่าแตงโมฉี่เรือซิ่งขัดความจริง (คลิป)

กรณีกองพิสูจน์หลักฐานและตำรวจชุดสืบสวนในคดีการตายของ "แตงโม" ได้มีการจำลองเหตุการณ์จริง โดยการใช้เรือลำที่เกิดเหตุ มีการทดสอบใช้คมของใบพัดเรือ มีการเฉือนเข้าที่เนื้อหมูเป็นตัว จนกระทั่งทราบว่าบาดแผลมีความใกล้เคียง กับแผลจริงของสภาพศพแตงโมนั้น

โดยจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจำลองเหตุการณ์โดยใช้แซน ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในเรือสปีดโบ๊ตวันเกิดเหตุ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำลองไปอยู่ในตำแหน่งทวินบอร์ด หรือบอร์ดท้ายหรือ

ตามคำให้การยืนยันว่าแตงโมอยู่บริเวณจุดดังกล่าวเพื่อปัสสาวะ ก่อนที่จะตกเรือ และจากคำให้การของแซน ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าในขณะนั้นมีการเล่นโทรศัพท์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระดมทีมพิสูจน์คำพูด "แซน" คดี แตงโม ตำรวจลงเรือขับจริงลองกระชาก งานนี้อาจคดีพลิก (คลิป)

วันที่ 24 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้มีการจำลองการนั่งแบบเอนตัวนอนในจุดท้ายเรือที่แซนนั่ง โดยทีมข่าวใช้เรือโคลบอลต์ขนาด 24 ฟุต ซึ่งมีขนาดที่ใกล้เคียงกับเรือลำที่เกิดเหตุ แต่ตัวเครื่องยนต์แพคใต้เครื่องท้ายเรือ ต่างจากเรือขนาดจริงที่มีเครื่องยนต์อยู่บนบอร์ด

แบบที่ 1 ทีมข่าวทดลองด้วยการไปนั่งท้ายเรือลักษณะเอนนอน แบบที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจำลองนั่ง และให้เรือขับด้วยการกระชากความเร็วเริ่มต้นที่ 0-10 นอต ช่วงที่มีการออกตัว มีความรู้สึกถูกกระชากเล็กน้อย ซึ่งยังพอนอนได้ แต่ทิศทาง และลักษณะท้ายเรือ ค่อนข้างเทลงท้ายมีน้ำเด็นเข้าที่บอร์ดเรือ บริเวณหน้าเรือเชิดขึ้น เนื่องจากว่าเรือยังไม่ขึ้นน้ำ ซึ่งมีโอกาสไหลตกลงได้ หากไม่ได้มีคนจับไว้ หรือสวมเสื้อชูชีพ ซึ่งมีความเสียดสีกับเบาะนั่งพอสมควร

แบบที่ 2 เปลี่ยนความเร็วด้วยการขับด้วยความเร็วออกตัวแบบกระชาก 0-18 นอต ซึ่งเป็นความเร็วตอนที่เรือลำนี้ขึ้นน้ำแล้ว ผลปรากฏว่า ตอนออกตัวมีแรงกระชากในช่วงแรก และลักษณะของเรือจะเป็นแบบ ท้ายกดจมลงน้ำ หน้าเรือเชิดขึ้น จากนั้นประมาณ 5 วินาที เรือก็ขึ้นน้ำปกติ หน้าเรือจากที่เชิดอยู่จะกดลงมาขนาบกับพื้นน้ำ ทำให้ยังคงสามารถนั่งบริเวณท้ายเรือได้ แต่ถ้าเรือเจอคลื่นเรือ จะเกิดการกระแทกกับเรือทำให้บริเวณท้ายเรือกระแทกเล็กน้อย

แบบที่ 3 ใช้การขับเรือปกติไม่กระชาก เริ่มต้นจาก 0 นอต ไปถึง 10 นอต ขับตรงในระยะยาว พบว่าบริเวณหน้าเรือ มีการยกตัวเชิดขึ้น ส่วนท้ายเรือถูกกดจม และลักษณะของเบาะท้ายเรือก็เป็นแบบเทลง ประมาณ 30 องศา ซึ่งก็มีโอกาสไหลตกน้ำแม้เรือวิ่งอยู่เวลามีคลื่นน้ำกระแทก

ซึ่งมีตอนเบรกเรือกะทันหัน พบว่าทิศทางเบรกทำให้ผู้อยู่ท้ายเรือหลังติดเบาะ แต่สำหรับคนบนเรือหากไม่มีที่จับและไม่รู้ว่าจะมีการเบรคกะทันหันก็สามารถทำให้เสียหลักได้

นายธีรพัฒน์ บุญภิรักษ์ อายุ 51 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับเรือ เปิดเผยว่า ลักษณะของเรือในการออกตัวด้วยการกระชาก ความเร็วประมาณ 10 นอต จะทำให้ลักษณะเรือด้านหน้ามีการเชิดขึ้น ส่วนบริเวณท้ายเรือมีการกดลงน้ำ เนื่องจากเรือยังไม่ขึ้นน้ำ ทำให้ลักษณะเรือมีการโต้คลื่น ซึ่งอยู่กับขนาดของเรือ และประเภทของเรือ ที่จะมีอัตราการทำความเร็วในแบบเรือขึ้นน้ำ ในความเร็วที่ไม่เท่ากัน

ซึ่งความเร็วขึ้นน้ำของเรือ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 18-20 นอต แล้วแต่ขนาดเรือ เมื่อเรือขึ้นน้ำแล้ว ลักษณะของเรือจะขนาบกับน้ำ หัวเรือจะกดลงเล็กน้อย ท้ายเรือจะงัดขึ้นตามปกติ แต่หากผู้ขับเรือไม่มีความชำนาญในการดันครันเร่ง ก็อาจจะทำให้เรือเกิดการกระชากแบบไม่ทันตั้งตัว คนบนเรือก็อาจจะเสียหลักถ้าไม่มีที่ยึดจับ ส่วนท้ายเรือไม่เป็นจุดที่ไม่ควรไปอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าเรือจะวิ่งอยู่ความเร็ว 10 นอต หรือ 18 นอตที่เรือขึ้นน้ำแล้ว คนที่นอนท้ายเรือก็มีโอกาสที่จะพลัดตกได้

ส่วนท้ายเรือก็มีสติกเกอร์ติดเตือนสีแดงว่าให้ระมัดระวังท้ายเรือ ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน แน่นอนว่าจุดประสงค์ท้ายเรือมีไว้เพื่อทำกิจกรรมทางน้ำว่ายน้ำ และเรือต้องจอดแบบดับเครื่องสนิทด้วย ส่วนท้ายเรือแม้ว่าการทดลองยังพอนั่งได้ แต่ก็ไม่มีใครนิยมไปนั่ง และคนเล่นเรือส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครแนะนำอยู่แล้ว เพราะอันตรายมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- บุกพิสูจน์ รร.หรู ปิดจริงหรือช่วงแตงโมตาย เจอ 3 ที่รับวีไอพี “แต้ม” ยกคำจีนฟาดสันธนะ (คลิป)
- แม่แตงโม คืนเงินประกัน 1 ล้าน ให้ ลูกกระติก ผ่านตำรวจ
- เปิดสาเหตุ ทำไมมีแค่ ส.ส.เต้ เข้าเอี่ยวช่วยเหลือ คดีแตงโม