จากกรณี นายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ แรมโบ้ “อดีตพระกาโตะ” พระนักเทศน์ชื่อดังออกมายอมรับว่าได้โอนเงินจำนวน 3 แสนบาทไปให้แก่พระคนกลาง เพื่อให้นำไปมอบให้ น.ส.ตอง สำหรับรักษาอาการป่วยไบโพลาร์นอกจากนี้ยังมีเงินอีกจำนวนหนึ่งเอาไว้สำหรับจ่ายให้สื่อท้องถิ่นเพื่อปิดข่าว
หลังจากสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีคำสั่งให้สำนักพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ตรวจสอบพระครูวินัยธรสุวิจักษณ์ปญญวโร หรือ พระอาจารย์ดอน พระลูกวัดวังตะวันออก ที่เป็นคนกลางเอาเงิน 3 แสนบาทเคลียร์นักข่าวให้ยุติการนำเสนอข่าว หลังจากมีการเผยแพร่หมายจับพระอาจารย์ดอนนั้น
ล่าสุด ช่วงเช้าวันที่ 6 พ.ค. 65 เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้เดินทางมาที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าทำการตั้งเรื่องสอบสวน เส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับอดีตพระกาโตะ โดยเริ่มจากการสอบกระบวนการอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
พ.ต.ท.สมเกียรติ พิมพกันต์ รองผกก.(สอบสวน) กก.5 บก.ปปป., พ.ต.ท.กรณ์ จัตตุลาภา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.5 บก.ปปป. ลงพื้นพี่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของสมีกาโตะ หรือ นายพงศกร จันทร์แก้ว เนื่องจากขณะเป็นพระลูกวัดวัดเพ็ญญาตินั้น ได้เบิกจ่ายเงินออกไปอย่างผิดปกติ จากบัญชีของทางวัดไปเป็นจำนวนเงินมากกว่า 6 แสนบาท เพื่อนำไปอุดปากนางสาวตอง และติดสินบนสื่อมวลชนในท้องที่
โดย พ.ต.ท.สมเกียรติ ได้เข้าพบกับนางสาวพัทยา ทองเสภี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอสอบสวนเกี่ยวกับระเบียบและขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินของวัดต่าง ๆ ที่สังกัดขึ้นตรงกับทางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเดินเข้าห้องประชุมชั้น 2 เป็นเวลานานเกือบ 2 ชม.เเล้ว
หลังจากรวบรวมข้อมูลและหลักฐานเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป.จะเดินทางไปกราบนมัสการ พระครูสิริธรรมมาภิรัตน์ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุต) ที่วัดมหาธาตุ ก่อนจะเดินทีงไปที่ วัดเพ็ญญาติ ต.กะเปียด อ.ฉวาง เพื่อเข้าสอบสวนพระสงฆ์ และบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทั้งหมด โดยบุคคลสำคัญที่จะเรียกสอบสวนในวันนี้คือนายบำรุง ยอดมณี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกะเปียด ซึ่งเป็นคนกลางที่คอยจัดแจงเรื่อง เงินฉาว 6 แสนบาทด้วย
จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังจากได้รับข้อมูลมาว่า พระธวัฒน์ จักกวโร หรือ หลวงพี่ย้อย ได้เดินทางมาที่โรงพัก เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนให้ฐานะพยาน หลังจากนั้นเมื่อช่วงเวลา 10.50 น. นายไพฑูรย์ อินทศิลา สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาที่โรงพักเช่นกัน เพื่อมาร่วมให้ปากคำในฐานะพยาน
ซึ่งในช่วงหนึ่งที่หลวงพี่ย้อยได้เดินออกจากห้องสอบสวน เพื่อขึ้นไปยังชั้น 2 ของโรงพัก ทีมข่าวได้พยายามที่จะสอบถามหลวงพี่ย้อยในประเด็นต่างๆ เเต่ไม่มีการตอบกลับใด ๆ ทั้งสิ้น ผ่านไปเพียง 10 นาที หลวงพี่ย้อยก็ฉันข้าวเสร็จ คาดว่าฉันข้าวไม่ค่อยลงเนื่องจากมีอาการแน่นหน้าอก
หลวงพี่ย้อย กล่าวว่า ในวันนี้ที่ตนได้มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกี่ยวกับเรื่องพระดอน พระคนกลาง ซึ่งในรายละเอียดตนได้เปิดเผยกับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว ซึ่งตนไม่มีความกังวลใจใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนประเด็นของอดีตพระกาโตะกับสีกาตอง ตนทำหน้าที่เสร็จสิ้นเเล้ว ขอยุติการให้ข้อมูลเพิ่มเติม ยืนยันไม่ได้มีความอิจฉาอดีตพระกาโตะเเต่อย่างใด ตนเพียงเเค่ออกมาปกป้องพระศาสนาเท่านั้น
