หลานทรพีหลอนยาเชือดคอปู่ จอบตีย่าอ้างอุบัติเหตุ เพ้อจัดไม่รู้ฆ่าคนเป็นบาป (คลิป)

กรณีตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพนายมงคล มีศรี อายุ 72 ปี เสียชีวิตในสภาพนอนตะแคงจมกองเลือด ข้าง ๆ ศพพบมีดทำครัวด้ามหักยาวประมาณ 1 ฟุตตกอยู่ และพบท่อนไม้ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร เลอะคราบเลือดตกอยู่ข้าง ๆ กัน

จากการตรวจสอบเบื้องต้น สภาพศพของผู้ตายพบว่าลำคอถูกของมีคมเกือบขาด บริเวณฝ่ามือ ข้อมือ และท้องแขนมีบาดแผล คาดว่าเกิดจากการต่อสู้แย่งมีด ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายอภิชาติ นารากรณ์ อายุ 26 ปี หลานชายของผู้ตาย หลังก่อเหตุวิ่งหลบหนีไปแอบอยู่บ้านญาติ ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตำรวจจึงนำกำลังไปควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี

ล่าสุดวันที่ 8 เม.ย.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปบ้านที่เกิดเหตุ พบคราบเลือดจำนวนมากบริเวณด้านหน้าเต็นท์ ใกล้กันยังพบบาตรพระ วิทยุ และถุงยารักษาโรคของผู้ตาย ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

ต่อมาในช่วงบ่าย พลตำรวจตรีพิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ควบคุมตัวนายอภิชาติ ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีบรรดาญาติพี่น้องและชาวบ้านมุงดู พร้อมกับสาปแช่งหลานทรพีเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ตำรวจคุมตัวมาชี้จุดทำแผน นายอภิชาติมีสีหน้าเรียบเฉย ทีมข่าวพยายามสอบถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ นายอภิชาติอ้างว่า ตนถูกปู่ต่อว่าหลายครั้ง และก่อนเกิดเหตุตนถูกปู่ด่าถึงบุพการี และปู่ด่าว่าตนเป็นทหาร ด้วยความโกรธจึงลงมือใช้ท่อนไม้ทุบตี จากนั้นปู่พยายามร้องขอชีวิต แต่ด้วยความโกรธ และห้ามใจไม่ไหวจึงจับปู่ล็อกคอ และนำมีดทำครัวที่อยู่ใกล้ ๆ ปาดคอปู่จนเสียชีวิต

หลังจากนั้นตนจึงรีบเดินหนีออกไปทางด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นป่า และเดินเท้าประมาณ 2 กิโลเมตรไปหลบอยู่ที่บ้านเพื่อน ซึ่งระหว่างที่หลบหนีตนก็รู้สึกผิด และกำลังจะเดินทางไปปรึกษาญาติคนอื่น ๆ เพื่อจะขอมอบตัวกับตำรวจ แต่สุดท้ายก็ถูกตำรวจบุกตามมาจับกุมได้เสียก่อน

นอกจากนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้นายอภิชาติ เคยบวชเป็นพระมาแล้ว และมีอาการทางจิตเล็กน้อย จึงถามนายอภิชาติ ว่าทำไมถึงกล้าทำกับปู่ นายอภิชาติ ตอบกลับว่า "ผมเคยบวชเป็นพระจริง บวช 1 พรรษา และสมนึกที่ทำลงไป" ทีมข่าวจึงถามต่อว่า เคยบวชแล้วรู้หรือไม่ว่าการฆ่าปู่ตัวเองเป็นบาป นายอภิชาติ จึงตอบว่า “ผมไม่รู้ครับ คนเป็นศพไปแล้ว”

ทั้งนี้ ก่อนที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกลับ นายอภิชาติ กล่าวขอโทษที่ลงมือฆ่าปู่ของตัวเอง และขอให้ปู่อโหสิกรรมให้ด้วย ส่วนย่าที่โดนจอบฟาดศีรษะในวันที่ 5 มีนาคม 65 ตนไม่รู้เรื่อง ย่าเดินผ่านแล้วจอบแกว่งไปฟาดศีรษะย่าเอง โดยที่ตนไม่ได้ตั้งใจ 

ขณะที่บรรยากาศงานศพ มีเพียงญาติและคนรู้จักเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจเท่านั้น ซึ่งเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยศพของผู้เสียชีวิตนั้น ทางญาติ ๆ จะเก็บไว้จำนวน 2 คืน และจะทำพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 10 เม.ย. 65 ส่วนเรื่องคดีนายอภิชาติ ถูกตำรวจแจ้งกล่าวข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขณะที่ข้อหาเรื่องยาเสพติด ตอนนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจจากแพทย์ หากพบว่ามีสารเสพติดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม และในวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.65) จะนำตัวนายอภิชาติ ผู้ต้องหา ไปขออำนาจศาลจังหวัดอุดรธานีฝากขังต่อไป