ตำรวจเชียงใหม่จัดกำลังเฝ้าอุโมงค์พ่นน้ำประตูท่าแพคอยห้ามปรามและทำความเข้าใจนักท่องเที่ยวไม่ให้เล่นน้ำสงกรานต์ พร้อมประสานเทศบาลนครเชียงใหม่ยุติการพ่นน้ำจากอุโมงค์หวั่นคนเข้าใจผิดซ้ำรอยเมื่อวานนี้ ขณะที่ชาวบ้านโวยอุโมงค์น้ำดังกล่าวไร้มาตรฐานความปลอดภัยเสียบปลั๊กต่อสายไฟลงน้ำหน้าตาเฉยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน
จากกรณีที่วานนี้ (13 เม.ย.65) ที่ริมถนนรอบคูเมืองด้านนอกบริเวณประตูท่าแพในตัวเมืองเชียงใหม่ พบกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนต่างพากันเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนานโดยใช้อุปกรณ์ฉีดน้ำ เนื่องจากเข้าใจผิดว่าจุดดังกล่าวอนุญาตให้เล่นน้ำได้เพราะมีการติดตั้งอุโมงค์พ่นน้ำบนถนนริมคูเมืองด้านนอกช่วงก่อนถึงประตูท่าแพเป็นระยะทางยาว 200 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าห้ามปรามและทำความเข้าใจว่าห้ามเล่นสาดน้ำประแป้งในพื้นที่สาธารณะอย่างเด็ดขาดตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ในการจัดงานสงกรานต์ประจำปี 2565
วันนี้ (14 เม.ย.65) รายงานข่าวแจ้งว่าที่บริเวณอุโมงค์พ่นน้ำดังกล่าวใกล้ประตูท่าแพนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดวางกำลังเฝ้าระวังป้องกันการเล่นน้ำสาดน้ำของนักท่องเที่ยว โดยให้ใช้มาตราการ 3 ประการคือ 1.เข้าไปประชาสัมพันธ์พูดคุยให้เหตุผลกับนักท่องเที่ยว 2.ว่ากล่าวตักเตือนก่อนหากพบการกระทำผิด 3.หากไม่เชื่อฟังก็ให้ดำเนินการจับกุมส่งดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังเทศบาลนครเชียงใหม่เพื่อขอให้ยุติการพ่นน้ำปล่อยน้ำที่อุโมงค์ดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดของนักท่องเที่ยว
ขณะที่ประชาชนที่อยู่ในย่านใกล้เคียงจุดดังกล่าวร้องเรียนว่าการติดตั้งอุโมงค์พ่นน้ำดังกล่าวน่าจะไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย เพราะการติดตั้งอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำไฟฟ้าที่สูบน้ำตรงจากคูเมืองขึ้นมาตามท่อเพื่อพ่นน้ำในอุโมงค์นั้นทำเพียงการเสียบปลั๊กไฟต่อพ่วงสายไฟลงไปในน้ำและใช้ถุงพลาสติกหุ้มไว้เท่านั้น ซึ่งเสี่ยงที่อาจจะเกิดไฟฟ้ารั่วหรือลัดวงจรทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตของผู้คนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการพ่นน้ำหรือเล่นน้ำกันอย่างวานนี้ ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีที่จนถึงเวลานี้ยังไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย และอยากให้ทางเทศบาลนครเชียงใหม่เร่งปรับปรุงแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพราะเชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้ใช้เงินงบประมาณจำนวนไม่น้อย ดังนั้นจึงควรทำให้สมราคาและไม่ควรทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าก่อนหน้านี้กรณีอุโมงค์น้ำดังกล่าวนั้นทางด้านออแกไนเซอร์ซึ่งรับจ้างจากเทศบาลนครเชียงใหม่ในการจัดงานสงกรานต์ประจำปีนี้ชี้แจงว่า อุโมงค์ดังมีความยาว 200 เมตรติดตั้งโครงเหล็กทำเป็นซุ้มบนถนนก่อนเข้าถึงหน้าประตูท่าแพ โดยน้ำที่ฉีดพ่นเป็นน้ำจากคูเมืองสูบขึ้นมาใส่ถังน้ำขนาดใหญ่และผ่านการฆ่าเชื้อก่อนที่จะฉีดพ่น นอกจากนี้ยังมีการผสมน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกจากวัดสำคัญจึงเหมือนเป็นน้ำมนต์ประพรมให้ผู้คนเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย โดยยืนยันว่าอุโมงค์พ่นน้ำดังกล่าวนี้ไม่ขัดต่อคำสั่งคณะกรรมการโรคจังหวัดเชียงใหม่ที่ห้ามเล่นน้ำแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตการณ์และตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอุโมงค์น้ำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการสูบน้ำจากคูเมืองเชียงใหม่และต่อท่อตรงขึ้นไปยังอุโมงค์พ่นน้ำโดยไม่มีบ่อพักน้ำเพื่อทำการฆ่าเชื้อและผสมน้ำศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น