อนุทิน เผย กรมควบคุมโรค เตรียมเสนอ ศบค.ยกเลิก RT-PCR นทท.ต่างชาติ ใช้ ATK แทน จับตา สงกรานต์ จะหมู่หรือจ่า

7 เม.ย. 65

กรมควบคุมโรค เตรียมชง ศบค. ยกเลิกตรวจ RT-PCR เหลือแค่ ATK เฉพาะนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย จับตาสงกรานต์ ชี้วัดไทยข้าม "จุดเสี่ยงสูงสุด" ได้หรือไม่

วันนี้ (7 เมษายน 2565) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มีข้อสั่งการไปยังหน่วยบริการสาธารณสุขทุกแห่ง เตรียมความพร้อมให้บริการประชาชนในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 11–17 เมษายน 2565 เนื่องจากมีผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก โดยนอกจากการเตรียมการรองรับในกรณีเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน ทั้งการรักษา ระบบส่งต่อ ห้องผ่าตัด กำลังคน ยาและเวชภัณฑ์ยา ได้ให้โรงพยาบาลรวมถึงรพ.สต.ในพื้นที่ใช้โอกาสนี้ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กับผู้สูงอายุและลูกหลานที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและต้องการฉีดวัคซีนหรือครบระยะการรับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อขยายการรับวัคซีนให้มากที่สุด

โดยให้กรมควบคุมโรคประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดส่งวัคซีนไปให้เพียงพอ ส่วนผู้บริหารในพื้นที่ ทั้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ให้อยู่ประจำในพื้นที่เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

“ขอฝากพี่น้องประชาชนในช่วงสงกรานต์นี้ หากตนเองหรือผู้สูงอายุที่บ้านยังไม่ได้รับวัคซีนหรือวัคซีนเข็มกระตุ้น ขอให้ไปฉีดวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งทั่วประเทศ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่เสียชีวิตกว่า 90% เป็นกลุ่ม 608 ซึ่งหากมีการฉีดวัคซีนในกลุ่มนี้ได้มากขึ้น จะช่วยปิดความเสี่ยงและลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้”
ทั้งนี้ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า การประชุม ศบค.วันที่ 8 เม.ย. จะเสนอปรับมาตรการเพิ่มเติมอะไรหรือไม่ กรมควบคุมโรคจะเสนอหลายเรื่อง เช่น เรื่องของการตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR หากเห็นชอบกันทั้งหมดอาจจะงด แต่เพื่อความสบายใจของประชาชนอาจเหลือแค่การตรวจ ATK

“ถ้าผ่านสงกรานต์นี้ได้ทุกอย่างก็น่าจะดี ขอความร่วมมือ เพราะ สธ.ก็ลุ้นตรงนี้ ถ้าประชาชนปฏิบัติตนตามขั้นตอนที่ สธ.แนะนำก่อนเดินทางกลับ ประเทศไทยจะก้าวข้ามจุดเสี่ยงที่สุด สงกรานต์น่าจะสุดท้ายแล้ว ที่เป็นเทศกาลใหญ่ หากดูสถิติ 2-3 ปีที่ผ่านมา เมื่อพ้นสงกรานต์ด้วยดี จะไปมีปัญหาอีกทีก็คือเทศกาลปีหน้า ดังนั้น 8 เดือนที่เหลือนี้น่าจะมีวิธีบริหารจัดการสถานการณ์โควิดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ”

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส