เปิดหน้าท้าชน | "ธงชัย ลืออดุลย์" - "อดุลย์ อยู่ยืน" ชิงเก้าอี้ ส.ส.โคราช เขต 1 (คลิป)

จังหวัดนครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ 1 ถือว่าเป็นเมืองหลวงของพรรคชาติพัฒนา ตั้งแต่สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ มาจนถึงยุค สุวัจน์ ลิปตพัลลภ แต่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี 2554 พรรคเพื่อไทยกวาดที่นั่งในจังหวัดนี้ได้มากสุดคือ 8 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนาได้มาแค่ 4 ที่นั่ง และพรรคภูมิใจไทย 3 ที่นั่ง จังหวัดนครราชสีมา (โคราช) ในการเลือกตั้งปี 2562 จะมีจำนวนที่นั่ง ส.ส. ลดลงจาก 15 เหลือ 14 ที่นั่ง ประเด็นที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ คือ อ.เมืองนครราชสีมา ถูกแบ่งตำบลต่างๆ กระจายอยู่ใน 4 เขตเลือกตั้ง การเลือกตั้งปี 2554 เขตเลือกตั้งที่ 1 : อ.เมืองนครราชสีมา มี 3 ตำบล เฉพาะ ต.ในเมือง, ต.หนองไผ่ล้อม, ต.หนองจะบก การเลือกตั้งปี 2562 เขตเลือกตั้งที่ 1 : อำเภอเมืองนครราชสีมา มี 4 ตำบล เฉพาะ ต.ในเมือง, ต.หนองไผ่ล้อม, ต.หนองจะบก และ ต.โพธิ์กลาง เจ้าของพื้นที่อย่าง "พรรคชาติพัฒนา" คราวนี้ส่ง "ธงชัย ลืออดุลย์" อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงสมัคร โดยขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายธงชัย เป็นคนสั่งรื้อถอนร้านอาหารรุกล้ำเขื่อนลำตะคอง ผันน้ำจากเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มาใช้ผลิตประปาในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ด้วยผลงานดังกล่าว ทำให้ได้รับเสียงชื่นชมจากคนโคราชมากโข อีกทั้งยังมีนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา / ส.จ. / ส.ท. / ชพน. เป็นหัวคะแนนให้ รวมถึงฐานเสียงอยู่ที่ อ.เมืองนครราชสีมา (เฉพาะตำบลในเมือง ตำบลหนองไผ่ล้อม และตำบลหนองจะบก)

ส่วนทางด้าน "พรรคภูมิใจไทย" ส่ง "อดุลย์ อยู่ยืน" เข้าท้าชน ซึ่งก็เคยทำงานในจังหวัดด้วยเช่นกัน ทำงานบริหารท้องถิ่นมาแล้วหลายตำแหน่ง ทั้งสมาชิกสภา อบจ.นครราชสีมา, รองนายกเทศมนตรีนคร นครราชสีมา มีฐานเสียงอยู่ในเขต อ.เมืองโคราช อยู่พอสมควร โดยเริ่มลงพื้นที่หาเสียงมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

    เป็นคนทำงานตรงไปตรงมา แม้ตัวเองจะอยู่ใน อบจ.โคราช แต่ก็เคยชนกับ อบจ.เมื่อพบปัญหาการใช้จ่ายเงินงบกลาง ที่ไม่สอดคล้องกับระเบียบ และกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างส่อไปในทางไม่โปร่งใส เลยร้องไปให้จังหวัดตรวจสอบ

โดยการลงพื้นที่ก็ชูปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าประชาชนกินดีอยู่ดี ก็ไม่สนใจว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่สนใจว่าจะอยู่ในระบอบประชาธิปไตยหรือเผด็จการ ขอเพียงให้กินดีอยู่ดีได้ มีเงินเต็มกระเป๋า สามารถส่งลูกเข้าเรียน มีเงินให้ลูกไปโรงเรียนได้ประชาชนก็พอใจแล้ว