จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. วันที่ 24 เม.ย. 65 พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.ตากใบ รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.ตากใบ ว่ามีเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงบุคคลได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ ภายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ตายคือ ด.ญ.มายาซาปิรา อายุ 1 ปี 6 เดือน นอนเสียชีวิตภายในบ้านเช่า ผู้ก่อเหตุคือ นายสุรเชษฐ์ สามะ อายุ 30 ปี ซึ่งกำลังพยายามคบหาเป็นแฟนกับ น.ส.อาฟีสะห์ ยูโซ๊ะ แม่ของเด็ก
ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายสุรเชษฐ์ ได้ขอรับ ด.ญ.มายาซาปิรา ไปเลี้ยงดูเที่ยวเล่นที่บ้านพักและทำร้ายร่างกาย จนทำให้เสียชีวิต น.ส.อาฟีสะห์ จึงได้โทรแจ้งนายอับดุลเล๊าะมาน น้องชาย อายุ 25 ปี ให้มาช่วยเหลือ เมื่อนายอับดุลเล๊าะมานมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ทะเลาะแย่งปืนจากนายสุรเชษฐ์ และได้ยิงนายสุรเชษฐ์จำนวน 2 นัด กระสุนถูกบริเวณหัวไหล่ซ้าย 1 นัด บริเวณใบหูซ้าย จำนวน 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ
วันที่ 25 เม.ย. 65 นางแมะ ยูโซ๊ะ อายุ 49 ปี ยายของเด็กที่เสียชีวิต เปิดใจทั้งน้ำตาว่า หลังจากที่ตนเองได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ตนใจหายมาก เสียใจเเละสงสารหลาน ทำไมต้องทำกับหลานของตนแบบนี้ เด็กไม่มีความผิดอะไรเลย ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ทำทำไม ตอนที่โดนหลานของตนยิงบ้างรู้สึกอย่างไร ร้องโวยวายทำไม ตนได้เห็นสภาพหลานเเล้ว เหมือนคนคอหัก ตัวเขียวช้ำไปหมด ที่หน้าหลานก็มีรอยช้ำคล้ายถูกกัด
หลังจากเกิดเหตุตนยังไม่ได้เจอหน้านายสุรเชษฐ์ ทราบว่าตอนนี้อยู่โรงพยาบาลตากใบ ส่วนญาติของคนก่อเหตก็ยังไม่ติดต่อมาขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบ ส่วนหลานสาว ที่เป็นแม่ของเด็ก ตนก็ยังไม่ได้สอบถามเหตุการณ์แบบละเอียด เพราะเมื่อวานอยู่ในอาการช็อก เสียใจมาก ตนไม่ได้เลี้ยงหลานคนนี้มาก็จริง เพราะต้องอยู่บ้านเลี้ยงหลานอีก 4 คน ทั้งนี้ตนก็รู้สึกรักหลานที่เสียชีวิตมาก ตนรู้สึกโกรธมากจน อยากจะฆ่านายสุรเชษฐ์ อยากให้เขาได้รู้บ้างว่ารู้สึกอย่างไร ยืนยันว่าจะไม่ยกโทษให้เด็ดขาด อยากให้นายสุรเชษฐ์ตายไปเสีย
