กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ แซม สาเมท โพสต์คลิปวิดีความยาว 07.33 นาที พร้อมกับระบุข้อความว่า "ฝากบอกทุกคนที่อยู่เมืองไทย เมื่อกี้ตำรวจไทยจับกู ให้กูจ่ายเงิน ดูมือกูด้วย ลูกกูก็เลี้ยง จะหาเงินจากไหนให้" โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ซอยเมืองใหม่บางพลี 27 ถนนเคหะบางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
ล่าสุดวันที่ 25 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ภายในซอยเมืองใหม่บางพลี 27 ถนนเคหะบางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
นายแซม สาเมท อายุ 49 ปี ชาวกัมพูชา เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นช่วงเที่ยงของวันที่ 23 มีนาคม 2565 ขณะนั้นมีชาย 3 คน อ้างเป็นตำรวจเดินเข้ามาในบ้าน ตนจึงถามว่า "มีอะไรครับ มาติดตามคดีผมเหรอครับ" ฝ่ายที่อ้างว่าเป็นตำรวจแจ้งว่าตนมีความผิด เพราะเป็นต่างด้าวห้ามเปิดร้านขายของ จากนั้นเขาก็ขอเรียกเก็บเงิน แต่ตนไม่มีจะให้
ต่อมาชายที่สวมเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ที่อ้างเป็นตำรวจพูดว่า "อย่ามานั่งทำตัวนักเลงใส่กูนะ" ตนก็เลยโมโหมีปากเสียงกันดังที่ปรากฏในคลิป แล้วก็มีชายอีกคนสวมเสื้อสีเทา เดินเข้ามาขอดูบัตรต่างด้าวของตน ซึ่งตนก็ให้ดูตามปกติ เพราะตนเข้าประเทศไทยมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ หลังจากโต้เถียงกันครู่หนึ่ง ชายทั้ง 3 คนก็กลับออกไป โดยไม่ได้เก็บเงินเพราะตนไม่มีให้ ซึ่งตนและครอบครัวมาอยู่ประเทศไทยเกือบ 30 ปีแล้ว มีลูก 4 คน ลูก ๆ ของตนก็เกิดและเรียนที่ประเทศไทยทุกคน ส่วนสาเหตุที่ตนโมโหจนทนไม่ไหว เพราะตอนนี้ตนไม่ได้ทำงาน พิการมือขวาใช้การไม่ได้ เนื่องจากเดือนตุลาคม 64 ตนถูกคนไทยใช้มีดฟัน เพราะทะเลาะกันเรื่องขายไส้กรอกตัดราคากัน ซึ่งผ่านมาหลายเดือนแล้วคดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงเหมือนว่าพวกเขา 3 คนเข้ามาซ้ำเติม ตนต้องทนทุกข์ทรมานรักษาตัวอยู่หลายเดือน แต่กลับมาเจอเรียกเก็บเงินจึงโพสต์คลิปลงโซเชียลฯ ให้เห็นถึงพฤติกรรมของชายทั้ง 3 คน
ขณะที่ น.ส.จัน ญาติ อายุ 40 ปี ภรรยาชาวกัมพูชา เปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 64 ตนยังเคยถูกกลุ่มคนที่อ้างเป็นตำรวจเรียกเงิน ขณะที่ตนขายไส้กรอกที่ตลาดเคหะบางพลี กลุ่มที่อ้างตัวเป็นตำรวจทำทีมาขอซื้อไส้กรอก ก่อนจะแสดงตัวจับกุมแล้วพาตนขึ้นรถไปโรงพัก อ้างว่าตนมีความผิดเพราะต่างด้าวห้ามเปิดร้านขายของ แต่เขาขับไปจอดแล้วเรียกเงิน 12,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว แต่ตนมีเงินไม่พอจึงโทรศัพท์ไปขอกู้เงินกับคนในตลาด และต่อลองกับกลุ่มชายที่อ้างเป็นตำรวจ ซึ่งวันนั้นคนในตลาดให้ตนกู้เงินเพียง 5,000 บาท ตนจึงนำเงินที่กู้มารวมกับเงินที่ขายของได้รวมแล้ว 10,000 บาท ให้พวกเขาไป
จากนั้นคนที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ยังแจ้งให้ตนทราบอีกว่าต้องจ่ายรายเดือนให้พวกเขาเดือนละ 500 บาท ซึ่งตนก็จ่ายไป 4 เดือน แต่ที่ไม่จ่ายเดือนต่อไปเพราะไม่มีเงิน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในบ้านเยอะ อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากจะขอให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบว่าพวกเขาเป็นตำรวจจริงหรือไม่ เหตุใดต้องทำแบบนี้กับคนที่ทำมาหากิน หากตนและครอบครัวเข้ามาอยู่เมืองไทยอย่างผิดกฎหมาย ก็ยอมให้จับ แต่ตนและครอบครัวเข้ามาอยู่เมืองไทยอย่างถูกต้องทุกอย่าง
นอกจากนี้ ทีมข่าวพยายามติดต่อไปที่ สภ.บางพลี เจ้าของพื้นที่แล้ว โดยผู้กำกับชี้แจงให้ทราบว่า ขณะนี้ตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลในคลิปวิดีโอเป็นตำรวจจริง แต่สังกัด สภ.บางเสาธง เข้าไปตรวจค้นและสอบถามเกี่ยวกับการกระทำผิดซึ่งหน้า ซึ่งไม่ได้มีการเรียกเก็บเงินแต่อย่างใด ส่วนการเรียกเก็บเงินในครั้งก่อน ๆ ตามคำกล่าวอ้างของครอบครัวดังกล่าว กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง