เข้าคุกคู่! โจ๋ไทยบุกโรงพักชิงบิ๊กไบก์ของกลางหนุ่มเขมร เผยทำไปเพราะรักเพื่อน (คลิป)

20 เม.ย. 65

กรณีพ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พร้อมกำลังชุดสืบสวน จับกุมตัวนายติดแสน สัญชาติกัมพูชา พร้อมรถบิ๊กไบก์ ยี่ห้อฮอนด้า CBR 650R สีแดง ซึ่งเป็นรถของกลางที่นายติดแสน ขี่เข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ สภ.เมืองระยอง แต่ถูกจับในข้อหาดัดแปลงท่อดัง และไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จึงถูกยึดรถไว้ที่สภ.เมืองระยอง ต้องนั่งรถประจำทางกลับไปที่บ้านพักในโรงงานแห่งหนึ่ง อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง

707554

หลังจากนั้น นายติดแสน นำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้นายกล้าฟัง ซึ่งเป็นเพื่อที่สนิทกัน นายกล้า จึงอาสาไปเอารถกลับคืนมาให้ โดยนำกุญแจสำรองติดตัวไปด้วย โดยไม่ทราบว่าผิดกฎหมาย กระทั่งนายกล้า นำรถมาคืนให้จึงจอดไว้ในบ้านพัก และไปทำงานตามปกติ สุดท้ายนายติดแสน ถูกจับกุมพร้อมรถจักรยานยนต์ ส่วนนายกล้า ได้หลบหนีไป

698417

ล่าสุดวันที่ 20 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่าเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.อธิวัฒน์ อภิวุฒิชัยกิตติ์ สว.จราจร สภ.เมืองระยอง พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชัยณรงค์ เขียวหวาน รอง สวป.ชุดปราบปรามอบายมุข สภ.เมืองระยอง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามจับกุมนายกล้า จากการสืบสวนจนทราบชื่อจริงของนายกล้า คือ นายสิงหล อาชีพขายรถบิ๊กไบก์มือ 2 พักอาศัยอยู่ในบ้านพัก อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง จึงติดตามไปจับกุมตัวดังกล่าว 

548867

นายกล้า ให้การรับสารภาพอ้างว่า ตนเป็นคนมาขี่รถของกลางไปจริง ที่ทำไปเพราะรักเพื่อน ตนคบกันมานานหลายปี และอยู่แก๊งบิ๊กไบก์ร่วมขี่รถตระเวนท่องเที่ยวไปด้วยกันเสมอ ๆ ตนเข้าใจผิดที่ตำรวจออกใบบันทึกการตรวจยึดรถ แต่ตำรวจจราจรไม่ยอมออกใบสั่งให้

229687

จากนั้นในวันที่ 18 เม.ย.65 ช่วงกลางคืน ตนจึงนำกุญแจสำรองมาไขรถบิ๊กไบก์ของนายติดแสน ที่ถูกตรวจยึดและจอดอยู่ที่สภ.เมืองระยอง โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้า ก่อนจะขี่รถออกจากโรงพัก และขี่กลับมาคืนให้นายติดแสนที่บ้านพัก ส่วนสาเหตุที่ต้องช่วยเพราะเกิดอารมณ์โมโห และเข้าใจผิด ด้วยความรักเพื่อนที่คบกันมานานแล้ว ไม่คิดว่าผิดกฎหมายและมีโทษที่รุนแรง ตนต้องขอโทษตำรวจด้วย

เบื้องต้น ร.ต.อ.กวีวุฒิ บุญเรือง เจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ได้ตั้งข้อกล่าวทั้ง 2 คนว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในสถานราชการและยึดรถไว้เป็นของกลาง จากนั้นควบคุมตัว นายกล้า และนายติดแสน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส