วันนี้ (11 ก.พ.62) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นยุบพรรค ทษช. โดยเจ้าตัว เปิดเผยว่า สมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้มายื่นคำร้องต่อ กกต. และนายทะเบียนพรรการเมือง เนื่องจากกรณีพรรค ทษช. ได้นำเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องไม่เหมือนสม อีกทั้งสังคมไทย และสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปทั่วโลก และหลายคนไม่พอใจที่ พรรค ทษช. ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งหลังจากมีพระราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ชี้ชัดว่าการกระทำของ ทษช. เป็นการกระทำไม่เหมาะสมและเข่าข่ายความผิดทางกฎหมาย ดังนั้นสมาคม เห็นว่าต้องหาข้อยุติ ตนจึงต้องนำความมา เป็นเรื่องที่ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมืองวินัจฉัย และนำไปสู่การยุบพรรค ทษช. และขอเรียกร้องให้ กกต. เร่ง นำเรื่องนี้ไปวินิจฉัย
อย่างไรก็ตามการแสดงความรับผิดชอบของพรรคไม่ใช่การแถลงการณ์เพียงอย่างเดียว แต่หัวหน้าพรรคควรแสดงสปิริตลาออก เพราะหากยังปล่อยไปอย่างนี้ ตนคิดว่าชื่อเสียงของพรรคก็คงถูกตำหนิได้
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าการเสนอชื่อแคนดิเดตเป็นทูลกระหม่อมหญิง เป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าเป็นการดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง ซึ่งแม้จะมีข้ออ้างว่าลาออกจากทูลกระหม่อมจากลาออกจากฐานันดรแล้ว แต่ตามประกาศพระราชโองการก็ชี้ได้ว่าทูลกระหม่อมยังเป็นพระราชวงศ์อยู่
นอกจากนี้ ตนอยากให้ กกต. วินิจฉัยคำร้องของตนก่อนเลือกตั้ง เพราะถ้าหลังการเลือกตั้ง ก็ทำให้ ทษช. ยังถูกเลือกเข้าไปรัฐสภาได้ ซึ่งถ้ามีการยุบพรรคหลังการเลือกตั้งแล้ว ก็จะต้องทำให้สมาชิกพรรควิ่งหาพรรคภายใน 30 วัน ซึ่งในวันนั้นตนก็ไม่รู้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ คสช ปกครองประเทศต่อไปซี่งอาจจะเป็นผลเสียกับการบริหารประเทศ
อย่างไรก็ตาม สำหรับบุคคลภายนอกประเทศ หรือมือที่มองไม่เห็นนั้น ตนมองว่ากฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้ แต่ประชาชนก็รู้อยู่แล้วว่ามือที่มองไม่เห็นเขาเป็นใคร ซึ่งทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับประชาชนว่าใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งให้กับพรรคใดในวันที่ 24 มี.ค. 62 นี้