สำหรับวันที่ 26 เม.ย. 65 ตำรวจภูธรภาค 1 นำโดย พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รอง ผบช.ภ.1. จะมีการนำแถลงข่าวการเสียชีวิตของ "แตงโม" หลังจากมีการรวบรวมหลักฐานผ่านมาแล้วกว่า 2 เดือนนั้น
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม กล่าวว่า สำหรับกรณีการฟังคำแถลงปิดคดีแตงโมพรุ่งนี้ ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ตำรวจกองบัญชาการภาค 1 ได้ยืนยันกับตนมาแล้วว่าจะมีการแถลงอะไรบ้าง แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ส่วนตัวหลังจากรับฟังเบื่องต้นก็รู้สึกพอใจ หากถามว่ามีการวางแผนอย่างไรบ้าง ตนในฐานะทนายความได้มีการประสานกับทางเจ้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา และช่วยกันแชร์ประสบการณ์ให้คำแนะนำกันมาตลอด เพราะฉะนั้นในส่วนของการทำงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนไม่มีข้อสงสัย
ส่วนการคาดหวังเรื่องคดีก็อย่างที่ชี้แจงในข้อมูลข้างต้นว่าทางตำรวจได้มีการแจ้งให้ทราบแล้ว ว่าจะมีการอธิบายตั้งแต่บุคคลทางด้านคดีเริ่มลงเรือหรือขณะอยู่บนเรือ มีการทะเลาะวิวาทหรือมีการลวนลามหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็น่าจะมีการนำหลักฐานบางส่วนมาแสดงให้เห็นชัดเจนได้บ้าง เช่น จุดตกเรืออยู่บริเวณท้ายเรือ ไม่ได้อยู่หัวเรือเหมือนตามที่บุคคลหิวแสงออกมาให้ข้อมูล ซึ่งเชื่อว่าในวันพรุ่งนี้คนในสังคมจะตาสว่าง ดังนั้นบุคคลที่หิวแสงก็จะหมดไป ส่วนหมอที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะไม่ได้ผ่าศพ ก็จะหมดความน่าเชื่อถือเอง
ทนายเดชา กล่าวต่อว่า กรณีคุณแม่แตงโม สำหรับวันพรุ่งนี้จากการพูดคุยอยู่ตลอด คุณแม่ไม่ได้มีความเครียดแต่อย่างใด ส่วนเรื่องพิธีศพคุณแตงโมนั้น ถ้าไม่ต้องผ่าต้องอะไรแล้ว คุณแม่ก็อยากจะรีบฌาปนกิจศพโดยเร็ว และได้บอกว่าได้เตรียมโลงศพที่แกะสลักไว้ให้น้องแตงโมด้วย ส่วนเรื่องเก็บไว้ต่อหรือไม่ คงต้องรอให้อัยการยื่นฟ้อง ไม่เกิน 30 วันหลังจากวันแถลงข่าว ส่วนทางฝั่งโน้นจะต่อสู้คดีก็ต้องไปสู้กันในชั้นศาล ตนไม่มีสิทธิ์ไปบอกเขาว่าเป็นผู้ต้องหา ตนเป็นแค่เพียงโจทย์ร่วม ต้องให้ศาลตัดสิน แต่ตนมั่นใจในพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่
