"ปีเตอร์ คอร์ป" เปิดใจกว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย เผยคนที่ร่วมทุกข์ในวันที่ไม่มีกิน

18 เม.ย. 65

นักร้องนักแสดงเจ้าเสน่ห์หนุ่ม "ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล" มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เปิดแบบหมดเปลือกทุกเรื่องราวของชีวิตในเรื่องราวของชีวิต ว่ากว่าจะมาเป็น ปีเตอร์ ที่ทุกคนรู้จักในวันนี้ เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย พร้อมยังเปิดใจครั้งแรกในช่วงที่หายตัวไป และเผยถึงสถานะหัวใจที่ตอนนี้กำลังเริ่มต้นเป็นสีชมพูอีกครั้ง

 

ปีเตอร์ คอร์ป1

 

ถาม ปีเตอร์ คอร์ป เริ่มต้นเข้าวงการได้อย่างไร?

ปีเตอร์ คอร์ป : ถ้าถ่ายแบบที่เมืองไทย เพื่อนๆ ที่เดนมาร์กคงไม่รู้หรอก เงินก็เอากลับไปซื้ออะไหล่มอเตอร์ไซค์ได้ ลองดูก็ได้ ก็เลยได้เริ่มถ่ายแบบตั้งแต่ตอนอายุ 17 ปีครับ ตอนเกือบๆ 19 ปี ก็มีคนโทรศัพท์มาตามบอกว่าอยากให้กลับมาถ่ายโฆษณา เขาก็บอกเราว่าได้เงินแสนกว่าบาทเลย เราก็อุ้ย .. ได้เงินมาซื้ออะไหล่เยอะเลย แต่ตอนนั้นผมทำงาน Part Time ไปด้วย เรียนไปด้วย อยู่บริษัททนาย แต่เราก็รู้สึกว่ามันไม่มีเวลาทำในสิ่งที่เราอยากทำ เพราะเราทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ผมก็เลยกะว่าเอาอย่างนี้ ผมเบรกสัก 1 ปี ผมก็ไปคุยกับทางโรงเรียน ทางโรงเรียนก็บอกว่าได้เลยคุณจะเบรกสัก 1-3 ปีได้เลย เพราะเกรดของคุณ 3 มาตลอด ถ้าอย่างนี้ผมก็มาถ่ายโฆษณาได้เงินก้อน ซึ่งพอได้เงินก้อนผมก็จะเอาเงินก้อนนั้นมา Start up แล้วก็อยู่สัก 1 ปีเก็บเงิน แล้วกลับไปเรียนต่อโดยไม่ต้องทำงาน

 

ถาม แล้วสรุปว่าได้กลับไปไหม?

ปีเตอร์ คอร์ป : ไม่ได้กลับครับ (หัวเราะ) ก็เลยยาวเลยครับ เพราะว่าผมพอมาได้สักประมาณ 6 เดือน ก็มีคนติดต่อผม ก็เข้ากระบวนการลองเทสต์เสียงนู่นนี่เสร็จปุ๊บ!! ก็ได้เซ็นสัญญากับแกรมมี่ก็เลยยาวเลย ตอนนั้นก็ได้เข้าเป็นศิลปินฝึกหัด ผมย้ายมาประมาณ 2 ปีกว่า กว่าจะได้ออกอัลบั้ม

 

ถาม ซึ่งในช่วงนั้นชีวิตปีเตอร์ คอร์ปก็ลำบากอยู่เหมือนกัน

ปีเตอร์ คอร์ป : ก็ยากครับ ผมจำขึ้นใจเลยพี่ๆ ทุกคนบอกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน คืองานของผมกำลังฮอตเลย ถ่ายโฆษณามาเสร็จปุ๊บ!! ก็เป็นจุดเปลี่ยนหนี่งที่ทำให้คนรู้จักผมมากขึ้น งานถ่ายแบบก็เข้ามาเยอะขึ้น งานโฆษณาก็เข้ามา แต่ทุกคนก็จะบอกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แปลว่าอย่าเพิ่งรับงาน แต่เขาก็ไม่ได้เชิงห้ามนะครับ แต่บอกว่าอย่าเพิ่งรับดีกว่า ซึ่งก็กว่าจะได้ออกอัลบั้มจริงๆ คือ 2 ปี จนไม่มีกินครับ เชื่อไหมตอนนั้นผมเช่าอะพาร์ตเมนต์อยู่ห้องติดกับลีโอ พุฒเลย ซึ่งมีอยู่วันหนึ่งที่อีกวันจะเข้าไปรับเช็คแล้ว ต่างคนต่างเงินก็หมด ซึ่งช่วงนั้นถ้าผมมี ผมก็เลี้ยงเพื่อน ถ้าเพื่อนมีก็เลี้ยงผม ซึ่งอีกวันจะไปรับเช็ค แต่วันนี้เงินหมดแล้ว รถที่ซื้อมาน้ำมันเหลือน้อยมากแล้ว ผมก็ไม่มีเงินเติมน้ำมันแล้ว แต่พรุ่งนี้ต้องขับรถไปรับเช็ค แล้วเราสองคนทำยังไงรู้ไหมครับ เราก็รื้อโซฟาทั้งสองห้องที่เราอยู่ทั้งสองห้อง เก็บเหรียญแล้วก็เดินไปซื้อพายไก่ 1 ชิ้น 20 บาทแล้วแบ่งกันทานคนละครึ่ง ส่วนน้ำมันที่เหลือติดรถอยู่ผมก็ขับไปลุ้นไปว่าจะถึงหรือเปล่า ปรากฎว่าถึงครับ ซึ่งครอบครัวของผมไม่ได้อยู่ที่ไทย แล้วก็ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายผมจะไม่ขอเงินพ่อแม่ เราจะต้องเลี้ยงดูตัวเองให้ได้

 

ปีเตอร์ คอร์ป2

 

ถาม แต่สุดท้ายก็ต้องบอกว่าก็ประสบความสำเร็จทั้งคู่ แม้เพลงแรกๆ ยังไม่ค่อยเท่าไหร่

ปีเตอร์ คอร์ป : ตอนปล่อยซิงเกิลแรกยังไม่ตูมตามอะไรขนาดนี้ครับ ซิงเกิลแรกคือเพลงอยากไปไหนก็ไป ส่วนซิงเกิลที่สองเป็นเพลงให้ฟ้าฝ่าเธอ

 

ถาม และมีครั้งหนึ่งกับข่าวที่เรารับรู้คือ มีการประกาศตามหาว่า ปีเตอร์ คอร์ป หายไปไหน วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น

ปีเตอร์ คอร์ป : มันก็มีหลายอย่างนะครับ ก็เป็นปัญหาครอบครัวนั่นแหละ ซึ่งวันนี้ผมก็ขอไม่พูดถึงรายละเอียดนะครับ จริงๆ แล้วถ้าผมจะพูด ผมพูดไปตั้งนานแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่แนวทางผม แต่ก็พอเล่าให้ฟังคร่าวๆ ได้ จริงๆ แล้วมันก็มีปัญหาอยู่แล้วก็แต่ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ว่าพอมันอยู่ด้วยกันแล้วมันเป็นเรื่องที่มันไม่ดี มันมีเรื่องที่ทะเลาะกันบ่อยอยู่พอสมควร แล้วทะเลาะกัน ผมรู้สึกว่าจริงๆ แล้วผมเป็นคนไม่ชอบทะเลาะ แต่พอมาถึงจุดหนึ่งแล้วเหมือนใครที่โดนจี้จุดอยู่นานๆ ในที่สุดต่างคนต่างก็ขึ้น ผมก็พยายามถอยก่อน เดี๋ยวพอเย็นๆ แล้วค่อยคุยกันต่อไหม ผมก็ใช้วิธีว่าเดี๋ยวออกไปข้างนอกก่อนแล้วกัน เดี๋ยวไปขี่มอเตอร์ไซค์เล่นข้างนอกอย่างนี้ เพราะว่าขี่มอเตอร์ไซค์มันเป็นอะไรที่ต้องใช้สมาธิในการขับขี่ มันก็จะไม่นึกถึงเรื่องอื่น พอไม่นึกถึงเรื่องที่เราทะเลาะกันอย่างนี้ มันก็จะใจเย็นลง แล้วก็ค่อยกลับไปคุยใหม่อย่างนี้ครับ แต่ก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ดี ไม่ได้คลายสถานการณ์สักที แล้วมันก็จะถี่ขึ้นเรื่อยๆ ด้วยหลายๆ เหตุผล ซึ่งในที่สุดผมก็เลยรู้สึกว่าผมต้องถอยห่างแล้วว่าจริงๆ แล้วคือไม่ใช่อยู่ๆ ผมหายไปนะ แต่ผมคิดว่าคือมันจำเป็นต้องทำ หลายคนคิดว่าปีเตอร์ทิ้งลูก แต่ผมคิดว่าอันนี้น่าจะเป็นวิธีที่ทำให้ลูกไม่ต้องรับรู้ ไม่ต้องรับฟังไม่ต้องรู้สึกอะไรที่เด็กไม่ควรรับรู้ ตอนแรกผมก็ยังมีความหวังว่าออกมาสักพักแล้วกลับไปคุยใหม่แล้วมันจะดีขึ้นไหม แต่ในที่สุดมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น ก็เลยในที่สุดก็เลยแยกตัวออกไปก็เลยแยกยาวเลย

