ความคืบหน้าในคดีการตายของแตงโม วันที่ 26 เม.ย. 65 เวลา 13.00 น. ตำรวจภูธรภาค 1 เตรียมที่จะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวสรุปสำนวน ก่อนที่จะส่งสำนวนไปยังอัยการนนทบุรี พร้อมทั้งจะนำตัวผู้ต้องหาไปมอบให้กับอัยการ
วันที่ 25 เม.ย. 65 สำหรับบรรยากาศที่อาคารเอนกประสงค์ ตำรวจภูธรภาค 1 เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและตรวจเช็กอุปกรณ์ ตั้งโต๊ะแถลง โดยมี พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รอง ผบช.ภ.1. นำแถลงข่าว จากนั้นจะมีตำรวจระดับภูธรจังหวัด และตำรวจเมืองนนทบุรีร่วมนั่งแถลงข่าว อย่างน้อย 7 คน และมีการคัดกรองบุคคลตามมาตรการป้องกันโควิด-19
ขณะที่การจัดเตรียมโต๊ะและเก้าอี้สำหรับผู้ที่มาร่วมรับฟังการแถลงข่าว มีการจัดเตรียมโต๊ะและตั้งป้ายกำกับเอาไว้ ฝั่งขวาสำหรับครอบครัวของแตงโม ที่จะเดินทางมาพร้อมกับทนายเดชา ส่วนพื้นที่ตรงกลางเป็นพื้นที่สำหรับสื่อมวลชน ส่วนฝั่งซ้ายสุดจัดเตรียมเอาไว้สำหรับผู้เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ที่ได้รับอนุญาตเฉพาะ โดยฝั่งซ้ายและขวาของเวทีมีการติดตั้งจอ LED ขนาดใหญ่
ระหว่างการจัดเตรียมสถานที่ เจ้าหน้าที่ได้มีการนำบอร์ดขนาดใหญ่ติดตั้งเบริเวณด้านข้าง ระบุหัวข้อว่า "อาลัยรัก น้องแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์" โทนสีชมพู-ขาว และมีภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะมีการเก็บหลักฐานและลงปฎิบัติหน้าที่ในคดีมีการนำมาติดเอาไว้ในบอร์ดดังกล่าว
ป้ายที่ 2 เป็นข้อมูลเกี่ยวกับพยานหลักฐาน พยานเอกสาร พยานวัตถุ ของกลาง คลิปวิดีโอ DNA โดยมีการลงรายละเอียดข้อมูลเอาไว้ คือผู้ถูกกล่าวหา 4 ปาก, ผู้ต้องหา 6 ปาก, พยานบุคคลรวม 124 ปาก แบ่งเป็นพยานผู้ที่ติดต่อกับคนบนเรือ 26 ปาก พยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอื่น 62 ปาก พยานผู้เชี่ยวชาญ 16 ปาก พยานเจ้าหน้าที่ 20 ปาก
ส่วนเอกสารและพยานวัตถุ 335 รายการ แบ่งเป็นพยานหลักฐานผลการตรวจ 47 ฉบับ พยานวัตถุ 88 ชิ้น คลิปวิดีโอ 200 ไฟล์ เอกสาร 2,000 ฉบับ
ด้านพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มีการลงภาพและข้อความระบุว่า "ครบรอบปี รวมตัวไปบินลงสมุย นั่งเรือไปพักที่บุรีรสา พงันของน้องเย็น คราวนี้ขาดมีมี่แต่เพิ่มน้องเปิ้ล มาได้คำตอบชัดเจนคดีแตงโมในทริปนี้เด็กเรือทุกคนตอบตรงกันหมดว่าคนหล่นท้ายเรือจะไปทางไหน ตรงกับบาดแผลที่พบชัดเจน เที่ยวแล้วยังได้งาน"
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชน อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มีโอกาสไปนั่งสปีดโบ๊ต พร้อมกับได้มีการพูดคุยกับผู้ที่อยู่กับเรือมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าจะไม่ใช่นักวิชาการ แต่คนที่ใช้จริงอยู่กับความเป็นจริงจะสามารถรู้เกี่ยวกับทิศทางกระแสน้ำ คลื่นน้ำ หรือการพัดสิ่งของเข้าและออกจากเรือ แต่จากสิ่งที่เห็นและได้เรียนรู้จากคนขับเรือจริง ปรากฏว่าสิ่งของที่ตกจากเรือจะมีลักษณะบานออก
