ลากไส้เจ้าบ่าวทอมฉกสินสอด 1 ล้าน สูบเงินแม่เกลี้ยงทำตรอมใจ ร้านเช่าแฉเจ้าสาวก็ถูกลวง (คลิป)

31 มี.ค. 65

กรณีนายธนา (นามสมมติ) ช่างภาพรายหนึ่ง โพสต์เฟซบุ๊กเล่าเหตุการณ์ว่า หลังจากรับงานถ่ายภาพและงานออร์แกไนซ์พิธีแต่งงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ต.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร แต่ถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย เนื่องจากเงินสินสอดมูลค่า 1 ล้านบาทได้หายไป ทำให้ญาติ ๆ ของคู่บ่าวสาวสงสัยว่าเป็นหัวขโมย กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกสอบปากคำผู้ต้องสงสัยทั้งหมดที่ใกล้ชิดกับเงินก่อนจะหายไป

308929236289

กระทั่งวันที่ 30 มี.ค. 65 ช่วงเย็น ๆ พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ให้ข้อมูลว่า จากการเค้นสอบปากคำทางโทรศัพท์กับเจ้าสาวและเจ้าบ่าว จนเจ้าบ่าวทราบชื่อ นางสาวแพรม ชาวจ.เชียงใหม่ ให้การสารภาพว่า เป็นผู้นำเงินดังกล่าวออกไปจากห้องนอนที่แม่เจ้าสาวเอาเงินไปเก็บ โดยที่ไม่ได้บอกนางสาวน้ำ (นามสมมติ) เจ้าสาว และคนอื่น ๆ พร้อมกับยอมรับว่าเงินสินสอดเป็นเงินที่เช่ามา

ล่าสุดวันที่ 31 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่าเวลา 09.00 น. คู่บ่าวสาวดังกล่าวเดินทางจาก จ.สระแก้ว เพิ่อมายัง สภ.ทรงธรรม จ.กำแพงเพชร เนื่องจากตำรวจเรียกสอบปากคำเพิ่มเติม และมีพ่อแม่ของเจ้าสาว เดินทางมาสังเกตการณ์ด้วย

493614

กระทั่งเวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวนางสาวแพรม ผู้ต้องหาออกจากห้องสอบสวน เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี และยอมรับสภาพผิดตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งการปล่อยตัวในครั้งนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา เพื่อป้องกันการหลบหนี แต่ไม่ใช่การกักกันตัว

794037264126

พ.ต.อ.เอนก ให้สัมภาษณ์ว่า จากการสอบปากคำตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง คือ 09.00-10.00 น. คำให้การของทั้งคู่ สอดคล้องกันในวันที่ 25 มีนาคม 65 เวลาประมาณ 10.30 น. นางสาวแพรม เจ้าบ่าว มอบสินสอดเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาทให้พ่อของนางสาวน้ำ เพื่อสู่ขอตามประเพณี แต่เงินสินสอดนั้นเป็นเงินที่นางสาวแพรม เช่ามาจากร้านบริการเช่าสินสอดออนไลน์ ในอัตราค่าบริการ 40,000 บาท ซึ่งติดต่อขอเช่าก่อนหน้าที่จะจัดงานแต่งไม่กี่วัน ด้วยการค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ไปขอเช่า

957279

ทั้งนี้ ในส่วนของคดีความนั้น เบื้องต้นตำรวจได้ดำเนินคดีกับนางสาวแพรม ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน เนื่องจากให้การสารภาพและยินดีที่จะรับผิด และพ่อแม่ของเจ้าสาวก็ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับนางสาวแพรม เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1437 เงินสินสอดเป็นการให้ตามสัญญาต่างตอบแทน และทรัพย์ที่เป็นสินสอดนั้นเมื่อเจ้าบ่าวได้ส่งมอบไปแล้ว ย่อมถือเป็นสิทธิเด็ดขาดของฝ่ายหญิงทันทีโดยไม่ต้องรอให้มีการสมรสกันก่อน ดังนั้น การที่เจ้าบ่าวแอบเอาเงินออกไป ผู้เสียหายคือพ่อแม่ของเจ้าสาว ซึ่งไม่รู้ว่าเจ้าบ่าวไปเช่าสินสอดมา

