เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นจุดที่เจอร่างของสาวแตงโม ปรากฏว่าวันนี้มีบรรดาแฟนคลับ รวมถึงเหล่าบรรดาดารานักแสดง เพื่อนสนิท และคนรู้จักของนักแสดงสาวทยอยเดินทางมาวางช่อดอกไม้ รูปภาพ ตลอดจนอาหาร กลายเป็นจุดระลึกถึงสาวแตงโม เพื่อแสดงความไว้อาลัยและอธิษฐานจิต
ในวันนี้บรรยากาศท่าเรือมีกลุ่มแฟนคลับจำนวนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า "ริบบิ้นขาว" และกลุ่มที่เดินหน้าทวงความยุติธรรมให้กับสาวแตงโม ประมาณ 20 กว่าคน เตรียมจัดงานรำลึกอาลัยครบ 1 เดือน ซึ่งจัดเป็นซุ้มให้สวยงามทั้ง 2 ฝั่งทางเดินเข้าท่าเรือ ตลอดจนนำเอารูปภาพของสาวแตงโมมาแขวน นำหญ้าเทียมมาปูพื้น รวมไปถึงจัดระเบียบดอกไม้ให้สวยงาม พร้อมข้อความ "แฟนคลับร่วมระลึกถึง แตงโม ภัทรธิดา (นิดา) ขอให้มีความสุขในอ้อมกอดของพระเจ้า ความสุขที่เคยมอบให้ จะอยู่ในความทรงจำพวกเราตลอดไป"
รวมทั้งมีการแขวนป้ายตั้งแต่ทางเข้าท่าเรือ โดยเป็นป้ายสีขาวเขียนตัวหนังสือด้านหน้าระบุว่า "ท่าเรือภัทรธิดา" และข้อความย่อย ๆ ว่า "จะไม่มีใครลืมชื่อภัทรธิดา", "กรรมดีจะติดตัว กรรมชัวจะติดตาม", "นิดา จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป", "กฎแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ", "ไม่มีวันไหนไม่คิดถึง"
นอกจากนี้ ยังมีป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่สีดำ พร้อมรูปภาพแตงโม ระบุว่า "ขอพระเจ้าประทานความยุติธรรมแก่คุณแตงโม" และอีกป้ายระบุว่า ขอความยุติธรรมให้แตงโม ทุกคดีต้องได้รับความยุติธรรม
กฎหมาย = ปิดหู ปิดตา
คนทั้งโลก = ไม่โง่ มองเห็น
โซเชียล = ไม่หยุดติดตามคดี ลุยต่อ
สังคม = ไม่ให้อภัย จดจำตลอดกาล
ต่อมาเวลา 13.20 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางมาร่วมงานพร้อมนำช่อดอกไม้สีขาวมาวางบริเวณตรงท่าเรือพิบูลสงคราม 1 หน้ารูปภาพสาวแตงโม
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่ตนพูดถึงลุงนิด ชาวบ้านที่พายเรือหาปลาในช่วงที่เกิดเหตุ จนเป็นดราม่าให้อีกฝ่ายโดนโจมตีนั้น เบื้องต้นตนได้ติดต่อไปยังลูกสาวของลุงนิด แล้วได้นัดหมายให้ไปเจอที่ สภ.เมืองนนทบุรี ในวันพรุ่งนี้ (28 มี.ค.65) เวลา 10.00 น. ซึ่งการนัดเจอกันครั้งนี้ก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ของลุงนิด เพื่อตนจะได้ขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชนตามที่ลุงนิดต้องการ แม้ว่าที่ผ่านมา ตนจะเคยขอโทษผ่านหน้าจอทีวีไปแล้ว แต่ครั้งนั้นไม่ได้เป็นการขอโทษต่อหน้า ตนจึงตั้งใจจะทำตามตำร้องขอ
"หลายคนมองว่าการออกมาขอโทษ เพราะผมกลัวจะโดนฟ้องร้อง ในส่วนนี้คนอย่างพี่ไม่เคยกลัวอยู่แล้ว ยังไงธนูขึ้นสายแล้วมันไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว การเป็นผู้แทนราษฎร กว่าจะมาถึงวันนี้ พี่โดนมา 200 กว่าคดี แล้วก็ผ่านมาทุกคดี ผมมองว่าการเป็นผู้เเทนประชาชน แล้วกลัวว่าจะโดนคดี ปกป้องตัวเองยังปกป้องไม่ได้ นับประสาอะไรที่จะไปปกป้องประชาชน ถามว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่ มันสุดทางแล้วหมดหน้าที่แล้ว ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ไม่ได้โดนใบสั่งจากใคร เพราะคดีค่อนข้างสุดทางแล้วจริง ๆ" ส.ส.เต้ กล่าว