กรณีที่หมอพรทิพย์เคยออกมาพูดว่าตำแหน่งการตกของคุณแตงโมไม่ใช่ท้ายเรือ ในส่วนนี้ตนมองว่าเป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาคุณหมอก็เคยถูกลงโทษในเรื่องจริยธรรมมาแล้วเมื่อปี พ.ศ.58 คดีห้างทอง กรณีการให้ความเห็นสาเหตุการตายที่ไม่เป็นไปตามหลักวิชาการทางการแพทย์ ในส่วนนี้เจ้าตัวน่าจะมีความเข็ดหลาบบ้าง เพราะฉะนั้นคดีแตงโม หมอพรทิพย์ไม่ได้เป็นผู้ผ่าศพเอง ก็ไม่ควรออกมาชี้แจงในเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต เพราะเสมือนเป็นการไม่ให้เกียรติหมอ หรือบุคลากรที่กำลังทำงานคดีนี้อยู่ ประกอบไปด้วย หมอ ตำรวจ และหมอกระทรวงยุติธรรม ดังนั้นระวังจะถูกลงโทษในเรื่องจริยธรรม เพราะมองแค่บาดแผลจะสามารถรู้ได้เลย
เหรอว่าผู้เสียชีวิตตกที่บริเวณหัวเรือหรือท้ายเรือ ทั้งนี้ ตนอยากบอกหมอพรทิพย์ว่า อย่าทำตัวเป็นหมอดูหมอเดา เพราะจะทำให้สังคมเกิดความไขว้เขว จึงอยากให้ระมัดระวังคำพูด ซึ่งหากเป็นไปได้แนะให้อยู่นิ่ง ๆ จะดีกว่า
"ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์" กู้ภัยที่กู้ร่างแตงโม เปิดใจกรณีการแถลงปิดคดีแตงโมว่า "พรุ่งนี้จะมีการแถลง มุมมองของพี่ น่าจะเป็นวาระที่ถึงเวลาแล้ว ถ้าถามตัวพี่เอง พี่คิดว่ายังไม่เคลียร์เท่าไรที่ประชาชนในประเทศยังคาใจเยอะแยะมากมาย แต่เราก็ต้องเชื่อในกระบวนการยุติธรรม และต้องเชื่อในกระบวนการพิสูจน์ที่เขาน่าจะตกผลึกเรียบร้อยแล้วว่าจะแถลงอย่างไร"
เวลาตนเองลงพื้นที่ต่าง ๆ ประชาชนมักจะมาสอบถามข่าวเกี่ยวกับแตงโมอยู่เสมอ เขามักจะบอกกันว่าไม่เชื่อเลยว่าจะเป็นอุบัติเหตุ แต่สำนวนคดีจะทำมาอย่างไรก็แล้วแต่ สำหรับตนก็ต้องเชื่อในกระบวนการยุติธรรม และศักยภาพในนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ที่เขาผ่าพิสูจน์เรียบร้อยแล้ว
ความรู้สึกจริง ๆ ของตนคือแตงโมจะได้ไปในภพภูมิที่ดี ไปอยู่ในอ้อมกอดของพระเจ้า เพราะน้องก็เคว้งคว้างมา 2 เดือน ต้องขอบคุณจริง ๆ หลายคนหลายฝ่ายที่ติดตามคดีมาตลอด บางคนอดหลับอดนอนติดตามตลอดเลย น้องแตงโมเป็นคนโชคดีที่มีคนรักมากมายเอาใจช่วย รักษาความยุติธรรม ไม่ว่าจะทนายความ เอกชนต่าง ๆ ที่เข้ามา สื่อมวลชนทุกช่องที่นำเสนอข่าวหาความยุติธรรมให้ 2 เดือนกับอีก 2 วัน ส่วนตัวพี่ก็ทำสุดความสามารถแล้วจริง ๆ เห็นอะไรก็พูดไปตามที่เห็น ไม่ได้ปรุงแต่งให้เกิดกระแส แค่พูดในสิ่งที่เห็นและเป็นสิ่งที่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ทุกอย่าง แต่ก็มีข้อหนึ่งที่พูดไปแล้วรู้สึกว่าตัวเองโง่เขลาเบาปัญญา เรื่องน้องฟันหัก ซึ่งที่เห็นตอนนั้นหักจริง ๆ แต่ถ้าวันนั้นตนเองเปลี่ยนคำพูดเป็นการตั้งคำถามว่าฟันน้องหักหรือเปล่า เพราะเห็นตอนนั้นคราบโคลนติดอยู่ในปาก และลิ้นจุกออกมา ข้างล่างไม่เห็น เห็นแต่ฟันบนเหมือนแตกหัก แล้วคุณหมอพรทิพย์ก็อธิบายให้ฟังแล้วว่าโคลนอาจไปติดน้องทำให้เหมือนฟันหัก