สืบจากรอยสัก จับกะเทยชิงทองจากคอฝรั่ง อ้างติดพนันขอโทษทำไทยฉาว (คลิป)

กรณีปรากฏคลิปนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกมิจฉาชีพมือไว ที่เป็นสาวประเภทสองฉกทองไปต่อหน้า โดยผู้ก่อเหตุเห็นรอยสักชัดเจน เข้ามากอดคอชายนักท่องเที่ยวต่างชาติรายหนึ่ง มือไวปลดสร้อยทองบนคอนักท่องเที่ยวหนุ่มไปหน้าตาเฉย บริเวณสุขุมวิท ช่วงประมาณ 5 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 65 เวลาประมาณ 23.35 น. บริเวณปากซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ผู้ก่อเหตุมีลักษณะเป็นสาวประเภทสอง สวมใส่ชุดกระโปรงสายเดี่ยวลายดอก สวมใส่แมสก์สีเหลือง เมื่อก่อเหตุแล้วได้ขึ้นรถยนต์โดยสารแท็กซี่สีเขียวเหลือง หลบหนีไปบริเวณซอยสุขสวัสดิ์ 66 ต.ลัดหลวง อ.ประประแดง จ.สมุทรปราการ

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ตัวแรกจับภาพ นายมนัสนันต์ขึ้นรถแท็กซี่เขียวเหลืองที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับจุดเกิดเหตุ แล้วเดินเข้าไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ หลังจากลงแท็กซี่ ปากซอยสุขสวัสดิ์ 68 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยรูปพรรณสัณฐาน เหมือนกับคลิปที่ก่อเหตุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จะจะ! กะเทยแสบกอดฝรั่งฉกสร้อยมรดกรุ่นคุณปู่ กบดานสุขุมวิท 13 ล่าแต้มทุกคืน (คลิป)

จากนั้นตำรวจได้ ติดตามจนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายมนัสนันต์ เพ็งวิชัย อายุ 30 ปี หลบหนีมากบดานอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ภายในซอยดังกล่าว ตำรวจสามารถจึงได้ติดตามจับกุมตัว และตรวจยึดเสื้อผ้าในวันก่อเหตุได้ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีไป อ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบถาม นายมนัสนันต์ ผู้ก่อเหตุที่ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหาย ยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุตามคลิปวิดีโอที่เผยในสื่อสังคมออนไลน์จริง เนื่องจากปัจจุบันไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ไม่มีรายได้สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อีกทั้งติดการเล่นพนันสล็อต จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เมื่อได้สร้อยคอทองคำดังกล่าวแล้วจึงนำไปขายให้กับร้านรับซื้อสร้อยคอทองคำ ภายซอยเจริญนคร 28 โดยได้รับเงินจากการขายสร้อยคอทองคำ จำนวน 26,000 บาท

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีได้ตรวจสอบพบว่า นายมนัสนันต์ เคยต้องหาในคดีอาญาต่าง ๆ มาแล้วหลายคดี เช่น ข้อหาติดต่อ ชักชวน ติดต่อ ชักชวน แนะนำตัวติดตามหรือรบเร้าบุคคลตามถนนหรือสาธารณสถานหรือในที่อื่นใด เพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอายหรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชน ที่ สภ.เมืองพัทยา ปี พ.ศ.2556, ข้อหาลักทรัพย์ ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา ปี พ.ศ.2558 และข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ในพื้นที่ สน.ลุมพินี ปี พ.ศ.2565

ทีมข่าวเดินทางไปที่ร้านรับซื้อทอง ซอยเจริญนคร 28 1 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร โดยภายในซอยมีร้านรับซื้อทองหลายร้าน เจ้าของร้านรับซื้อทอง เล่าว่า วันที่ผู้ต้องหานำทองมาขาย 30 มี.ค. 65 ช่วงบ่าย โดยวันดังกล่าวลูกสาวตนเองเป็นคนพูดคุยกับผู้ต้องหา ตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ คนร้ายนำทองมาขาย

ยืนยันว่าตนเองไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักมาก่อน ไม่มีพิรุธหรือมีอะไรผิดสังเกต และคนร้ายยืนยันว่าเป็นทองของตัวเอง จึงนำทองไปหลอมเพื่อพิสูจน์ว่าทองจริงหรือไม่ จากนั้นไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรต่อ และให้เงินไปเท่าใด เพราะยังไม่ได้คุยกับลูกสาว โดยเมื่อวานนี้ตำรวจเดินทางมาเก็บหลักฐาน และเรียกลูกสาวไปสอบปากคำแล้ว กันไว้เป็นพยาน

รายงานข่าวจากหน้าเว็บไซต์ เดลี่ เมล์ https://www.dailymail.co.uk/news/article-10672957/Tourists-selfie-shows-moment-woman-stole-gold-chain-hugged-Video.html

นำเสนอข่าว Frederik watched back his video and saw that he had been pickpocketed in under 10 seconds by the thief, but it was too late to find her. (เฟรเดริค ได้ดูวิดีโอของเขาย้อนหลังและเห็นว่าตัวเองถูกชิงสร้อยในเวลาไม่ถึง 10 วินาทีโดยคนร้าย แต่มันก็สายเกินไปที่จะหาตัวเธอ)

The holidaymaker, who has reported the theft to police, said: 'The chain belonged to my grandfather, it was in the family for many years. I think it was worth around 800 euros (£675). (เขาได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยสร้อยที่ถูกฉกไปเป็นของคุณปู่ สร้อยเส้นนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในครอบครัวมายาวนานแล้ว มีมูลค่าราว 800 ยูโร)

สื่อดังของอังกฤษ ระบุว่า จุดที่นักท่องเที่ยวหนุ่มซึ่งเดินทางมาจากเมือง เกนท์ ในประเทศเบลเยี่ยม ถูกฉกสร้อยคอทองคำไปจากคอในครั้งนี้ อยู่บนถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีชื่อดังของกรุงเทพฯ และเป็นที่คาดกันว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ อาจทำการลักทรัพย์เป็นขบวนการ ไม่น่าจะก่อเหตุเช่นนี้เพียงลำพัง