จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก social hunter โพสต์ภาพผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล อาการสาหัสต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ พร้อมระบุข้อความว่า ตำรวจถีบรถผู้เสียหายล้ม เหตุขับรถเร็วเรียกตรวจไม่ยอมจอด ทั้งกล้องวงจรปิดพังขณะเกิดเหตุ วอนผู้เห็นเหตุการณ์นำหลักฐานมาช่วยเหลือ
ล่าสุด 16 มิถุนายน 2560
นางสาวจริยา โพธิ์ชัย แม่ของน้องอุ้ม ผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน เวลาประมาณ 03.00 น. น้องอุ้มได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านย่านเคหะร่มเกล้า ออกไปรับพี่ชายที่ตลาดนัดตะวันนา หลังจากนั้นมีมูลนิธิโทรศัพท์มาบอกว่า ลูกสาวประสบอุบัติเหตุ อาการสาหัส ตนจึงรีบไปโรงพยาบาล และมารู้จากเพื่อนลูกสาวว่า น้องอุ้มถูกตำรวจจับ แต่ตัวเพื่อนขับหนีออกมาได้
แม่น้องอุ้ม เปิดเผยว่า
ได้เข้าแจ้งความไว้ที่สน.หัวหมาก ซึ่ง
ตำรวจบอกให้ตนไปตามหากล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ แต่เมื่อไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดของศูนย์จราจร กลับได้คำตอบว่า ช่วงที่เกิดเหตุไฟตก ทำให้ไม่สามารถบันทึกภาพได้
ตนจึงเดินทางแจ้งความเพิ่มเติมว่าลูกสาวอาจถูกทำร้ายร่างกาย แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่รับแจ้งความ
ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะลูกสาวอาการหนักมาก ซึ่งตนก็ยังไม่มีหลักฐาน เพียงแต่ออกมาเรียกร้องเพื่อหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนอาการของน้องอุ้ม คือกะโหลกซ้ายยุบ ต้องผ่าตัดเอาเลือดคั่งในสมองออก มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
ทีมข่าวได้วิดีโอคอล พูดคุยกับนายเอ (นามสมมุติ) เพื่อนพี่ชายของน้องอุ้ม ที่อยู่ด้วยกันในวันเกิดเหตุ เล่าว่า น้องอุ้มมารับที่ตะวันนา โดยขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกัน เมื่อถึงบริเวณใกล้ปากซอยรามคำแหง 127 มีตำรวจขับรถจักรยานยนต์ซ้อน 2 มาประกบ เพราะตนไม่ได้ใส่หมวกกันน็อค จึงรีบบิดหนี เมื่อหันกลับไปพบว่า รถของน้องอุ้มล้มลงข้างรถตำรวจ จึงวนรถกลับไป พบว่า รถของกู้ภัยกำลังมารับตัวน้องอุ้ม ตนก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะ
รถของน้องอุ้มถูกต้องทุกอย่าง น้องก็ใส่หมวกกันน็อค ขณะเกิดเหตุไม่ได้ขับเร็ว หากรถล้มธรรมดาอาการก็ไม่น่าจะหนักขนาดนี้
ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าปากซอยรามคำแหง 127 พบว่า หน้าปากซอยมีกล้องวงจรปิดของ กทม.จำนวน 3 ตัว โดยแม่ของน้องอุ้ม เผยว่าไม่สามารถบันทึกภาพได้ ส่วนบริเวณใกล้เคียงเป็นร้านอาหาร ไม่มีกล้องวงจรปิด และไม่เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ
โดยจุดดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ยืนอำนวยความสะดวก จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเปิดเผยว่าส่วนใหญ่สายตรวจ จะขับรถออกตรวจจับรถหรือบุคคลต้องสงสัยในช่วงกลางดึก
ด้าน
พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธ์ มีสวัสดิ์ ผู้กำกับการ สน.หัวหมาก ระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเพิ่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ที่สน.หัวหมาก แต่ยืนยันว่า จะตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมในการดำเนินคดีอย่างเต็มที่
ขอบคุณเฟซบุ๊ก social hunter