กรณี ตำรวจสน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และมูลนิธิสยามรวมใจ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาพระราม 4 ถนนเกษมราษฎร์ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นถนน 6 เลน ที่พื้นถนนเต็มไปด้วยเศษก้อนอิฐ และเศษขวดแก้วแตกกระจายเกลื่อน บริเวณแท่งแบริเออร์กั้นกึ่งกลางถนนพบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณกลางหน้าอก จำนวน 1 นัด ต่อมาทราบชื่อ นายชุณชนะ โชติพรม อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสียชีวิตในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ ยังพบผู้ได้บาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายพด มุธี หรือ ใหม่ อายุ 40 ปี บาดเจ็บฟกช้ำที่หัวไหล่ซ้าย 2.นายจักรพงษ์ เรืองเดช หรือ ตีบ อายุ 38 ปี บาดเจ็บที่ดวงตาขวา และใบหน้า และ 3.นายจาตุรงค์ อู่มั่น หรือ กด อายุ 38 ปี ได้รับบาดเจ็บที่มือซ้าย ในที่เกิดเหตุยังพบเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จำนวนกว่า 50 คน ยืนกระจายอยู่เต็มพื้นที่ ส่วนมูลนิธิสยามรวมใจคู่กรณี ในช่วงก่อเหตุหลบอยู่บริเวณลานจอดรถภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส
ล่าสุดวันที่ 18 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสได้สัมภาษณ์นายพด มุธี อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งที่อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า คู่กรณีมีการแจ้งเหตุเท็จหลายครั้ง เหมือนจะหลอกล่อให้พวกตนเข้าไปในที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อไปถึงจุดที่รับแจ้งเหตุไว้ก็ไม่พบว่ามีเหตุตามที่รับแจ้งแต่อย่างใด เมื่อนำเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งเหตุมาเพิ่มเพื่อนในไลน์ ก็พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิสยามรวมใจ
ต่อมาพวกตนจึงขับรถเพื่อที่จะไปสอบถามในจุดดังกล่าวซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ ไปกันประมาณ 30 คน บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัสค่อนข้างมืด เพราะจะไปสอบถามว่าโกหกทำไม ตนยืนยันว่าไม่มีอาวุธ ทันทีที่ไปถึงคู่กรณีได้ปาขวดออกมา พวกตนจึงวนรถมาจอดที่แยก และจะเดินเข้าไปพูดคุย จากนั้นจึงมีการขว้างหินและขวดจำนวนมากใส่พวกตน จึงหยิบไม้แถวข้างทางเพื่อที่จะเข้าไปต่อสู้ หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด ตนจึงบอกให้ผู้เสียชีวิต ซึ่งยืนอยู่ข้างตน หลบเข้าไปด้านหลัง แต่หลังสิ้นเสียงปืนเขาก็ล้มลงนอนไปกองอยู่กับพื้น เพราะถูกยิงหน้าอก พวกตนจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ตนก็ถูกหินปาใส่ที่ไหล่บาดเจ็บเช่นกัน ตนไม่เห็นว่าใครเป็นคนยิง เพราะค่อนข้างมืดมาก ๆ จากนั้นตำรวจก็เข้ามาห้าม จึงตะโกนบอกให้ตำรวจช่วยจับคนร้าย
สำหรับคลิปวิดีโอที่เห็นว่าพวกตนทุบรถนั้น ตนยอมรับว่ากระทำจริง แต่เป็นช่วงหลังจากที่ทราบว่าคนในทีมเสียชีวิตแล้ว เพราะเป็นอารมณ์โกรธจริง ๆ ด้วยความสูญเสียเพื่อนร่วมอาชีพ ส่วนการปิดถนนนั้นก็เป็นเพียงต้องการกดดันคนร้ายเท่านั้น ตนจึงขอเป็นตัวแทนกราบขอโทษประชาชนละแวกดังกล่าวที่ทำให้เดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาบางส่วนเกิดจากคนของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่เคยทำงานถูกขับออกจาทีม เพราะทำร้ายพนักงานด้วยกันเพื่อที่จะสร้างอำนาจให้ตัวเอง ส่วนน้องผู้เสียชีวิตเป็นเด็กดีมาก ๆ ตั้งใจทำงานและขยัน เป็นเด็กที่เคารพรุ่นพี่ เมื่อเจอกันก็จะหยอกล้อเล่นกันอยู่เสมอ ๆ ตนจะเรียกน้องว่า “ไอ้จ่อย” ไม่มีลางบอกเหตุใด ๆ ว่าน้องจะเสียชีวิต ตนขอยืนยันว่าฝั่งพวกตนไม่มีอาวุธใด ๆ ทั้งสิ้น และต้องการให้ผู้ที่ก่อเหตุเข้ามามอบตัว หากเป็นลูกผู้ชายพอก็ยอมรับผิด