กรณีพ.ต.อ.เรวัฒน์ ยวงอักษร ผกก.สภ.เทพสถิต สั่งการให้ชุดสืบสวน ปช.พิเศษ สภ.เทพสถิต นำโดยร.ต.อ.พีรพัฒน์ โชคบัณฑิต รอง สวป.สภ.เทพสถิต ติดตามไล่ล่านายสำเริง ผาสุข อายุ 35 ปี คนร้ายที่ฉุดเด็กหญิงวัย 15 ปี ไปข่มขืนกระทำชำเราข้างป่าในหมู่บ้าน ก่อนจะหนีไปกบดานในป่าใกล้กับจุดเกิดเหตุ กระทั่งรุ่งเช้าของอีกวันสามารถจับกุมนายสำเริง อาชีพทำไร่ ก่อนนำตัวส่งไปยีง สภ.เทพสถิต เพื่อดำเนินคดีต่อไป
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลัง โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้พาบุคคลอายุเกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย
ล่าสุดวันที่ 6 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่ป่าอยู่ใกล้เคียงไร่มันสำปะหลัง ห่างไกลบ้านเรือผู้คน และห่างจากบ้านของผู้เสียหายกว่า 2 กิโลเมตร เส้นทางเปลี่ยว มีต้นไม้สูงปิดบังสายตาผู้คนมิดชิด
นางสมศรี (นามสมมติ) อายุ 52 ปี แม่ของเด็กหญิงคนดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 5 เม.ย. 65 เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะนั้นตนและคนในบ้านเดินทางไปไร่มันสำปะหลังและไร่พริก ส่วนลูกสาวตามมาทีหลัง ในระหว่างทางก่อนจึงแปลงไร่พริก นายสำเริง ดักรอระหว่างทาง ก่อนจะฉุดลูกสาวตนเข้าไปในป่า และลงมือข่มขืนกระทำชำเรา จากนั้นลูกสาวรีบโทรศัพท์ไปบอกพี่สาวให้มาที่เกิดเหตุ จึงได้ถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาลูกสาวทั้ง 2 คนก็ขี่รถมาหา ตนจึงรีบพาลูกเดินทางไปแจ้งความทันที ตนมองว่านาย สำเริง "สันดานไม่ดี" ทั้ง ๆ ที่เขาก็มีภรรยา และฝ่ายหญิงก็เพิ่งคลอดลูกได้ไม่เกิน 3 วัน ซึ่งเมื่อก่อนเขาก็เคยจีบลูกสาวตน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้
ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุ เหมือนจะปฏิเสธไม่รับสารภาพ ส่วนตัวจึงไม่ต้องการการเยียวยาแต่อย่างใด เพราะเงินไม่สามารถมาเยียวยาความรู้สึกของลูกสาวได้ ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ถึงที่สุด ไม่ต้องกลับออกมาใช้ชีวิตในสังคม เพราะอยู่ไปเขาก็จะเป็นภัยให้คนสังคมต่อไป
"เราไม่สามารถออกจากหมู่บ้านไปได้ เพราะตั้งหลักปักฐานที่นี่แล้ว และไม่ได้ร่ำรวยเงินทองอะไร แต่ในหมู่บ้านนี้ มีแต่ญาติของผู้ก่อเหตุทั้งนั้น เราเองก็รู้สึกเครียดเป็นกังวลมาก ๆ แต่ยืนยันไม่อโหสิกรรมให้ ขอให้ไปชดใช้กรรมในคุกก้แล้วกัน ไม่อยากให้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกอีก" แม่ของเด็กหญิงผู้เสียหาย กล่าว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวอ้อม (นามสมมติ) อายุ 27 ปี พี่สาวผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่น้องสาวโทรศัพท์มาหา พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าถูกข่มขืน ตนจึงเดินทางมายังที่เกิดเหตุทันที เห็นรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุจอดอยู่ และตนก็พยายามตะโกนเรียกนายสำเริง นานกว่า 5 นาที กว่าจะออกมาจากพุ่มไม้ และยกมือไหว้พูดว่าขอโทษตลอดเวลา
ในขณะนั้นตนสอบถามว่า "ทำแบบนี้ทำไม" ทั้ง ๆ ที่มีลูกเมียอยู่แล้ว และลูกก็เพิ่งคลอด นายสำเริง เขาไม่ตอบอะไรได้แต่ขอโทษอย่างเดียว "พี่ขอโทษนะ ๆ อย่าให้เรื่องถึงตำรวจเลย" ซึ่งตนไม่ยอมรับคำขอโทษอย่างแน่นอน จึงพาน้องสาวไปแจ้งความกับตำรวจ ภายหลังก็สามารถจับกุมตัวนายสำเริงได้ ตนทราบว่าพฤติกรรมของนายสำเริง เป็นคนที่ชอบใช้สารเสพติด อีกครั้งตลอดระยะเวลาชอบทักข้อความมาหาน้องสาวตนอยู่เสมอ ทักมาเชิญชวนเชิงชู้สาว แต่น้องสาวตนไม่สนใจ ไม่เล่นด้วย ซึ่งตนก็พยามเตือนน้องสาวอยู่ตลอดว่าให้วะมัดระวังตัว
กระทั่งในวันที่ 5 เม.ย. 65 วันที่เกิดเหตุเป็นวันเดียวที่ตนปล่อยให้น้องสาวอยู่คนเดียว และเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นจนได้ ส่วนตัวอยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษอย่างสาสม ไม่อยากให้ออกมาใช้ชีวิตในสังคม หากปรับตัวได้ก็เป็นเรื่องดี แต่หากเป็นเช่นเดิม ไม่มีความปลอดภัยของคนในพื้นที่ เพราะเขาสามารถก่อเหตุกับบุคคลอื่น ๆ ได้อีก และตนกังวลถึงความปลอดภัยของครอบครัวอีกด้วย