น.ส.อาฟีสะห์ ยูโซ๊ะ อายุ 28 ปี แม่เด็กผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองมีลูกทั้งหมด 3 คน คือลูกชาย 2 คน อายุ 7 ปี กับ 4 ปี และลูกสาวคนเล็กอายุ 1 ปีครึ่ง โดยตอนนั้นตนอยู่กับลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็ก ส่วนลูกชายคนกลางไปเที่ยวประเทศมาเลเซีย กับแม่ของตน ตนเองรู้จักกับนายสุรเชษฐ์เนื่องจากเป็นเพื่อนกับน้องชาย เมื่อ 2 เดือนก่อนนายสุรเชษฐ์ได้ตามจีบตน แต่ตนไม่อยากจะคบใครอีก เพราะตอนนี้ก็มีลูกอยู่แล้ว 3 คน ที่ผ่านมานายสุรเชษฐ์ก็พูดจากับตนดี ไม่เคยขึ้นเสียงหรือทำร้ายร่างกาย รวมถึงไม่เคยมีพฤติกรรมที่จะทำร้ายลูกด้วย ท่าทางดูเอ็นดูเด็ก ซื้อข้าวให้ พาไปเที่ยว ทำให้ตนไว้วางใจให้ลูกไปเที่ยวเล่นด้วย นายสุรเชษฐ์มักจะชอบเล่นกับลูกสาวคนเล็กมากกว่า
เหตุการณ์ก่อนหน้าวันเกิดเหตุ 1 สัปดาห์ นายสุรเชษฐ์ได้มารับลูกสาวของตนไปเลี้ยงนาน 2 วัน ก่อนจะเอากลับมาคืน ลูกสาวกลับมีบาดเเผลที่เท้าทั้ง 2 ข้าง มีแผลถลอกที่คอ ศีรษะ นายสุรเชษฐ์อ้างว่าขับรถจักรยานยนต์เก่าที่ไม่มีเบาะรองนั่งสำหรับเด็กไปกับลูกแล้วเกิดปวดหัว ทำให้รถล้ม ลูกจึงมีบาดแผล แต่ตัวนายสุรเชษฐ์กลับไม่มีบาดแผลเลย จนกระทั่งเหตุการณ์วันที่ 24 เม.ย.65 ช่วงเวลาประมาณ 00.00 น. นายสุรเชษฐ์มาเคาะประตูบ้านเช่า ขอตนแต่งงาน แต่ตนปฏิเสธ เพราะไม่อยากเเต่งงานกับคนติดยาเสพติด จากนั้น ก็ขอพาลูก ๆ ทั้ง 2 คนไปซื้อเเฮมเบอร์เกอร์ แล้วจะพาไปเล่นที่บ้านแม่ ตอนแรกตนไม่อนุญาต เพราะลูกสาวไม่สบายอยู่ แต่นายสุรเชษฐ์ก็อ้างว่าคิดถึง อุ้มเด็กขึ้นมาจากเปล ก่อนจะออกจากบ้านไปพร้อมกับลูกชายคนโต
จากนั้น นายสุรเชษฐ์ก็เอาลูกมาคืนเวลา 01.00 น. ในสภาพคล้ายนอนหลับ ก่อนจะอ้างอีกว่าลูกไม่สบาย ที่สำคัญคือเสื้อผ้าของลูกสาวถูกเปลี่ยนชุด ไม่มีเสื้อผ้าชุดเก่ากลับมาด้วย นายสุรเชษฐ์ก็บอกกับตนว่าลูกสาวร้องไห้งอแงน่ารำคาญ จึงได้เอาไปขังไว้ในห้องน้ำ พอเสื้อเปียกจึงได้เปลี่ยนชุดให้ ตนไม่ได้เอะใจ คิดว่าลูกหลับ จึงได้พาเข้านอน คืนนั้นนานสุรเชษฐ์ก็นอนอยู่ข้าง ๆ ลูกสาวตนด้วย ส่วนตนนอนกับลูกชาย 7 ขวบ หลังจากนั้นเวลาประมาณ 04.00 น. มีเพื่อนของนายสุรเชษฐ์เคาะห้องเรียกตน เพื่อที่จะขอกุญเเจรถจักรยานยนต์จากนายสุรเชษฐ์ ประกอบกับตอนนั้นตนกำลังจะปลุกลูกมากินข้าวก็พบว่าลูกนอนนิ่งผิดปกติ ปรากฏว่าเด็กไม่หายใจแล้ว เท่าที่สังเกตบาดแผลของลูกมีบริเวณใบหน้าคล้ายถูกกัด รอยช้ำที่ลำคอ ไม่ทราบว่าคอหักหรือไม่ น้อง ๆ ของตนจึงกลับมาที่บ้านเช่า แล้วเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทยิงกันเกิดขึ้น แต่ตนก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ทำให้ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก
ทีมข่าวได้รับคลิปจาก น.ส.อาฟีสะห์ ซึ่งเป็นคลิปช่วงที่ลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ เป็นคลิปสั้น ๆ ที่ถ่ายไว้ รวมถึงบางส่วนก็ถ่ายเล่นกับลูกสาว