เปิดคำสารภาพกระติก พูดชื่อใครคือกุนซือ เผยเวลาตกน้ำที่แท้จริงแล้ว ย้ำไร้คนมีสีดักรอ (คลิป)

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 65 เวลา 15.30 น. ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นางสาวอิจศรินทร์ จุฑาสวัสดิ์ หรือ กระติก อดีตผู้จัดการส่วนตัวสาวแตงโม ได้เดินทางมาถึง สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแจ้งความเท็จ ตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ทีมข่าวสังเกตว่าสาวกระติก สวมเสื้อสีดำ ลงจากรถเบนซ์สีดำ ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

ทั้งนี้ ทราบภายหลังว่า นายสิระ เป็นผู้ได้รับการติดต่อจากญาติของสาวกระติก ให้นำตัวไปพบพนักงานสอบสวน ขณะที่ทั้งคู่เดินผ่านสื่อมวลชน แม้จะถูกสอบถามว่ามีความเครียดหรือไม่ สาวกระติกก็ได้แต่นิ่งเฉย และไม่ตอบคำถามใด ๆ ก่อนที่จะเดินขึ้นไปพบพนักงานสอบสวน

อย่างไรก็ตาม สำหรับสาวกระติก นับเป็นผู้ต้องหาคนที่ 5 ที่ถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดีในความผิดฐานแจ้ง​ความเท็จ โดยสาวกระติก ให้การไม่สอดคล้องกับคนบนเรืออีก 4 คน และ​ที่สำคัญการเข้าให้ปากคำแต่ละครั้งของสาวกระติก ก็ยังขัดแย้งกันด้วย

นายสิระ ได้ให้ทีมงานนำเอกสารที่มีการเขียนด้วยลายมือ ระบุว่า "นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. ผู้พา น.ส.นางสาวอิจศรินทร์ จุฑาสวัสดิ์ หรือ กระติก พร้อมด้วยนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ทนายความส่วนตัว และ นายเกียรติศักดิ์ กล่อมสกุล บิดา จะแถลงข่าวการรับทราบข้อกล่างหา ต่อ สภ.เมืองนนทบุรี หลังจากที่ให้ปากคำเสร็จ ขอเชิญสื่อมวลชนทุกท่านร่วมรายงานข่าวด้วย ขอบคุณครับ"

นอกจากนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่าสาวกระติก ยอมรับสารภาพในข้อหาให้การเท็จ ตามมาตรา 172 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากเป็นความจริง พนักงานสอบสวนเองก็จะเตรียมนำตัวสาวกระติก ส่งต่อศาลแขวงจังหวัดนนทบุรีในวันพรุ่งนี้ (5 เม.ย.65)

ล่าสุดเวลา 19.45 น. นายสิระ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 กล่าวว่า ตนได้รับการติดต่อจากนายเกียรติศักดิ์ ซึ่งเป็นพ่อของสาวกระติก ขณะที่ตนอยู่ที่จังหวัดน่านเพื่อขอความช่วยเหลือในด้านข้อกฎหมาย ก่อนจะนัดคุยกันว่า "ที่ให้พี่ช่วยเนี่ย ต้องพูดความจริงนะ จะได้ดูแลคดีให้" สาวกระติกก็รับปากกับตนและวันนี้ก็รับปากกับ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เพราะในตอนแรกสาวกระติก เชื่อคำแนะนำของทนายความที่นัดแนะให้คำปรึกษากันที่ทองหล่อ เพราะจริง ๆ แล้วหมายนัดเข้าพบกับตำรวจ จะเป็นวันที่ 7 เม.ย. 65 แต่ในวันนี้ตนก็เป็นผู้พาสาวกระติก เข้ามาพบกับตำรวจเสียก่อน

"หลังเกิดเหตุวันรุ่งขึ้นนะครับ เขาก็รวมตัวกันที่ทองหล่อ มีที่ปรึกษาชื่อว่า เอ็ม กับสากล แล้วก็มีคนตามมาทีหลังอีก 3 คนซึ่งเป็นทนายเพื่อให้หลุดคดี ตอนให้การครั้งแรกพวกเขาก็เลยให้การเหมือนกัน เพราะได้รับการนัดแนะว่าต้องให้ปากคำตรงกัน ผมก็สงสัยว่าทำไมทั้ง 5 คนให้ปากคำตรงกันเป๊ะทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่ตำแหน่งบนเรืออยู่ห่างกัน กระติกบอกผมว่าเขาอยู่ข้างหน้า แล้ว 5 ชั่วโมงมันเกิดอะไรขึ้น เขารู้ว่าแตงโมตกเรือ 22.30 น. แต่ไม่เห็น และไม่มีการนัดผู้ใหญ่ให้เจอกับแตงโม" นายสิระ กล่าวให้ฟัง

สำหรับคนที่โดนข้อหานอกเหนือจากให้การเท็จ คือ กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำร้ายหลักฐาน ตนก็คิดว่าตำรจสรุปได้ถูกประเด็นแล้ว ตนจึงแนะนำสาวกระติกว่า ถ้าวันนี้ยังให้การเท็จ ภาระก็จะไปตกที่ผู้ต้องหา เสียทั้งเงินและติดคุก ส่วนทนายความที่ได้รับการนัดแนะจากบุคคลภายนอกให้เข้ามาที่ร้านอาหารย่านทองหล่อ ตนขอฝากเตือนว่าควรนึกถึงคุณธรรมและมรรยาทของทนายความด้วย อย่างไรก็ตาม ตำรวจก็มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว ไม่ใช่ยึดเพียงคำบอกเล่าของผู้ต้องหาเพียงอย่างเดียว กล้องวงจรปิดก็สามารถเป็นหลักฐานใช้พิสูจน์ได้ ฉะนั้น อะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์และพิสูจน์ได้ ศาลท่านก็จะให้น้ำหนักมากกว่า

นอกจากนี้ ตนยังได้แนะนำสาวกระติกว่า ในวันนี้หากพูดความจริงไม่ต้องกังวล ตนจึงถามเขาว่ายอมรับได้หรือไม่ ถ้าศาลจะลงโทษ เขาก็บอกว่าเขายอมรับได้ หากศาลจะตัดสินคดีในสิ่งที่เขาได้ทำลงไป ส่วนกรณีนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล ตนก็อยากสอบถามว่า เหตุใดถึงอ้างว่ามีการนัดผู้ใหญ่ให้เจอกับแตงโม และถ้าเป็นเรื่องจริงเหตุใดไม่เปิดเผยรายชื่อออกมา "ผมท้าไว้ 1 ล้านบาท ทำไมไม่เปิดชื่อ แสดงว่าเขามีหลักฐานจริงหรือไม่" อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากไปยังทั้ง 4 คนบนเรือที่เหลือว่า อะไรที่ยังไม่พูดก็ควรพูดเรื่องจริงออกมา สามารถติดต่อเข้ามาหาและตนจะพาเข้าไปพบกับพนักงานสอบสวน

อย่างไรก็ตาม สาวกระติก กล่าวยืนยันว่า ในวันนี้ตนเข้ามารับทราบข้อกล่าวให้การเท็จ ตนขอยืนยันว่าให้การเพิ่มเติมกับตำรวจมาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมามีแค่บางครั้งที่อาจจะจำรายละเอียดในช่วงนั้นไม่ได้ เมื่อนึกออกก็ให้การเพิ่มเติมเสมอ ๆ และที่ผ่านมาไม่เคยมีใครขมขู่ เพราะคนบนเรือสปีดโบ๊ตเป็นเพื่อนกันทั้งหมด