กรณี "บุ๋ม - ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" โพสต์เรื่องราวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เผยแพร่ข้อมูลว่านางบุญส่ง (นามสมมติ) อายุ 74 ปี ถูกลูกชายอายุ 32 ปี คลั่งยาเสพติดทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกาย ทั้งแขน ขา และแผ่นหลังมีรอยบอบช้ำจำนวนมาก
โดยสาวบุ๋ม ระบุข้อความว่า “โดนลูกชาย อายุ 32 เมาทำร้ายร่างกาย ชาวบ้านเลยรุมกระทืบลูกชาย แต่ไม่สำนึก ขู่แม่ว่าจะจัดการแม่อีก หาว่าแม่ให้คนมากระทืบมัน #ปราณบุรี #ประจวบคีรีขันธ์ เรียนท่านผู้ว่าฯ ดูแลเคสนี้ด้วยค่ะ"
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจสายตรวจ สภ.ปากน้ำปราณ ได้เข้าไปจับตัว นายธนกร หน่อทิม หรือ หนึ่ง อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุได้ที่บ้านพักเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.65) และนำตัวสอบสวนที่โรงพัก ซึ่งยังคงพูดให้การวกวน และปฎิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายแม่ อ้างว่าแม่เอาเงินหลักแสนไปใช้จ่ายไม่ถูกต้อง จึงคุยกับแม่ให้รู้เรื่องเท่านั้น ส่วนที่แม่บาดเจ็บเกิดจากวิ่งหนี และไม่ได้ทำอะไรแม่แม้แต่นิดเดียว แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากร่องรอยบาดแผลที่พบบนตัวนางบุญส่ง เกิดจากการถูกทำร้าย และเมื่อตรวจปัสสาวะนายหนึ่ง ก็พบสารเสพติดในร่างกายอีกด้วย
ในเบื้องต้นตำรวจจึงแจ้งข้อหานายหนึ่ง 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และข้อหาเสพยาเสพติด ก่อนจะคุมตัวส่งศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ฝากขัง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดวันที่ 23 เม.ย.65 อมรินทร์ทีวี เดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ พร้อมกับนายพรหมสิงห์ สิงหเสนี อายุ 26 ปี อาสาสมัครองค์กรทำดี ซึ่งได้รับการประสานงานจากบุ๋ม ปนัดดา ให้เข้ามาช่วยเหลือนางบุญส่ง แต่เมื่อไปถึงบ้านพบว่า ภายในบ้านมีเพียงหลานชายของนางบุญส่ง จำนวน 4 คน ซึ่งเป็นลูกชายของนายหนึ่ง ผู้ก่อเหตุ นั่งเล่นกันอยู่ภายในบ้านเท่านั้น
จากนั้นทีมข่าวจึงเดินทางไปที่ชายหาดเขากะโหลก เพื่อไปพบกับนางบุญส่ง พบว่านางบุญส่งกำลังยกเก้าอี้ให้เช่าวางให้นักท่องเที่ยว แม้ว่าเพิ่งจะถูกลูกชายทำร้ายร่างกาย เท้าของนางบุญส่งสวมถุงพลาสติกเพื่อกันทรายเข้าบาดแผล และเดินทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นางบุญส่ง เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า ลูกชายเข้ามาทวงถามเงินจำนวน 1 แสนกว่าบาท ซึ่งตนได้มาจากการจำนองที่ดิน เพราะตนจำเป็นต้องเอาที่ดินไปจำนอง เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายเลี้ยงดูลูกชาย และหลานชายอีก 4 คน แต่ที่ผ่านมาลูกชายไม่เข้าใจ คิดว่าตนเอาเงินที่ได้มาไปใช้จ่ายไม่เหมาะสม จึงลงมือทำร้ายตนเรื่อยมา
"วานนี้ ลูกชายเขาไม่รู้โมโหอะไร เข้ามาหาที่บ้าน และเอาไม้แขวนเสื้อหักเป็นเกรียว ๆ ฟาด 5-6 ที ตอนนั้นก็พยายามบอกลูกชายว่า แม่เจ็บ ๆ อย่าตีแม่เลย แต่ลูกชายก็ยังตีไม่หยุด จึงพยายามอดทน แต่ไม่ไหวรีบวิ่งออกมาจากบ้าน และแจ้งตำรวจให้ช่วยเหลือ" นางบุญส่ง กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องตนเห็นลูกชายถูกตำรวจจับก็รู้สึกเสียใจ เพราะไม่อยากให้ลูกชายติดคุก และเข้าใจลูกชายที่ต้องทำร้ายตน อาจจะเข้าใจตนผิดเรื่องเงินที่ได้จากการจำนองที่ดิน ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้นำเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เพียงแต่ต้องเก็บไว้ให้หลานและลูกเท่านั้น จะได้มีกินมีใช้ไม่ลำบาก ไม่อยากให้ลูกเอาเงินไปซื้อยาเสพติด แต่สิ่งที่ลูกชายทำกับตนนั้น ตนก็ไม่เคยโกรธแม้ลูกจะทำร้ายตนเจ็บขนาดไหนตนก็ยอม เพราะตนรักลูกชายมาก และไม่อยากให้ตำรวจจับลูกชายไปติดคุก
ทีมข่าวตรวจสอบคลิปวิดีโอช่วงหนึ่ง ก่อนที่นายหนึ่ง จะก่อเหตุใช้ไม้แขวนเสื้อฟาดแม่ตัวเองจนเป็นแผลช้ำไปทั้งตัว โดยในคลิปปรากฏภาพนายหนึ่งให้ลูกชายคนโต วัย 12 ขวบ ถ่ายคลิปให้ ขณะที่นายหนึ่ง กำลังพูดสั่งสอนนางบุญส่ง เพราะโมโหเรื่องนำที่ดินไปจำนองโดยไม่บอกให้ทราบ ในคลิปจะเห็นได้ว่านางบุญส่ง เอาแต่นั่งคอตก และยอมให้ลูกชายด่า