เฒ่ายัวะเมียด่าตอนกินข้าวคว้ามีดสับหัว โอดกลัวเหงา พ้ออยู่กิน 55 ปีเอาแต่บ่น (คลิป)

กรณีร.ต.อ.นนทวัฒน์ รามหนู รอง สว.สอบสวน สภ.ป่าพะยอม พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.สภ.ป่าพะยอม พ.ต.ท.สุรศักดิ์ คชภักดี รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.มานพ บริพันธ์ รอง ผกก.(สส.)ฯ พ.ต.ต.กิตติพัส คงศรีทอง สวป.ฯ พ.ต.ต.บุญทรง ผดุงธรรม สว.สส.ฯ นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง จนท.หน่วยกู้ภัยป่าพะยอม และแพทย์เวร รพ.ป่าพะยอม ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุสามีใช้มีดพร้าฟันภรรยาตัวเองเสียชีวิต โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 3 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวแบบก่ออิฐถือปูน ตั้งอยู่ริมถนนภายในหมู่บ้าน

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนางจวน สุขสงวน อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นภรรยาเจ้าของบ้านนอนเสียมชีวิตจมกองเลือกในลักษณะคว่ำหน้าอยู่ข้างโต๊ะและม้านั่งหินอ่อน โดยสวมเสื้อลายดอกไม้ ผ้าโสร่งลายดอกไม้ สภาพศพถูกฟันด้วยมีดพร้าเข้าที่บริเวณลำคอด้านหลัง 2 แผลจนคอหวิดขาด และบริเวณแผ่นหลังด้านขวาจนแผลฉีกขาด ในที่เกิดเหตุ ตร.พบมีดพร้าที่ใช้ในการก่อเหตุที่ผ่านมาล้างทำความสะอาดวางอยู่ 1 เล่ม ส่วนคนร้ายที่เป็นสามีของผู้ตายทราบชื่อภายหลังว่า นายสมพร สุขสงวน อายุ 78 ปีนั้น ได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.สภ.ป่าพะยอม และ ตร.ชุดสืบสวน ในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนในเบื้องต้นได้ความว่า บ้านหลังดังกล่าวมี 2 สามีอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คน ส่วนลูกๆได้ไปทำงานในต่างจังหวัด โดยนายสมพรฯจะทำหน้าที่ในการจัดปรุงอาหารให้กับภรรยาเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากภรรยามีสุขภาพไม่ค่อยสมบูรณ์ ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ผู้ตายนำอาหารเช้ามานั่งรับประทานอาหารบนแคร่ไม้ที่มีหลังคากันฝนและแสงแดดนั้น นางจวนฯซึ่งนั่งอยู่บนม้าหินอ่อนได้พูดจาพูดจาพร่ำบ่นในลักษณะถากถางนายสมพร จนถูกนายสมพรบอกว่าเวลากินข้าวเขาห้ามพูดจาถากถาง หรือพูดจาดูถูกคนที่กำลังกินข้าวเนื่องจากคนโบราณเขาถือเป็นเรื่องสำคัญ

แต่ผู้ตายก็ไม่ฟังการห้ามปรามจากสามีจนทำให้สามีเกิดความโมโหจึงใช้มีดพร้าไปฟันภรรยาของตนเองจนเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว จากนั้นก็ได้นำข้าว อาหารไปให้ไก่กิน และนำมีดพร้าไปล้างทำความสะอาดรอยเลือด และรอมอบตัวกับตำรวจดังกล่าว ซึ่งทางตำรวจจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนชนวนเหตุและหาสาเหตุที่แท้จริงกันต่อไป และนำตัวไปส่งให้ ร.ต.อ.นนทวัฒน์ รามหนู นำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทีมข่าวได้เดินไปสอบถามนายวิรัตน์ หนูนะ อายุ 60 ปี เพื่อนบ้าน ตาพรกับยายเขียวอยู่กินเป็นสามีภรรยากันมา 55 ปี แล้วมีลูกด้วยกัน 3 คน เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน เหลือลูก 2 คน ซึ่งทั้งคู่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด บ้านหลังเกิดเหตุตนอยู่กินกับยายเขียว 2 คน เเละหลานสาวอายุ 13-14 ปีอีก 1 คน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ทราบว่าเกิดช่วงไหน เเต่น่าจะช่วงใกล้ ๆ 12.00 น. ทั้งนี้ เมื่อเช้าตนไปทำงานเป็นคนสวนที่ ม.ทักษิณ ทำให้ไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปกติทั้งสองตายายเป็นคนขยัน ตาพรมีอาชีพซื้อวัวมาขายต่อ ส่วนยายเขียวมีอาชีพค้าขายทั่วไป แต่ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยครั้ง ตนไม่ทราบว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร เเต่เคยได้ยินเสียงคนเถียงด่ากันดังออกมาจากในบ้าน เป็นประจำ เท่าที่รู้ตาพรก็เคยลงไม้ลงมือกับยายเขียวด้วย เเต่ไม่รู้ว่ามีการใช้อาวุธหรือไม่ เเละด้วยความที่ตนไม่ค่อยสนิทสนม ทำให้ไม่เคยเห็นบาดแผลของยายเขียว เเละไม่ทราบว่ายายเคยไปเเจ้งความหรือไม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าบ้าน ตนไม่รู้สึกกลัวหรือตกใจอะไร เพราะไม่ได้สนิทสนมกันอยู่เเล้ว เเต่เท่าที่เคยเห็นคุณตามา ก็ไม่น่าจะเป็นคนที่ทำร้ายคนอื่นจนเสียชีวิตได้

อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.นนทวัฒน์ รามหนู ร้อยเวร สภ.ป่าพะยอม ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเเจ้งข้อกล่าวหาใดกับ นายสมพร เนื่องจากต้องรอสอบปากคำ พยานเเวดล้อม ผู้ต้องหา เเละญาติเสียก่อน เพื่อดูเจตนาของผู้ก่อเหตุ ทั้งนี้ นายสมพร ได้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุใช้พร้าฟันภรรยาจริง โดยอ้างว่ากำลังนั่งกินข้าวอยู่ เเต่ภรรยาก็บ่นด่าไม่หยุดจึงเกิดบันดาลโทสะใช้พร้าฟันไปที่ลำคอเเละกกหู จนภรรยาเสียชีวิต