มหาวิทยาลัยสั่งลงโทษ "ให้ออก" 15 นักศึกษารุ่นพี่รับน้องโหด ใช้ไม้ฟาด ชกต่อย และใช้เท้าถีบจนเสียชีวิต ย้ำเป็นบทลงโทษที่ไม่เกี่ยวข้องกับความผิดทางคดีอาญา ที่จะต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบทสรุปของคดีรับน้องโหดจนทำให้ นายพัสยศ ชลภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส.ปี 1 สาขาช่างกลโรงงานวิทยาลัยนวัตกรรมอาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานนครราชสีมา ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.มะเริง อ.เมืองนครราชสีมา แจ้งข้อหา 7 นักศึกษารุ่นพี่ชั้นปี 2 ฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บ และแจ้งข้อหารุ่นพี่ทั้งชั้นรวม 25 คน ความผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ และความผิดฐานทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล เร่งรวบรวมพยานหลักฐานทำสำนวนส่งอัยการเพื่อฟ้องศาลภายใน 30 วัน ส่วนร่างของน้องเปรมครอบครัวได้จัดพิธีฌาปนกิจที่วัดใน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด รองศาสตราจารย์โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเปิดเผยว่า กรณีนักศึกษา ปวส.โปรแกรมวิชาช่างกลโรงงานวิทยาลัยนวัตกรรมอาชีพ ได้จัดกิจกรรมรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ ซึ่งเป็นกิจกรรมไม่พึงประสงค์เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2565 ระหว่างเวลา 18.00-23.00 น. พื้นที่ไร่อ้อยบ้านโนนมะกอก ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จากการสอบสวนของคณะกรรมการปกครองพบว่ามีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 2 เข้าร่วม 67 คน โดยรุ่นพี่ปี 2 สั่งให้รุ่นน้องปี 1 ถอดเสื้อผ้าอีกทั้งยังสลับสับเปลี่ยนกันสั่งการให้ปี 1 หมอบคลานใช้ศีรษะปักพื้น ชกต่อย และใช้เท้าถีบยันนักศึกษาปี 1 จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นความผิดตามระเบียบว่าด้วยการควบคุมความประพฤติของนักศึกษา และเป็นการฝ่าฝืนประกาศมหาวิทยาลัยฯ เรื่องการงดจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ประจำปีการศึกษา 2564 อาศัยอำนาจตามมาตรา 24 และมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ.2548 กอปรกับระเบียบว่าด้วยการควบคุมความประพฤติของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พ.ศ.2549 และประกาศมหาวิทยาลัยเรื่องงดกิจกรรมรับน้องจึงออกคำสั่งมหาวิทยาลัยฯ เรื่องการลงโทษวินัยนักศึกษาดังนี้
นักศึกษารุ่นพี่ ปวส.ปี 2 จำนวน 15 ราย ผู้ร่วมการฝ่าฝืนวางแผนสั่งการควบคุมการดำเนินกิจกรรมทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยการใช้ไม้ฟาด ชกต่อย และใช้เท้าถีบยันเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีความผิดตามระเบียบมีโทษให้ออก
ขณะเดียวกันยังสั่งให้ลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 อีก 10 ราย ฐานมีส่วนร่วมในการวางแผนสั่งการควบคุมการดำเนินกิจกรรมให้รุ่นน้องปี 1 ถอดเสื้อผ้าหมอบคลานและใช้ศีรษะปักพื้นเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ มีโทษผลการสอบของภาคการศึกษานั้นเป็น “โฆษะ” โดยให้บันทึกผลการศึกษาเป็น “W” และลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 ที่เหลืออีก 5 ราย ฐานความผิดเป็นผู้ที่ทราบว่าจะมีการจัดกิจกรรมตั้งแต่การวางแผน การนัดหมายการเดินทาง ตลอดจนดำเนินกิจกรรมจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่ทราบกิจกรรมดังกล่าวขัดต่อประกาศมหาวิทยาลัยฯ แต่กลับไม่ได้ห้ามปรามหรือแจ้งอาจารย์หรือผู้เกี่ยวข้องทราบเพื่อเข้าระงับเหตุ เป็นการร่วมกันสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมให้ลงโทษตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน พร้อมแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ
นอกจากนี้ยังสั่งลงโทษนักศึกษาปี 1 จำนวน 37 ราย ฐานความผิดมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมไม่พึงประสงค์ เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องอันเป็นการขัดต่อประกาศของมหาวิทยาลัย ให้ลงโทษตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน พร้อมแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ อย่างไรก็ตามนักศึกษาที่มีบทลงโทษสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 15 วัน โดยคำสั่งลงโทษมีผลตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2565
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานกล่าวอีกว่า บทลงโทษจากทางมหาวิทยาลัยฯ คนละส่วนกับโทษทางอาญา โดยบทลงโทษให้ออกนักศึกษารุ่นพี่ 15 คน ทุกคนจะต้องมาเขียนใบ “ลาออก” และสามารถนำผลการเรียนของปี 1 ไปใช้ประโยชน์สมัครเข้าเรียนต่อได้ ถือเป็นโทษขั้นสูงใกล้เคียงกับ “ไล่ออก” แต่นักศึกษากลุ่มนี้ยังมีทางเดินทางการศึกษาในอนาคต แต่หากต้องมองไปถึงโทษทางคดีอาญาที่ตำรวจแจ้งข้อหารุ่นพี่กลุ่มนี้ 7 คนฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ซึ่งทั้ง 7 คนรับสารภาพมีการถูกเนื้อต้องตัว “น้องเปรม” จนถึงแก่ความตายโทษในคดีอาญาอาจรุนแรงถึงขั้นขนาดตัดสินอนาคตของเด็กกลุ่มนี้
ทั้งนี้ บทลงโทษที่คณะกรรมการปกครองพิจารณาแล้วนั้นจะเป็นมาตรฐานของมหาวิทยาลัยและเป็นกรณีศึกษาสำหรับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศมหาวิทยาลัยฯ ได้รับความบอบช้ำจากเหตุการณ์นี้ยอมรับสภาพกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและจะวางแนวทางแก้ไขให้ดีที่สุด เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในอนาคตส่วนการช่วยเหลือครอบครัว “น้องเปรม” มีกลุ่มศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยฯ มอบเงินเยียวยา 4 แสนบาท ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยได้ตั้งกองทุนเบื้องต้น 4 แสนบาท ช่วยเหลือน้องสาวของน้องเปรมให้ได้รับทุนเรียนจนจบปริญญาตรี และช่วยเหลือแฟนสาวของน้องเปรมให้เรียนจบปริญญาตรีเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สลด! รุ่นพี่ ม.ดัง สารภาพ รับน้องกลางป่า รุมทำร้ายร่างกายรุ่นน้องจนเสียชีวิตก่อนส่ง รพ.
- ก๊วนรุ่นพี่คอตก ขมาแม่น้องเปรมเหยื่อรับน้อง ฉะอำมหิตทำลูกในท้องกำพร้า
- แก๊งรุ่นพี่ รับน้องโหดจนเสียชีวิต กราบขอขมาพ่อแม่ มหาวิทยาลัย ยันลงโทษตามความผิด