ส่วนประเด็นที่ตนถูกขุดขุยเกี่ยวกับประวัติ ว่าเคยมีสีกาที่เป็นภรรยามารับออกจากวัดไปนั้น ตนยังยืนยันคำเดิมว่าเป็นเพียงการมารับออกไปหาหมอเท่านั้น ซึ่งระยะทางจากโรงเรียนที่ภรรยาเดินทางมา กว่าจะมาถึงก็ช่วงเย็นไปถึง รพ.ก็คว่ำ ตนมีใบรับรองเเพทย์ยืนยัน ส่วนภาพที่มีการนำเสนอออกไปนั้น อยากจะให้นักข่าวช่วยกันสังเกตว่าปลั๊กไฟคนละที่เเต่โซฟาตัวเดียวกัน อย่าขุดประเด็นเรื่องเก่าก่อนบวชออกมา ตนทราบตัวแล้วว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง ที่มีการออกมาแฉอดีตของตน แต่เรื่องค่อยว่ากันภายหลัง ตนขอไม่ตอบว่าหลังจากนี้จะสามารถไว้ใจใครได้อีกหรือไม่
หลวงพี่ย้อย กล่าวยืนยันอีกว่า หากตนเองมีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกันกับสมีกาโตะ ไม่ต้องให้เรื่องนี้ถึงใคร เเต่ตนจะพิจารณาตัวเองเเละสึกออกไปอย่างเเน่นอน ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ตนเคยบอกว่ามาบวชพระเนื่องจากบวชทำบุญให้ลูกที่เสียชีวิตในท้องภรรยา ตนพร้อมจะสึกได้ทุกเมื่อ ไม่ได้มีเจตนาจะขึ้นเป็นเจ้าอาวาส หรือต้องการดิสเครดิตอดีตพระกาโตะเเต่อย่างใด ตนไม่มีอะไรปกปิด ยินดีหากสังคมอยากจะตรวจสอบ เรื่องจะลาสิกขา ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตัดสินใจ เพราะวันที่ 14 พ.ค. นี้ จะครบรอบที่ลูกเสียชีวิต ขอคิดอีกครั้ง แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เป็นความตั้งใจเเต่เเรกเริ่มอยู่เเล้ว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านหลังหนึ่งใน ตำบลเขาเจียก อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง บ้านของพระครูวินัยธรสุวิจักษณ์ ปญญวโร หรือ พระอาจารย์ดอน ผช.เจ้าอาวาสวัดวังตะวันออก ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
นางสาวอิงฟ้า (นามสมมติ) ญาติของพระดอน กล่าวว่า สำหรับพระดอนบวชเป็นพระตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่ม แต่ตัวเองจำไม่ได้ว่าตอนอายุเท่าไรที่ผ่านมาพระดอนเป็นคนประพฤติดี ชอบช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เวลามีน้ำท่วมที่ไหน พระดอนก็จะให้ตัวเองมาช่วยทำข้าวกล่อง เพื่อไปแจกชาวบ้าน
ส่วนที่มีข่าวว่าอดีตพระกาโตะ เอาเงินจำนวน 300,000 บาท ไปให้พระดอน เพื่อให้พระดอนเป็นคนกลางเอาเงินไปให้นักข่าวนั้น ตัวเองก็คิดว่าไม่เป็นความจริง เพราะว่าพระดอนไม่มีอุปนิสัยแบบนั้น ตั้งแต่พระดอนเป็นข่าวเขาก็ไม่ได้ติดต่อมาหาครอบครัวแต่อย่างใด และไม่ได้กลับมาบ้านด้วย ตัวเองก็ได้แต่เป็นห่วงพ่อของพระดอน เนื่องจากพ่อพระดอนป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคไต และโรคเบาหวาน ตอนนี้ก็อาการทรุดหนัก หลังจากทราบข่าวพระดอน ทางญาติก็กลัวว่าถ้าเขาเสพข่าวพระดอนเข้ามาก ๆ เขาอาจเกิดอาการช็อกได้
ถามว่าพระดอนเคยมีประวัติคดีตามหมายศาลมาก่อนหน้านี้บ้างไหม ตัวเองก็ไม่ทราบเรื่องราวเหล่านี้ และอยากให้พระดอนมาชี้แจงเรื่องราวทั้งหมด ส่วนตัวเองก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าตอนนี้พระดอนไปอยู่ที่ไหน
ด้าน "พิมรี่พาย" แม่ค้าออนไลน์ชื่อดังมาก กล่าวช่วงหนึ่งถึงข่าวดังขณะที่ไลฟ์ขายของอยู่ ระบุความว่า แค่มีข่าวสีกากับพระ พับเบาะริมเขื่อนกันก็ดังได้แล้ว สมัยที่ตัวเองขายของแรก ๆ ต้องผ่านความลำบากมามาก กว่าจะมีชื่อเสียงและดังเหมือนกับทุกวันนี้ อยากจะย้ายศาสนาจริง ๆ รู้แบบนี้แล้วตอนเด็กน่าจะเขียนถึงอาชีพที่อยากโตมาเป็นก็คือ "พระสงฆ์"