เมื่อถามต่อถึงโพสต์ล่าสุดที่เตรียมจะตรวจสอบคนที่มากล่าวหา โดยจะขุดคุ้ยคดีเก่าและคดีใหม่ของคน ๆ นั้น จนหลายคนตั้งประเด็นไปที่นายสิระ เจนจาคะ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนก็ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปดูข้อมูล คาดคงมีโอกาสพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนมองว่าสมัยที่เขายังเป็น ส.ส. ตนทั้งคู่ค่อนข้างจะมีคดีกันเยอะ ตนก็ถอนฟ้องทั้งหมด แต่นายสิระ กลับไม่ถอนฟ้อง ตนมองว่าสุดท้ายแล้วจะจบอย่างไรเป็นสิทธิ์ของเขา ส่วนตนขอโฟกัสเรื่องปากท้องและความเดือดร้อนของประชาชนจะดีกว่า
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพบกับ นายวินิต ตรีปัญญา หรือ ลุงนิด อายุ 53 ปี คนหาปลา เปิดเผยว่า หลังจากตนทราบว่า ส.ส.เต้ ติดต่อเข้ามาเพื่อนัดหมายให้ไปเจอกันที่ สภ.นนทบุรี เพื่อจะกล่าคำว่าขอโทษนั้น เมื่อคืนที่ผ่านมา ส.ส.เต้ พยามติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์ของลูกสาว เพื่อที่จะพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับตน ก่อนที่จะนัดหมายเจอกันในวันรุ่งขึ้น แต่เนื่องจากตนไม่ได้อยู่กับลูกสาว ส.ส.เต้ จึงฝากข้อความว่า “อยากจะขอโทษต่อความเข้าใจผิด และพร้อมที่จะแถลงให้สังคมเข้าใจต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขอให้อภัยด้วย” หลังจากที่ตนทราบว่ามีการนัดหมายและพยายามที่จะขอโทษ จึงได้ประสานไปยัง นายสิระ เจนจาคะ ในฐานะคนกลางที่เข้ามาช่วยเหลือ และจัดหาทนายความฟ้องหมิ่นประมาท
จากการสอบถามนายสิระ ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะทุก ๆ อย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตนทั้งหมด ฉะนั้น ตนจึงได้ตัดสินใจที่จะไม่แจ้งความดำเนินคดี แต่จะต้องดูท่าทีของการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ว่า ส.ส.เต้ จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างไร จะตรงกับที่ตนเคยให้สัมภาษณ์แต่ละครั้งหรือไม่ ซึ่งถ้าสังคมเกิดความเข้าใจ ตนก็จะไม่เดินทางไปที่ศาลเพื่อฟ้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท และจะยกเลิกการเดินทางไปที่ศาลทันที แต่ถ้าท่าทีของการแถลงข่าวไม่ได้ทำให้สังคมเข้าใจมากขึ้น และมีแต่เพียงคำว่าขอโทษ ตนก็อาจจะต้องว่าไปตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีสังคมอีกไม่น้อยโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่ยังเข้าใจประเด็นความเข้าใจผิด และกล่าวหาตนว่าเป็นคนไม่ช่วยเหลือนางสาวแตงโม ทั้งที่สิ่งนั้นคือขอนไม้ลอยน้ำ ฉะนั้น ตนก็รู้สึกเป็นห่วงลูกและภรรยา รวมทั้งคนในครอบครัว ที่จะต้องมีผลกระทบและได้รับผลพลอยได้ไปด้วย ดังนั้น การตัดสินใจที่จะไม่เอาผิดทางกฎหมาย ก็เพื่อให้คนในครอบครัวรู้สึกสบายใจ ไม่ต้องมีความกังวลและเป็นห่วงตนเหมือนเช่นทุกวันนี้