โดยส่วนตัวเคยมีข้อสมมติฐานเกี่ยวกับแผลจากด้านหลังต้นขา ซึ่งไม่ใช่แผลหลักขาขวาข้างใน แต่เป็นแผลอื่นที่มีลักษณะคล้ายก้างปลา เป็นแผลตื้น ดังนั้นการนั่งเรือจึงทำให้ตนเองรู้เกี่ยวกับจุดตกจากบนเรือ ซึ่งคลายคำตอบแล้วว่าจะต้องตกบริเวณใด แต่ตนเองไม่สามารถที่จะเปิดเผยผ่านสื่อได้ เพียงแค่ให้รู้ว่า ตนเองทราบแล้วว่าตำแหน่งตกที่จะทำให้เกิดแผลคล้ายรอยก้างปลาบริเวณหลังต้นขาของแตงโม และเกิดจากวัตถุหรือส่วนตำแหน่งใดของเรือ กล่าวโดยสรุปคือหากตกท้ายเรือจะบานออก ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะทำให้เกิดรอยแผลคล้ายก้างปลาที่ต้นขาของแตงโม 10-20 แผลได้
จากการได้มีโอกาสไปนั่งสปีดโบ๊ตแล้วจะให้ยืนยันความสัมพันธ์ของแผลในร่างกายของแตงโมได้หรือไม่ แผลใหญ่ในร่างกายของแตงโมที่ขาขวา ส่วนตัวไม่สามารถตอบได้ เพราะตนเองเห็นการชันสูตรในครั้งที่ 2 เท่านั้น แต่คำยืนยันที่บอกว่าเป็นแผลลักษณะเฉพาะก้างปลา ส่วนตัวมีคำตอบแล้ว และในฐานะการทำหน้าที่ในฐานะกรรมาธิการ ชุดของหมอนิติเวช ยืนยันว่าไม่ได้จบแต่เพียงแค่นี้ แต่ตนเองก็จะรอดูการสรุปของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 26 เม.ย. ว่าจะมีการนำเสนอข้อมูลหรือสรุปในทิศทางใด จะต้องว่าตามหลักของนิติวิทยาศาสตร์ และข้อมูลเหล่านั้นก็จะถูกนำไปตอบกลับทางอัยการนนทบุรี
สำหรับในประเด็นจุดตกที่ชัดเจน ยืนยันว่าทางวิทยาศาสตร์บางครั้งก็ไม่สามารถที่จะยืนยันได้ชัดเจน ด้วยตนเองเห็นแนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ที่มีการตั้งประเด็นไปที่การไปนั่งปัสสาวะท้ายเรือ เป็นการฟังจากคำให้การของคนบนเรือ แต่ในมุมมองส่วนตัวกลับมองว่ามีความเป็นไปได้น้อย หรือมีความไม่น่าจะเป็น ทำให้จึงต้องคลายข้อสงสัยและหาคำตอบ ซึ่งก็ยังเป็นในมุมของทางวิทยาศาสตร์เหมือนเดิม ทำให้มีคำตอบตอบในประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับรอย 20 กว่าแผลได้ และจากการเห็นเรือ การได้ไปนั่งเรือสปีดโบ๊ตของจริง ทำให้ตอบทฤษฎีข้อสงสัยได้ มีความน่าจะเป็นไปได้สูงเกี่ยวกับบาดแผล และตำแหน่งการตก
ถ้าหากการสรุปผลในวันที่ 26 เม.ย. ไม่ได้มีการตอบหรือหาคำตอบเกี่ยวกับทางวิชาการ ตนเองในฐานะกรรมาธิการ และมีสถานะเป็นหมอนิติเวช ก็ยังยืนยันว่าสามารถที่จะใช้ขั้นตอนหรือวิธีการอื่น เกี่ยวข้องกับการเสนอข้อคิดเห็น และสามารถที่จะนำข้อมูลบางอย่างไปยื่นเพิ่มให้กับชั้นของอัยการได้ มันมีจังหวะอยู่แล้ว แต่ให้รออีกไม่นานจะรู้ว่าจะแทรกในช่วงระหว่างไหน และมีแนวทางดำเนินการต่อได้แน่นอน