292302

นายจำรัส อุปมาณ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสันทรายก้อม หมู่ 2 ตำบลขัวมุง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า นางสาวแพรม เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านตั้งแต่เด็ก ๆ โดยอยู่กับแม่ 2 คน พ่อเสียชีวิตไปตั้งแต่นางสาวแพรม ยังเล็ก ๆ จากนั้นเมื่อนางสาวแพรม เรียนจบก็ย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทิ้งให้แม่อยู่บ้านเพียงลำพัง ระหว่างนั้นแม่ก็ส่งเงินให้ใช้ตลอด เขาอ้างว่าเป็นเงินที่ต้องนำไปค้ำประกันเงินเดือน แม่ก็เลยเอาทรัพย์สินที่มี ทั้งบ้าน ที่ดิน ซึ่งได้รับมาจากมรดกตกทอดไปจำนอง เพื่อนำเงินมาให้ลูกจนหมดเนื้อหมดตัว

650852

ทีมข่าวยังได้รับการเปิดใจจากร้านเช่าสินสอด โดยนางสาวหอม (นามสมมติ) เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ร้านของตนจะให้บริการแบบออนไลน์ ไม่มีหน้าร้าน แต่ตนพักอาศัยอยู่กรุงเทพ ในวันที่ 23 มีนาคม 65 ช่วงเย็น ๆ นางสาวแพรม โทรศัพท์เข้ามาเพื่อขอเช่าสินสอดเหมือนกับลูกค้าทั่วไป ซึ่งค่าบริการจะอยู่ที่ 45,000 บาท พร้อมกับแถมทอง 2 บาทให้ใส่ในพิธีและฟรีค่าเดินทาง แต่นางสาวแพรม ต่อรองว่าไม่เอาของแถม แต่อยากให้ลดราคาเหลือ 40,000 บาท ตนก็ตกลง หลังจากนั้นนางสาวแพรม ก็ถ่ายรูปบัตรประจำตัวประชาชนของตัวเองกับเจ้าสาว ส่งให้ตนทางไลน์

105005

กระทั่งวันที่ 25 มีนาคม 65 ช่วงหัวรุ่งตนก็เดินทางมาที่งานแต่ง พร้อมกับเงินสด 1 ล้านบาท และตั้งใจว่าจะให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาว เซ็นรับรองในสัญญาเช่า รวมถึงเซ็นรับรองในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เพราะตามปกติแล้วเจ้าสาวและเจ้าบ่าว จะต้องมาเซ็นด้วยตัวเอง แต่วันนั้น นางสาวแพรม อ้างว่าเจ้าสาวติดรับแขก ขอเซ็นแทน ซึ่งตนก็เห็นว่าบรรยากาศภายในงานค่อนข้างชุลมุน จึงยอมให้เซ็นแทนกัน เพราะคิดว่าเจ้าสาวรับรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว

880077

จากนั้น นางสาวแพรม ก็ถามตนว่า เงินก้อนนี้สามารถแกะพลาสติกออกได้หรือไม่ ตนก็บอกไปแล้วว่าสามารถแกะได้ และนำมาเรียงเหมือนกับงานทั่วไปได้ตามปกติ แต่เมื่อถึงช่วงที่พ่อแม่เจ้าสาว พยายามจะแกะเงินออกจากห่อ เท่าที่ตนเห็นเหมือนกับว่าแกะไม่ออก พิธีกรก็เลยประกาศว่า "งั้นไม่ต้องแกะแล้วนะ น่าจะครบ 1 ล้านบาท" แม่เจ้าสาวก็เลยหอบเงินสินสอด 1 ล้านบาท เข้าไปเก็บในห้องนอนทันที

769779

หลังจากนั้นทุกอย่างก็ถูกดำเนินไปตามปกติ กระทั่งเสร็จสิ้นพิธีแต่งงาน แม่เจ้าสาวหอบเงินเก็บในห้องนอน มีการรดน้ำสังข์จนเสร็จ ตนก็เดินไปถามนางสาวแพรมว่า “เสร็จพิธีแล้วใช่ไหม” เขาก็บอกว่า “เสร็จแล้ว ๆ” พร้อมกับเดินไปไขกุญแจเปิดประตูห้องนอนดังกล่าว หยิบเงินออกมามอบให้กับตนที่หน้าบันได ตนก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ทันที เพราะไม่เอะใจว่าจะเกิดดราม่าเช่นนี้

กระทั่งในวันที่ 29 มีนาคม 65 พ่อของตนส่งภาพถ่ายเงินที่ปรากฏในข่าวมาให้ดู ตนก็จำได้ทันทีว่าเป็นของร้านตน ตนจึงขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่นางสาวแพรม ไปไขประตูห้องนอนนำเงินสินสอดออกมาคืนให้ตนจนกลายเป็นผู้ต้องหาลักทรัพย์ฯ เพราะว่าในวันนั้นตนไปในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าว และในฐานะเจ้าของเงินที่รอรับกลับหลังจากเสร็จสิ้นพิธีตามที่ปรากฏในสัญญา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม