กรณีลูกสาวประกาศตามหานายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี, นางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี,ด.ช.นฤเบศก์ อายุ 12 ปี และ ด.ญ.หริญดา อายุ 7 ปี ชาวต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งทั้ง 4 คน หายออกจากบ้านใน อ.ทุ่งเสลี่ยม พร้อมรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าสีเทา ทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย เป็นพาหนะในการเดินทาง ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.65 จนถึงวันนี้ (21 เม.ย.65) รวมแล้ว 11 วันแต่ยังไร้วี่แวว
ล่าสุดวันที่ 21 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ติดตามเรื่องนี้ แม้ว่าโซเชียลมีเดียจะช่วยกันตามหาจนเจอรถกระบะคันดังกล่าวไปโผล่ที่หน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจประกาศขายรถมือสอง จ.อุดรธานี ก่อนย้อนรอยที่มาของรถพบว่าน.ส.นฤมล ขายรถให้กับนายหน้าคนที่ 1 ที่ปั๊มน้ำมัน สาขาเขื่อนนเรศวร จ.พิษณุโลก ไปตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 65 เวลา 15.40 น. โดยนายนิรุตน์ รถขับเก๋งอัลติส มารอรับภรรยาที่ปั๊มน้ำมัน
ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของนายล้วน บุญชู อายุ 69 ปี หรือ ตาล้วน ที่หมู่บ้านลุเตา ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นพ่อของนายนิรุตน์ ผู้สูญหาย เมื่อมาถึงก็พบมีรถยนต์โตโยต้าอัลติส สีขาว ทะเบียน 8 กธ 337 กรุงเทพฯ จอดอยู่ แต่ไม่ชัดเจนว่าจะเป็นรถคันเดียวกันที่พบในปั๊มน้ำมัน จุดซื้อขายรถหรือไม่
ขณะเดียวกันยังพบนายล้วน ยืนให้ข้อมูลกับตำรวจก่อนเห็นสื่อก็มีอารมณ์ฉุนเฉียว เนื่องจากไม่พอใจที่มีสื่อบางสำนักออกข่าวว่าครอบครัวสามารถติดต่อลูกชายได้แล้ว แต่ความจริงครอบครัวยังไม่สามารถติดต่อได้ สื่อกลับออกข่าวมั่วทำให้คนสับสน
ต่อมาชุดสืบสวนตรวจสอบที่มาของรถโตโยต้าอัลติสสีขาว ปรากฎว่ารถมีสัญญาเช่าซื้อและเล่มทะเบียนรถเป็นชื่อของน.ส.หิรัญญา แค่เจ้าตัวกลับไม่รู้เรื่องรถเลย ก่อนนายล้วน จะให้ข้อมูลกับตำรวจว่า รถคันนี้ลูกสาวตนเป็นนำมาส่งให้หลานสาว นายนิรุตน์ นัดให้ไปเอามาให้ เพื่อเป็นของขวัญให้ลูกสาวที่สอบติดมหาวิทยาลัย ก่อนที่น.ส.หิรัญญา จะร้องไห้บอกว่า "ไม่ต้องการรถ แค่อยากให้พ่อกับแม่กลับมา"
น.ส.หิรัญญา เปิดเผยว่า ลูกสาวคนโตของผู้สูญหาย ตนไม่ได้กลับมาที่บ้านตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 65 ที่ผ่านมา เพราะครอบครัวไปส่งที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งวันนั้นพ่อกับแม่และน้อง ๆ มีการเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป้ออกไปกันคนละ 1 ใบเท่านั้น อีกทั้งในวันที่ 12 เมษายน 65 ที่กลับมาบ้านปู่เพื่อตามหาครอบครัว ตนก็ไม่ได้เข้ามาที่บ้าน เพราะไม่รู้จะเข้ามาทำอะไร และกลัวเห็นภาพเดิม ๆ แล้วจะเสียใจ
ขณะเดียวกัน ในวันนี้ก็ไม่พบข้าวของในบ้านสูญหายไป นอกจากเสื้อผ้าที่พ่อแม่ และน้องจัดใส่กระเป๋าเป้ และบอกว่าจะไปเที่ยวก่อนไปส่งตน ส่วนเรื่องรถตนยืนยันว่าที่บ้านมีรถกระบะ 1 คัน และรถอัลติสสีขาวที่จอดอยู่ ตนเพิ่งรู้ว่าอาขับรถเอามาให้ จึงคาดว่าพ่อกับแม่ซื้อให้ตามสัญญา แต่พ่อกับแม่ไม่บอกว่าจะซื้อให้เมื่อไร แค่เคยพาไปเรียนขับรถเมื่อเดือนมีนาคม 65 ส่วนรถอัสติสสีเทา ตนไม่เคยเห็น
นอกจากนี้ ตนยืนยันว่าขณะนี้ยังติดต่อใครไม่ได้ ไม่มีใครติดต่อมาเลยสักคนเดียว ส่วนญาติ ๆ ได้สอบถามไปทั้งหมดแล้ว ไม่มีใครพบเห็นพ่อแม่และน้อง จนถึงวันนี้อยากบอกว่าแม่ว่า “แม่ไปไหน แม่ไม่บอกหนูสักคำ แม่ช่วยกลับมาหาหนูหน่อย หนูไม่ไหวแล้ว”
ขณะที่ภายในบ้านมีทรัพย์สินที่เห็น คือ รถยนต์กระบะ 1 คัน, รถจักรยานยนต์คันใหญ่ 150 cc, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเวฟ และรถ 3 ล้อไฟฟ้า 1 คัน