พอล้างแล้วทำความสะอาดแล้วก็ไม่หัก ตนก็โอเค ตนพลาดไปนิด พิสูจน์แล้วก็โอเค ตอนมีเรื่องนี้ก็มีการตั้งคำถามมาพูดทำให้เสียรูปคดี พิสูจน์แล้วไม่ได้หัก มีทนายบางคนจะแจ้งความตนก็มี และก็มีทนายบางท่านโทรมาให้กำลังใจ เราก็ดีใจอุ่นใจ ที่มีคนรู้ว่าเราไม่หิวแสง เพียงแค่เห็นก็พูดก็เพื่อให้ความยุติธรรมกับแตงโม
ก่อนหน้านี้ 2-3 วันชาวโซเชียลได้มีการนำเรื่องราวลักษณะการเสียชีวิตของแตงโม กลับมาพูดอีกครั้งประเด็นมือกำทราย รอยบาดแผลต่าง ๆ และตั้งคำถามเกิดขึ้น ซึ่งมือน้องแตงโมเขากำทราย ตนเป็นคนคลี่มือน้องดู ก็มีเศษดิน เศษทราย แผลตรงน่องที่เป็นการเจาะมีรูเท่านิ้วโป้ง เคยพูดไปแล้วและมันพิสูจน์แล้วว่ามีจริง อย่างแผลที่โคนต้นขวาที่มันลึกมาก กว้างใหญ่มาก ใบหน้าตาปิดหนึ่งข้าง และตาทะลักหนึ่งข้าง มีช้ำเลือดช้ำหนอง ตนพูดและก็พิสูจน์ได้เช่นกัน ที่ยังไม่ชัดเจนในความรู้สึกตอนนี้ที่มีการนำกลับมาตั้งคำถามต่อสังคมอีกครั้ง พิสูจน์ในสิ่งที่พูดว่าจริง ต้องบอกว่านี่คือสิ่งที่พี่จะรอฟังในการแถลงพรุ่งนี้ อาจจะมีรายละเอียดทั้งหมดของรอยแผลว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และถ้าพรุ่งนี้ไม่มีการกล่าวถึงประเด็นที่สงสัยกัน จุดไหนก็แล้วแต่ว่ามันเกิดจากอะไร ค่อยมาคุยกันอีกที
การคาดหวังการแถลง ตนหวังไว้ว่าถ้าแถลงแล้วขอให้มีประโยชน์ ขอให้ประชาชนฟังแล้วรู้สึกว่ามีความน่าเชื่อถือ มีความมั่นใจแล้ว ว่าก้าวต่อไป ต้องบอกว่าอย่างที่คุณหมอพรทิพย์บอกว่าติดกระดุมผิดเม็ดแรก อย่าหวังผลในเม็ดสุดท้ายว่ามันจะได้ดี และเราจะดูในวันพรุ่งนี้การก้าวต่อไปหาความยุติธรรมให้น้อง ส่วนใน 5 คนที่อยู่บนเรือ ทุกสิ่งทุกอย่างยังอึมครึม ยังไม่มีใครรู้ว่าบนเรือเกิดอะไรขึ้น แต่ที่นี้จะดูสำนวนที่จะแถลงพรุ่งนี้ว่าร่างที่เกิดบาดแผลของแตงโมที่เกิดขึ้นในหลายที่เกิดจากอะไร สรุปแล้วตกน้ำจากทางไหน ท้ายเรือ หน้าเรือ ที่มีประเด็นต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งเรื่องที่เขาบอกว่าน้องโดนทำร้ายบนบกและเอามาทิ้งในน้ำ ตนก็อยากดูสำนวนพวกนี้
"แรงผลักดันครั้งนี้ต้องขอบคุณช่องอมรินทร์ทีวีที่ติดตามมาตลอด ติดตามจริงจังมาก ถ้าดูช่องอมรินทร์ก็จะรู้ตั้งแต่เกิดเหตุ จนพรุ่งนี้จะแถลงแล้ว ประชาชนสามารถดูย้อนหลังได้เลย คุณจะทราบเรื่องราว แต่มีสิ่งหนึ่งคุณจะไม่ได้ความจริงจาก 5 คนบนเรือ ขนาดนักข่าวยังไม่ทราบเลยว่าความจริงคืออะไร เขาเก่งกันมาก และก็ขอบคุณทุกช่องที่นำเสนอ ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ติดตามให้กำลังใจ"