 

ถาม ซึ่งเขาบอกครั้งนี้มันเป็นข่าวที่รุนแรงต่อภาพลักษณ์ในความเป็นปีเตอร์มาก เห็นบอกว่าตอนนี้คอมเมนต์มหาศาลมากขนาดตอนนั้นโซเชียลยังไม่ได้ขนาดนี้

ปีเตอร์ คอร์ป : มีคอมเมนต์ต่างๆ นานา 2-3 หมื่นคอมเมนต์เลยครับ ซึ่งมันก็รู้สึกไม่ดีหรอก แต่ผมไม่ใช่แนวคนที่จะออกมาทำคะแนนเข้าตัวเอง แล้วในที่สุดเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นในบ้านมันก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวผมคิดแบบนี้เสมอ และที่สำคัญที่สุดคือการออกไปพูดคุยแก้ตัวอธิบาย ผมรู้สึกว่ามันแค่ออกไปต่อยอดข่าว เดี๋ยวข่าวจะกลายพันธ์ุไปแล้วมีประเด็นใหม่ขึ้นมาทุกๆ คนก็ตีความไปเอง

 

ปีเตอร์ คอร์ป3

 

ถาม สรุปตอนนี้ปีเตอร์ คอร์ปมีคนคุยไหม ??

ปีเตอร์ คอร์ป : ก็มีคนหนึ่ง เพิ่งเริ่มคุยแต่ก็ยังไม่นานมากครับ แต่ก็นานพอที่ได้รู้ว่าเขาน่ารักมาก

 

ถาม หลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านมามีผลกระทบต่อคนคุยๆ คนนี้ไหม เช่น เขาก็คงเห็นข่าวความเป็นปีเตอร์ คอร์ป ทุกคนรู้หมดเลยที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ซึ่งก็มีทั้งข่าวจริงบ้างไม่จริงบ้าง หรือเขาเชื่อไปที่เราไม่ได้มีโอกาสอธิบายมาก่อนไหม

ปีเตอร์ คอร์ป : ผมว่าทุกคนรู้ครับ คือตอนแรกผมก็สงสัยนะ ทุกอย่างเริ่มจากการเอ๊ะ .. ทำไมคนนี้น่าสนใจดี แล้วเขาก็คงจะรู้สึกอย่างนี้เหมือนกัน แล้วพอได้คุยกันไปมามันจูนเข้ากันได้ดี จนถึงจุดหนึ่งที่ผมก็ถามเลยคือผมก็รู้ตัวไงว่าประวัติของผมเป็นอย่างไรบ้าง ผมก็ถามเขาไม่สงสัยเหรออะไรอย่างนี้ ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะเขาไม่ถามอะไรเราเลย ซึ่งเขาก็บอกว่าไม่นะ เขาบอกว่าเขาจะเวททุกอย่างจากสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ สิ่งที่เขารู้สึกตอนนี้อะไรอย่างนี้ แต่ผมก็ได้พูดคุยอธิบายอะไรบางอย่าง

 

ถาม เห็นบอกว่าถ้าแม้แต่มีบางคนรอบตัวของเราไม่เข้าใจในความเป็น ปีเตอร์ คอร์ป เราสามารถบุกไปอธิบายได้เลย

ปีเตอร์ คอร์ป : จริงๆ แล้วถ้าสมมติว่าอันนี้พูดคุยน่ารัก ถ้าสักวันที่วันมีอะไรที่ซีเรียส แน่นอนคนรอบข้างตัวเขาด้วย ความเป็นเพื่อนสนิท ด้วยความเป็นสมาชิกของครอบครัวด้วยสัญชาตญาณของเขาต้องปกป้องคนนี้ ต้องมีคำถามแน่นอนครับ ผมก็บอกว่าถ้าใครมีคำถามหรือสงสัยอะไรบอกผมได้นะ ผมจะไปอธิบายเองให้ได้ว่าจริงๆ แล้วมันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ผมยินดีครับ เพราะผมไม่มีอะไรปิดบังไม่มีอะไรซ่อนอยู่แล้วครับ

 

ปีเตอร์ คอร์ป4

 

ถาม ในความรักที่ผ่านมาเรานำบทเรียนอะไรมาใช้กับความรักครั้งต่อๆ ไปบ้าง

ปีเตอร์ คอร์ป : บทเรียนในแต่ละช่วงชีวิตหรือในแต่ละสถานการณ์มีความแตกต่างกันไป บางทีเราเจ็บ บางทีเราเข็ด แต่ว่าบางทีเราก็ผิด บทเรียนที่เราผ่านมาไม่ใช่แต่จะก้าวผ่านแต่เราเก็บไว้ จำไว้ แล้วก็เอามาปรับปรุง เพราะฉะนั้นเรื่องราวของความรัก พอโตขึ้นชีวิตของคนเรามันจะนิ่งขึ้น ตัวเราบุคลิกเราจะนิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นคือไม่รีบนะครับ ใช้เหตุและผลดูกันหน่อย เข้ากันได้ดีจริงๆ ไหม เพราะว่าอย่างที่ว่าคำว่าเอ๊ะ!! เมื่อกี้ที่แบบว่าสัญญาตญานของเรา พอเราเอ๊ะ!! ปุ๊บ ทำไมมันเป็นอย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องของความชู้สาวอย่างเดียว แต่บางทีในเรื่องของนิสัยที่มันไม่ได้เข้าด้วยกันตั้งแต่แรก แต่ด้วยว่า popy love ทั้งเราและเขาก็พยายามทำให้เขาดูว่าเราดีที่สุด และเรายอมที่จะมองข้ามจุดอะไรหลายๆ อย่างตรงนี้ไป แต่พอยาวๆเข้าไปปุ๊บเขาก็ต้องบอกว่าตัวจริงของเราและเขาปรากฎเอาจริงๆ เวลานั้นเราอาจจะเข้ากับเขาไม่ได้ก็ได้

 

สามารถชมคลิปย้อนหลังรายการ CLUB FRIDAY SHOW ทางยูทูป :

https://youtu.be/3TdI0-d2rGc
https://youtu.be/lnJLuo9NeRE
https://youtu.be/RmZ0aI-MKHI


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- พลอย พลอยพรรณ ฟาดไม่ยั้งเป็นหน้า สุดทนชาวเน็ต หาว่าประสาท บันเทิงเกิน ปีเตอร์ ถึงเลิก!

- ลุ้นหนักมาก ปีเตอร์ หวนร่วมเฟรมอดีตภรรยาและลูก งานนี้มีรีเทิร์นหรือเปล่า ?

- พลอย พลอยพรรณ เปิดภาพครอบครัวสุดอบอุ่น ในวันเกิด “น้องแพนเตอร์”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส